วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่เราอุทิศถวายแด่แม่พระลูกประคำ ดังนั้นตลอดเดือนนี้ที่วัดของเราจัดให้มีการสวดลูกประคำทุกค่ำระหว่างวันจันทร์จนถึงวันศุกร์ โดยพิธีจะเริ่มต้นในเวลา 19.00 . ด้วยการตั้งศีลมหาสนิทบนพระแท่น และ สวดลูกประคำต่อหน้าศีลมหาสนิท 1 สาย และพิธีจะจบลงด้วยการอวยพรศีลมหาสนิท พ่อจึงอยากเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่สามารถ มาร่วมกันเฝ้าศีลมหาสนิท สวดลูกประคำ และ รับพรศีลมหาสนิท ร่วมกันที่วัด ถ้าพี่น้องไม่สะดวกที่จะมาร่วมพิธีที่วัด พ่อก็อยากเรียนเชิญให้พี่น้องได้สวดลูกประคำกันทุก ๆ วันตลอดเดือนตุลาคมนี้ พี่น้องสามารถสวดลูกประคำได้เสมอ ทั้งในระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือ ใช้เวลาสงบ ๆ ก่อนเข้าพักผ่อนหลับนอนในยามค่ำคืนก็ได้ ฝากชีวิต และ ครอบครัวของเราไว้ในการพิทักษ์รักษาของพระนางมารีย์ มารดาผู้อ่อนหวาน ผู้เสนอวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราทุกคน ความศรัทธาภักดีต่อพระนางมารีย์ พระมารดาของชาวเรา จะเสริมสร้างเราทุกคนให้มีความเข้มแข็งมั่นคงในความเชื่อมั่นในองค์พระเจ้า และ ในความอดทนต่อความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิต รวมไปถึงการมีความหวังที่เปี่ยมด้วยความปีติยินดีในพระพรแห่งการบรรเทาที่พระเจ้าจะโปรดให้กับเราในยาม ที่เราต้องเผชิญกับความยุ่งยากใจในปัญหาต่างๆ
                ขอพระนางมารีย์ แม่พระของเราวิงวอนเพื่อเราเสมอ Ave Maria

พ่อสุพจน์ 
               
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 3
ความยินดีของบรรดานักบุญในพิธีบูชาขอบพระคุณ

                St. Raymond of Penafort ท่านนักบุญเรย์มอนด์ อธิการเจ้าคณะของคณะดอมินิกัน ถวายพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธาร้อนรน ครั้งหนึ่ง ใบหน้าของท่านปรากฏแววรัศมีโชติช่วง เรืองรอง รอบ ๆศีรษะและบริเวณไหล่ของท่าน ในขณะที่ท่านสวดบทภาวนาเสกศีลจนถึงช่วงของการรับศีลมหาสนิท
                 Blessed Francis of Possadas บุญราศี ฟรังซิส แห่ง พอสซาดาส ก็เช่นกัน ใบหน้าของท่านฉายแววเรืองรองอย่างงดงามเป็นพิเศษ ราวกับว่าท่านมีชีวิตใหม่ วันหนึ่งขณะที่ท่านอ่านพระวาจาของพระเจ้าจากหนังสือพระวรสาร ริมฝีปากของท่านมีแสงสว่างสุกใสปรากฏขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกสองครั้งในโอกาสฉลองวันสมโภชพระจิตเจ้า ความเรืองรองสุกใสนี้ปรากฏขึ้นทั้งร่างของท่านทำให้พระแท่นบูชาสว่างไสว ขณะที่ท่านเปล่งคำภาวนาในบทเสกศีล องค์พระเจ้าตรัสกับท่านด้วยความรักอันเปี่ยมล้นว่า “ลูกเอ๋ย ฉันคือผู้เป็นอยู่” ภายหลังจากที่ท่านรับศีลมหาสนิทแล้ว ท่านบุญราศีฟรังซิส ก็รู้สึกว่าร่างของท่านได้รับการยกขึ้นลอยเหนือพื้นที่ท่านยืนอยู่
.................................................................................................

พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา พระวาจาวันนี้สอนเราว่า ความจริงและคำสอนของพระอาจจะทำให้เราเจ็บปวด แต่การยอมรับความจริงจะช่วยให้เราเป็นคนสะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น คำสอนของพระทำให้เราหลุดพ้นจากความเห็นแก่ตัว และมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงพระเยซูเจ้า จงอย่าแปลกใจหรือเที่ยวมองหาว่าใครปฏิเสธหรือไม่ยอมรับพระเจ้า จนลืมหันมามองตนเองว่า ทำไมตัวเราถึงไม่ยอมรับความจริง ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานในองค์กร บริษัท ร้านค้า โรงเรียน เรามักได้รับคำร้องเรียนต่าง ๆ มีจดหมายรายงานความประพฤติของพนักงาน มีจดหมายร้องเรียนการทำงานของพนักงานบริการ และโดยเฉพาะโรงเรียนผู้ปกครองมักจะเขียนจดหมายต่อว่าต่อขานว่าทำไมคุณครูถึงกับลงมือ ลงไม้กับเด็ก ให้ผู้อำนวยการจัดการครูคนนั้นอย่างเด็ดขาด ให้ช่วยตักเตือนและให้ครูคนนั้นแก้ไขโดยเร็ว แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่ยอมรับความจริงที่ครูรายงานความประพฤติของเด็กที่เป็นลูกหลานของตน กลับไม่ยอมรับความจริง จนกลายเป็นให้ท้ายเด็กให้ทำในสิ่งที่เลวร้ายและรุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าเอง พูดไปแล้วไม่น่าเชื่อว่า คนที่ทำดีแบบพระเยซูเจ้า จะไม่มีคนยอมรับ พระองค์เสด็จไปที่ไหนมีแต่ทำดีที่นั่น แต่การกระทำและคำพูดของพระองค์กลับไม่มีใครต้อนรับ ซ้ำร้ายยังถูกปฏิเสธด้วยการกระทำที่ชั่วร้ายโหดร้ายและทารุณแสนสาหัสจนถึงตาย ทำไมจิตใจคนจึงแข็งกระด้างเช่นนี้ หน้าด้านอยู่ในความชั่ว
    ในการยอมรับพระองค์เป็นการตอบรับความจริง ตอบรับความดีที่พระองค์มีให้เราอย่างเหลือล้นไม่ใช่เป็นการตอบรับแค่ปากหรือคำพูดเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองเลยทีเดียวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง กล้าที่จะยอมรับความจริง ยอมรับความอ่อนแอของตัวเรา ความผิดพลาด ความล้มเหลว ความบกพร่อง นิสัยที่ไม่ดีของตัวเรา หรือเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง  เพราะเรากลัวที่จะยอมรับความจริง กลัวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะมันเป็นอาการของคนไม่มีศาสนา คนไม่มีความเชื่อ คนที่ปฏิเสธพระ ไม่กล้าสู้ความจริง ไม่มีความเกรงใจ ไม่ยอมแบ่งผลคุณความดีคืนให้พระเจ้าตามกำหนด ซ้ำยังทำร้ายพระเยซูเจ้าเองอย่างโหดเหี้ยม คำสอนของพระวันนี้ท้าทายเราทุกคนว่า เป็นใครกันแน่ที่ปฏิเสธพระเยซูเจ้า หลายครั้งที่เราทำตัวเคร่งครัดในสายตาคนอื่น มีความรู้ทางศาสนาดี สอนอย่างกับว่าเป็นพระเยซูเองแต่ภายในหัวใจไม่เคยยอมรับพระองค์เลย เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาในชีวิตจับผิดผู้อื่นตลอดเวลา เข่นฆ่าลงโทษผู้อื่นอย่างโหดร้ายด้วยวิธีการต่าง ๆ ศรัทธาแท้ของเขาอยู่ที่ไหนกัน กิจการที่เขาทำก็เพียงเพื่อให้มุ่งผลประโยชน์ให้มากที่สุด ให้มีผู้ชื่นชมมีผลงานและเป็นที่ยอมรับ เป็นแค่ภายนอกแต่ไม่ได้ออกมาจากหัวใจแห่งความจริงวันนี้ใครกันแน่ที่พระเยซูเจ้าจะต้องลงโทษ คือคนที่บอกกับตนเองว่า “รู้แล้ว” แล้วทำเฉย ชอบเข้าข้างตัวเอง ทำตาบอด ไม่เคยมองความบกพร่องของตนเองเลย มัวแต่มองคนอื่นและเข่นฆ่าผู้อื่น เพราะแท้จริงเขาเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง แต่พระเจ้ามาเพื่อทำให้คนผิดกลับมาสู่ทางที่ถูกต้องด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ด้วยความเมตตา กรุณา และการให้อภัย ขอให้เรายอมรับความจริงและศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงเถิด

พ่อพงษ์เกษม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น