วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2019
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก...
        ก่อนอื่นใดหมดขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการเฉลิมฉลองวัดประจำปี 2019 ผ่านการเตรียมจิตใจตลอดสามสัปดาห์ด้วยบทเทศน์ตลอดทั้งเดือนจากคุณพ่อทุกองค์ และร่วมมิสซาฉลองวัดตั้งแต่เย็นวันเสาร์จนถึงมิสซารอบส่งท้ายเย็นวันอาทิตย์ ทำให้เราเห็นถึงพระคุณพระที่ยิ่งใหญ่ว่า “พระอวยพร”จนพวกเราเป็นอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
        วัด โรงพยาบาล สถานการศึกษา และที่อยู่อาศัยจนตลอดที่ทำมาหากิน พระประทานให้ทั้งสิ้น บุญคุณต้องทดแทน พระเป็นเจ้าไม่ได้หวังในเครื่องบูชาฝ่ายกายแต่ปรารถนาฝ่ายจิตใจ ทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องมอบจิตและกายไปด้วยกันเพื่อให้การขอบพระคุณพระเจ้า “เหมาะสมและชอบยิ่งนัก”ต่อหน้าพระองค์นับตั้งแต่เวลานี้และ “สักวันหนึ่ง”ต่อหน้าพระองค์อีกครั้งในสวรรค์
        ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ดูแลห้องน้ำไปจนถึงพระแท่นศักดิ์สิทธิ์ ต่างมีส่วนในพระธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้าทั้งสิ้น พระองค์ทรงเห็นถึงน้ำใจดีของทุกท่าน หวังในพระเมตตาของพระองค์อย่างเดียวคือให้ลูกเป็นเหมือนแกะตัวน้อยๆที่สุขชื่นยื่นยง เพราะพระองค์พระทัยดี
        การฉลองวัดจบปีที่ 62 ต่อไปเป็นปีที่ 63 อนาคตจะเป็นเช่นไร ขอพระเจ้าผู้มีพระทัยดีโปรดแนะนำคำสอนให้กับลูกๆทุกคน พระศาสนจักรในโลกศตวรรษที่ 21 กำลังถูกท้าทายด้วย “หุ่นยนต์”ซึ่งเป็นความสามารถของมนุษย์ที่ผลิตขึ้นมาแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งปราศจากจิตใจ หากมนุษย์นำเข้ามาโดยไม่ใส่จิตใจรักเพื่อนมนุษย์เข้าไป หุ่นยนต์เหล่านี้จะกลายเป็น “หอ(ก้อนหิน)บาเบล” ขึ้นมาอีกชื้นหนึ่งที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะต่างไม่มีจิตใจในเสียงของพระเจ้า พระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 15 เมื่อ 100 ปีที่แล้วจึงมี “สมณลิขิต”เตือนใจให้มนุษย์ทำงานแพร่ธรรมนำความรักของพระเจ้า ด้วยแรงงานตัวเล็กๆของมนุษย์นี่แหละเอาชนะใจโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลใบนี้ให้เปี่ยมล้นไปด้วยการมีเมตตาต่อกัน เป็นบทบัญญัติรักเพื่อนมนุษย์ที่เป็นรูปธรรม
        ดังนั้นเดือนกันยายน เราจะรักการอ่านพระวาจาของพระทุกวัน แบ่งปันบทสอนจากพระวาจาด้วยตัวอย่าง และขอบพระคุณพระเจ้าในพระวาจาที่สอนสั่งเพื่อทุกคนจะพูดกันรู้เรื่องด้วยจิตใจดีต่อกัน
       
       
ขอพระอวยพร
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


"ความสุภาพถ่อมตนเยี่ยงพระคริสตเจ้า, พระเจ้าพอพระทัย"

"ท่านทั้งหลายได้เข้าใกล้, เข้ามาถึงพระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล" (เทียบ ฮบ 12:18,24)
          พี่น้องชีวิตคริสตชนของเรา เราร่วมเดินทางกับพระเยซู เราเข้าใกล้ชีวิตของพระองค์ เราเดินติดตามพระองค์ เราพร้อมและให้ชีวิตของพระองค์ที่เปี่ยมด้วยความสุภาพถ่อมตนเปี่ยมด้วยเมตตารักเป็นต้นแบบชีวิตคริสตชนของเรา ด้วยการติดตามชีวิตของพระเยซู จะช่วยเราให้ใกล้ชิดพระเป็นเจ้าได้ดีที่สุด
เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”..... แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีวิต” (ลก 14:11,14)
           จงสุภาพถ่อมตนและจงใจกว้าง รู้จักแบ่งปันด้วยใจรักเมตตาต่อกัน แล้วพระเจ้า พระบิดาจะตอบแทนชดเชยให้ พระองค์จะรักและต้อนรับเราผู้มีใจสุภาพและเมตตาเข้าสู่สวรรค์บ้านของพระองค์
ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความถ่อมตนเถิด แล้วท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัล  ท่านยิ่งเป็นใหญ่มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องถ่อมตนลงมากเท่านั้น แล้วพระเจ้าจะโปรดปรานท่าน (บสร 3:17-18)
          ความสุภาพถ่อมตน ช่วยเราให้เราสามารถยอมรับความจริงกับชีวิตของตน ยอมรับข้อจำกัดของตน ยอมรับความอ่อนแอข้อบกพร่องผิดพลาดของตน แม้ว่าบางครั้งเราจะเริ่มต้นกิจการด้วยความปรารถนาดี แต่เราก็กล้าเผชิญหน้าและยอมรับผลที่ผิดพลาดนั้นได้
          ความสุภาพถ่อมตน ช่วยเราให้เรายอมรับแม้ผลจะออกมาไม่ได้ดังใจเราปรารถนา ด้วยเรามีข้อจำกัดรอบด้านทั้งจากตัวเราและจากสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ที่สุด ช่วยเราให้กล้าหวังผลที่ได้รับ และขอพระให้พระองค์ทรงเติมเต็มในส่วนที่เรายังอ่อนแอเรายังขาดไป

                                                        นกขุนทอง

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม2019
ฉลองวัดประจำปี 2019 นักบุญหลุยส์กษัตริย์


พี่น้องที่รัก...
        วันนี้เป็นวันฉลองวัดประจำปี 2019 ครบ 62 ปีก้าวต่อไปเป็นปีที่ 63
กำหนดการฉลองวัดเซนต์หลุยส์ 
มิสซาฉลองภายใน เย็นวันเสาร์เวลา 17.30 น.ประธาน คุณพ่อปิยะชาติ มกรครรภ์หลังมิสซามีแห่
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019 เวลา 10.00 น.
มิสซาเช้า  06.00 น. ตามปกติ
(งดรอบ 8.00 น.และ 12.00 น.)
มิสซาฉลองเวลา        10.00 น.ประธาน คุณพ่อปีแอร์ลาบอรี่ หลังมิสซา มีแห่รอบวัด
มิสซาเย็น  17.30 น. ตามปกติ ประธานคุณพ่อบริส
        เชิญชวนพี่น้องร่วมโมทนาคุณพระเป็นเจ้ารำลึกถึงบรรดามิชชันนารี พระสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสผู้เริ่มบุกเบิกซื้อที่ดิน สร้างสถานพยาบาล สร้างวัด และสร้างสถานศึกษา จนเป็นที่ประจักษ์สายตาและเป็นสถานที่เพื่อทำพันธกิจรักและรับใช้ ตามจิตตารมณ์พระวรสาร นับเป็นข่าวดีของพระคริสตเจ้าที่เป็นรูปธรรมสัมผัสได้จนถึงทุกวันนี้และจะมีต่อๆไป
        การรำลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี เนื่องในโอกาส 350 ปีมิสซังสยาม และ 120 ปี ของโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ 62 ปีของวัดเซนต์หลุยส์ 61 ปีของโรงเรียนเซนต์หลุยส์ และ 35 ปีของวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ถือเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต ที่บรรดาผู้เริ่ม ผู้สร้าง ผู้สานต่อ ได้ช่วยกันทำให้ก้อนอิฐมีชีวิตและเป็นอาณาจักรแห่งความรักที่สัมผัสได้ถึงการรับใช้กันและกัน
        ขอใช้โอกาสนี้ร่วมฉลองพร้อมกับพระสงฆ์สมาชิกมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสผู้ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะคุณพ่อปีแอร์ ลาบอรี่ ประธานมิสซาฉลองวัดในวันนี้ และบรรดาสมาชิกทุกท่าน เพื่อยืนยันถึงพันธกิจให้คนรุ่นนี้และต่อๆไปสืบสาน “ข่าวดี” ให้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่เกิดดอกออกผลขยับขยายเจริญก้าวต่อไป
        ขอความร่วมมือทุกท่านร่วมฉลองอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้วันนี้ฉลองอย่างมีสุขและอิ่มบุญด้วยการถวายทั้งกายและใจ เพื่อวัดของเราจะได้เจริญก้าวหน้าสมตามเจตนาของผู้เริ่มต้น
       
ขอพระอวยพร
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


บอกกล่าว เล่าเรื่อง
ฉลองวัดเซนต์หลุยส์ปีที่ 62
            สุขสันต์วันฉลองชุมชนความเชื่อวัดเซนต์หลุยส์ปีที่ 62 แด่พี่น้องทุกท่าน ถ้าจะเปรียบจำนวนปีเป็นช่วงอายุของคน ๆ นึงวัย 62 ก็ดูจะเป็นช่วงชีวิตคน ๆ นึง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อยทีเดียว คงเป็นช่วงวัยที่หลายคนอาจจะเก็บเกี่ยวความสุขจากความสำเร็จที่ได้ทำมาตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา คงเป็นช่วงวัยที่ได้มองเห็นลูก ๆ หลาน ๆ เติบโตขึ้นทั้งทางด้านวัยวุฒิและคุณวุฒิ เป็นช่วงวัยที่มีเวลาหยุดนิ่ง สงบทบทวนไตร่ตรองมองชีวิตที่ผ่านมา คงเป็นช่วงวัยที่เป็นหลักให้กับลูก ๆ หลาน ๆ ได้พึ่งพิง คงไม่ต่างจากชุมชนความเชื่อแห่งนี้ ระยะเวลา 62 ปีเป็นช่วงเวลาที่ผ่านอะไรมามากมาย เป็นเวลาที่มองเห็นความเติบโตในด้านต่าง ๆ อย่างชัดเจน
            เราเฉลิมฉลองชุมชนความเชื่อของเราในปีนี้เป็นปีที่ 62 ของวัดเซนต์หลุยส์ จริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ปีนี้ที่มีความหมาย แต่ฉลองวัดทุก ๆ ปี เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับพวกเราแต่ละคนเป็นพิเศษ สำหรับลูก ๆ หลาน ๆ ชุมชนความเชื่อวัดเซนต์หลุยส์แห่งนี้ที่เราจะร่วมใจกันขอบพระคุณพระเจ้าเป็นพิเศษสำหรับพระพรที่พระองค์ประทานให้กับชุมชนของเราเสมอมา และในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 62 ของวัดของเรา เป็น 62ปีที่สร้างความเชื่อให้กับพวกเราแต่ละคน เป็น 62ปีที่เป็นหลักพึ่งพิงทางใจให้กับพวกเราให้กับชุมชนใจกลางเมืองแห่งนี้
62ปี ที่ผ่านมาจากอดีตตั้งแต่พระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ซื้อที่ดินบริเวณนี้จนกระทั่งมาถึงสมัยของพระสังฆราชโชแรงที่ได้สร้างวัดหลังนี้ขึ้นและเรื่อยมาที่เรามีบรรดาพระสงฆ์มิสชันนารี พระสงฆ์สังฆมณฑลที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนจนถึงสมัยปัจจุบันที่มาทำหน้าที่ ณ ชุมชนความเชื่อแห่งนี้ เราเห็นความเจริญเติบโตทั้งด้านวัตถุนั่นคือ สถานที่ เรามีวัดที่สวยงาม สมพระเกียรติ มีความสะดวกเป็นระเบียบเรียบร้อยในด้านต่าง ๆ และไม่ใช่เพียงแค่ด้านวัตถุภายนอก แต่ควบคู่ไปกับความเชื่อทางด้านจิตใจของพี่น้องสัตบุรุษซึ่งเห็นได้จากความเชื่อศรัทธาที่ปรากฏให้เห็นความร่วมมือร่วมใจผ่านทางกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ของวัด ล้วนเป็นเครื่องหมายของการเติบโตควบคู่กันมาตลอด 62ปี ทั้งภายในและภายนอก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องหมายของการมีพระประทับอยู่ในชุมชนแห่งนี้เสมอมา
            62ปี เป็นช่วงเวลาที่เราจะขอบพระคุณพระเจ้าเป็นพิเศษ ที่พระองค์ประทานพระพรต่าง ๆ ที่จำเป็นให้กับชุมชนความเชื่อแห่งนี้ ผ่านทางบุคคลและเหตุการณ์ต่าง ๆ และขอพระพรของพระสำหรับชุมชนความเชื่อของเรานี้จะได้เป็นประจักษ์พยานที่มีชีวิตและเป็นเครื่องหมายความรักของพระที่เด่นชัดท่ามกลางสังคมเมืองแห่งนี้เสมอไป

ปลัดวัดสาทร

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2019


สมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ

 พี่น้องที่รัก...
        วันนี้เป็นสัปดาห์ที่สามสำหรับการเตรียมฉลองวัด ด้วยการสมโภชแม่รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ และเป็นวันรำลึกถึงพระสังฆราชมิเชลลังเยร์ เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเซนต์หลุยส์ตามบันทึกของหอจดหมายเหตุของสังฆมณฑลกรุงเทพฯระบุว่า “...วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1957 พระสังฆราชโชแรง สร้างวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เสร็จเรียบร้อย คุณพ่อมิเชลลังเยร์ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์ สาทร เป็นองค์แรก...” จึงสมควรอย่างยิ่งในวันนี้ฉลองแม่พระอัสสัมชัญ ขอน้อมรำลึกนึกถึงพระคุณพระคุณเจ้าซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกและผู้เริ่มก่อตั้งสถานศึกษาเซนต์หลุยส์ ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนเซนต์หลุยส์ และบางส่วนกลายเป็นวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
        การฉลองวัดในปีนี้ทำให้เรามีโอกาสนึกถึงพระคุณของบรรดามิชชันนารีผู้เริ่มต้นงานของโรงพยาบาล วัดและโรงเรียนที่เราเห็นถึงความเจริญในวันนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องขอบพระคุณพระเจ้าในมิสซาเพื่อระลึกถึงผู้มีพระคุณเหล่านี้ ด้วยการเป็นประจักษ์พยานรักรับใช้และเมตตา ตามเจตนารมณ์ของผู้เริ่มต้น ทั้งนี้เพื่อให้งานประกาศข่าวดีเจริญเติบโตขยายวงออกไปในเขตปริมณฑล
        กำหนดการฉลองวัดเซนต์หลุยส์วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019 เวลา 10.00 น.
มิสซาเช้า  06.00 น. ตามปกติ (งดรอบ 8.00 น.และ 12.00 น.)มิสซาเย็น 17.30 น. ตามปกติ
มิสซาฉลองเวลา        10.00 น.เริ่มพิธี(ประธาน คุณพ่อปีแอร์ลาบอรี่)
หมายเหตุ มิสซาฉลองภายในและมีแห่รอบวัด วันเสาร์เวลา 17.30 น.(ประธานคุณพ่อปิยะชาติ มกรครรภ์)
        เดือนสิงหาคมเป็นเดือนล้อมรอบพระแท่นใหญ่ โอกาสเตรียมฉลองวัดในช่วงเวลาพิเศษ 350 ปีของพระศาสนจักรในประเทศไทย(มิสซังสยาม) ทีมฉลองวัดในปีนี้คือการระลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี่ ผู้บุกเบิกชุมชนความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์
        เมื่อสัปดาห์แรก 4 สิงหาคม เราได้รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ซื้อที่ดินบริเวณเซนต์หลุยส์ทั้งหมด ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่เรามีที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดีมากและได้ใกล้ชิดพระเป็นเจ้ากับสถานที่ทำงาน
        สัปดาห์ที่สอง 11 สิงหาคม เราได้รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์โชแลง ผู้ก่อสร้างวัดเซนต์หลุยส์ สารวัดฉบับบนี้ได้แทรกรายละเอียดชีวิตและการเริ่มงานสำคัญของพระศาสนจักร เป็นพิเศษคือบริเวณวัดที่มีแต่ความเจริญกายและจิตใจ โดยเฉพาะวัดเซนต์หลุยส์กลายเป็นสถานที่รวมครอบครัวอันหลากหลายที่เจริญลูกหลานจวบจนถึงทุกวันนี้และเมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม เวลา 17.30 น.เรามีมิสซาร่วมกันที่วัดอัสสัมชัญเพื่อเคารพหลุมศพพระคุณเจ้าทั้งสอง
        สัปดาห์ที่สาม 18 สิงหาคม ในวันนี้เราจะรำลึกถึงพระสังฆราชมีแชลลังเยร์ เจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์องค์แรก ผู้เริ่มสถานศึกษาทั้งเด็กชายและเด็กหญิง เพื่อเห็นแก่ความรอดทางด้านวิญญาณพร้อมๆกับความเจริญทางด้านสติปัญญา มีหลายคนที่ได้ประสบความสำเร็จก็เพราะสถานศึกษาแห่งนี้
        วันอาทิตย์หน้าเวลา 10.00 น.เรามีนัดกันเพื่อเฉลิมฉลองวัดอย่างพร้อมเพรียงกัน
       

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


บอกกล่าว เล่าเรื่อง

สะท้อนเขา สะท้อนเรา
            ทุกวันนี้ดูเหมือนสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเวลาที่ขับขี่อยู่บนท้องถนน นอกจากตัวรถยนต์ อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆที่ควรมี สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือกล้องบันทึกหน้ารถ จะสำหรับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ก็กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนนำมาใช้ เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยเวลาขับขี่ เป็นต้นเวลาที่มีปัญหาต่าง ๆ เวลามีอุบัติเหตุ เจ้ากล้องเหล่านี้ก็จะช่วยไขข้อข้องใจต่าง ๆ เป็นหลักฐานสำคัญที่จะเป็นพยานให้กับเจ้าของรถนั้นได้อย่างชัดเจน เราเห็นได้จากข่าวต่าง ๆ ทุกวันนี้ก็อาศัยเจ้ากล้องหน้ารถนี่ละเป็นแหล่งข่าวสำคัญ เป็นต้นเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยได้ดีทีเดียวจากหลาย ๆกรณีที่ผ่านมา
            ได้ดูข่าวเมื่อไม่นานมานี้ เป็นข่าวที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เรื่องคนหัวร้อน ครั้งนี้เป็นเรื่องของชายขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วเจอรถเลี้ยวตัดหน้า แม้ไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น แต่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นขับตามรถยนต์คันดังกล่าวทันที พร้อมถ้อยคำด่าสารพัดต่อผู้ขับรถยนต์คันนั้น ภาพที่เห็นคือคนขับรถยนต์ยกมือกล่าวขอโทษแต่ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นก็ด่าว่าอีกนิดหน่อยจนคิดว่าเพียงพอจึงแยกย้ายกันไป ภาพทุกอย่างถูกบันทึกในกล้องตัวเล็กของผู้ขี่รถจักรยานยนต์คันนั้นและตัวเขาเองก็โพสต์คลิปนั้นเพื่อต่อว่ารถคันดังกล่าวที่เลี้ยวแบบไม่ระวัง ผู้คนในโลกโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายคนต่อว่าคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ถ้อยคำที่ไม่ดี และดูเหมือนแสดงการคุกคามกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนยอมรับผิด บางคนก็ต่อว่ารถยนต์คันนั้นที่ประมาท ฯลฯ
            จากคลิปวีดีโอนี้ที่น่าจะเป็นหลักฐานและเป็นประโยชน์สำหรับผู้เสียหายนั่นคือ ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ แต่ดูเหมือนคลิปวีดีโอกลายเป็นเครื่องประจานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่อาจดูใช้อารมณ์จนเกินไป จนมีผู้ไม่เห็นด้วยมากมายแม้เขาเองอาจไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดในสถานการณ์นี้ แต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมันสะท้อนชัดเจนผ่านวีดีโอที่ตัวเขาเองนั่นแหละเป็นผู้บันทึกจน กระทั่งมีผู้คนมากมายไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว
            พ่อไม่ได้สรุปว่าใครจะผิดจะถูกในสถานการณ์นี้ แต่สิ่งนี้ที่มันเป็นความเป็นจริงประการหนึ่งก็คือ กล้องหน้ารถมันบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเราจากมุมมองที่เราเห็น แต่มันไม่ได้สะท้อนภาพตัวของเราในขณะนั้นที่หลายครั้งกลายเป็นผู้ต้องหา ไม่ใช่จากความผิด แต่จากพฤติกรรมของเราเอง ซึ่งเรามักมองไม่เห็นตนเองในมุมนี้ แต่เป็นมุมที่คนอื่นอาจมองเห็น
            ชีวิตจริงของเราก็อาจไม่ต่างกันนัก เรามองเห็นความผิดพลาดของคนอื่นใหญ่เสมอ จากมุมมองของเรา แต่เรามักไม่ค่อยมองสะท้อนมุมเดียวกันมาที่ตัวของเรา สิ่งที่เรานำเสนอจึงกลายเป็นหลักฐานประจานตัวของเราเอง โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว เป็นเรื่องดีถ้าเราจะสะท้อนตัวของเราเองในมุมมองเดียวกัน ก่อนที่เราจะตัดสินผู้อื่นจากมุมมองของเรา
                                                                                   
ปลัดวัดสาทร

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม2019
สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก...
        พระวรสารในวันนี้ เชิญชวนให้เราเตรียมพร้อมอยู่เสมอ พระเยซูเจ้าใช้คำว่าตื่นเฝ้า หมายถึงการรอคอยอย่างตั้งอกตั้งใจ การเอาใจใส่เหมือนกำลังเตรียมรับเสด็จบุคคลสำคัญที่กำลังจะมา ความพร้อมจึงต้องเฝ้าระวัง ไม่เผลอไผลหรือปล่อยเวลาให้ผ่านไป และรีบเร่งเอาเมื่อใกล้ตัว เพราะว่าเวลานั้นเราจะไม่เหลืออะไรเลย เวลามีไม่พอ ไม่มีโอกาสและไม่ทันการ จึงสมควรที่พร้อมสรรพ ณ บัดนี้
        พ่อจึงขอใช้เวลาเตรียมฉลองวัดมาเทียบเคียงกับพระวาจาในวันนี้
        กำหนดการฉลองวัดเซนต์หลุยส์วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019 เวลา 10.00 น.
มิสซาเช้า  06.00 น. ตามปกติ (งดรอบ 8.00 น.และ 12.00 น.)มิสซาเย็น 17.30 น. ตามปกติ
มิสซาฉลองเวลา        10.00 น.เริ่มพิธี(ประธาน คุณพ่อปีแอร์ลาบอรี่)
หมายเหตุ มิสซาฉลองภายในและมีแห่รอบวัด วันเสาร์เวลา 17.30 น.(ประธานคุณพ่อปิยะชาติ มกรครรภ์)
        เดือนสิงหาคม จะเป็นเดือนล้อมรอบพระแท่นใหญ่ โอกาสเตรียมฉลองวัดในช่วงเวลาพิเศษ 350 ปีของพระศาสนจักรในประเทศไทย(มิสซังสยาม) ทีมฉลองวัดในปีนี้คือการระลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี่ ผู้บุกเบิกชุมชนความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์
        เมื่อสัปดาห์แรก 4 สิงหาคม เราได้รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ซื้อที่ดินบริเวณเซนต์หลุยส์ทั้งหมด ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่เรามีที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดีมากและได้ใกล้ชิดพระเป็นเจ้ากับสถานที่ทำงาน
        สัปดาห์ที่สอง 11 สิงหาคม     รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์โชแลง ผู้ก่อสร้างวัดเซนต์หลุยส์ สารวัดฉบับบนี้ได้แทรกรายละเอียดชีวิตและการเริ่มงานสำคัญของพระศาสนจักร เป็นพิเศษคือบริเวณวัดที่มีแต่ความเจริญกายและจิตใจ โดยเฉพาะวัดเซนต์หลุยส์กลายเป็นสถานที่รวมครอบครัวอันหลากหลายที่เจริญลูกหลานจวบจนถึงทุกวันนี้
        วันอังคารที่ 13 สิงหาคม เวลา 17.30 น.เรามีนัดพบกันที่วัดอัสสัมชัญเพื่อเคารพหลุมศพพระคุณเจ้าและร่วมมิสซาขอบพระคุณพระเจ้าด้วยกัน
        สัปดาห์ที่สาม 18 สิงหาคม เราจะรำลึกถึงพระสังฆราชมีแชลลังเยร์ เจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์องค์แรก ผู้เริ่มสถานศึกษาทั้งเด็กชายและเด็กหญิง เพื่อเห็นแก่ความรอดทางด้านวิญญาณพร้อมๆกับความเจริญทางด้านสติปัญญา มีหลายคนที่ได้ประสบความสำเร็จก็เพราะสถานศึกษาแห่งนี้

        จึงเชิญชวนทุกท่านเตรียมตัวและเตรียมใจสำหรับการฉลองวัดตั้งแต่บัดนี้

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม

บอกกล่าว เล่าเรื่อง
                จะ ด่า ไปทำไม
            พ่อมีโอกาสได้ฟังนักพูดคนหนึ่งพูดถึงประเด็น การด่า ฟังแล้วก็ทำให้ฉุกคิดและอยากนำมาแบ่งปันในฉบับนี้ พ่อเชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับคำด่าไม่มากก็น้อย ทั้งในบทบาทที่เราสวมบทเป็นผู้ด่า ซึ่งอาจมาจากความไม่ถูกใจกับเรื่องต่างๆ กับเหตุการณ์ต่างๆ จนทำให้เราต้องสวมบทบาทผู้ด่า หรืออีกมุมหนึ่งเราอาจเป็นผู้ถูกด่า จากความไม่รู้บ้าง จากความผิดพลาดในเรื่องต่างๆ หรือสถานการณ์ต่างๆจนตกเป็นจำเลยของการถูกด่าไปโดยปริยาย
            นักพูดท่านนี้ก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ไว้ว่า จะด่า ไปทำไม ได้อะไรจากการด่า นอกจากการได้ระบาย หรือการได้ระเบิดอารมณ์ของการที่ไม่ถูกใจออกมา อาจได้ความสะใจ แต่ผลที่ตามมามันอาจเยอะกว่า นั่นคือ มันอาจทิ้งบาดแผลในใจให้คนใดคนหนึ่งที่เป็นผู้รองรับคำด่านั้น มันอาจทำลายความสัมพันธ์ มันอาจบั่นทอนจิตใจและกำลังใจของผู้ถูกด่า ฯลฯ อีกหลากหลายที่จะตามมาจากคำด่าเพียงไม่กี่คำ ไม่กี่นาทีนั้น
            การด่าทำให้คุณดูฉลาดน้อยลง ดูจะเป็นวลีเด็ดที่ผู้พูดได้กล่าวไว้ ที่บอกอย่างนั้นมันเพราะว่าเมื่อเราด่า คำด่าเกิดจากอารมณ์ที่เหนือเหตุผล มันมาจากความโกรธ ยิ่งเราโกรธมาก สติเราก็ลดลง เมื่อเราเป็นคนที่ด่าบ่อยขึ้น ด่าเก่งขึ้น เอะอะด่ามันยิ่งเป็นเครื่องหมายว่าเรากำลังฝึกตัวเองให้มีสติน้อยลง เรากำลังปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและนี่เป็นเหตุให้เราดูฉลาดน้อยลง
            การด่า ทำให้อะไรดีขึ้นไม่ได้ เปลี่ยนใครไม่ได้จากการด่า มีงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นกล่าวไว้ว่า โดยธรรมชาติมนุษย์จะปิดกั้นตัวเองทันทีจากเรื่องนั้นเมื่อมีอะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ถูกใจ ไม่สบายใจ และผลที่ตามมาคือความรู้สึกต่อต้านที่เกิดขึ้นและมันไม่ส่งผลดีนัก เราไม่สามารถแก้ไขความผิดพลาดความไม่ถูกใจด้วยอารมณ์ได้ แต่เราจะแก้ไขและทำให้คนหนึ่งเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยสติและความเข้าใจ เมื่อไหร่ที่เราใช้สติ สิ่งที่ตามมาคือ เราจะใช้เหตุผลและความเข้าใจมากขึ้น เราจะช้าที่จะใช้ปากพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา และจะใช้เหตุผลที่ควรจะเป็นมากขึ้น เราจะเข้าใจว่า ไม่มีใครที่อยากทำผิดพลาด อยากโดนด่า แต่มันมีเหตุผลของเรื่องนั้น ๆ เสมอ ที่ทำให้เป็นแบบนั้น และเมื่อเราเห็นและเข้าใจ เราจะใช้วิธีการที่ดีกว่าการด่า เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น จากที่จะด่าอาจจะเปลี่ยนเป็นการพูดที่ทำให้เขาได้คิด จากที่จะด่าเปลี่ยนเป็นถ้อยคำที่เสริมสร้างแรงบวก จากที่จะด่าเปลี่ยนเป็นความหวังดีที่ส่งให้ และแม้ว่าสิ่งที่เราทำจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย แต่สิ่งที่เราจะได้แน่ ๆ จากการทำสิ่งนี้ นั่นก็คือ เราจะมีสติมากขึ้น และสติจะไม่ทำให้เราโง่ลง และที่ตามมาคือ เหตุผลและความเข้าใจจะทำให้จิตใจของเราสูงขึ้น
            มันง่ายที่จะระเบิดอารมณ์ด้วยคำด่า หรือได้ความสะใจจากคำด่า แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรจากการด่า เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเสียไป อาจมีหลายสถานการณ์ หลายปัจจัย ทำให้เราง่ายที่จะด่า แต่จะด่าไปทำไม ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นและไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ แต่ถ้าคำพูดดี ๆ จะทำให้เกิดอะไรดีขึ้นบ้าง หรืออย่างน้อยที่สุดเกิดผลกับตัวเราเองนั่นคือทำให้เรามีสติ ให้เรามีใจที่สูงขึ้นมันย่อมดีกว่ามิใช่หรือ

                                                                                                                        ปลัดวัดสาทร

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม2019
สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา (วันสื่อมวลชนสากลครั้งที่ 53)


พี่น้องที่รัก...
        กำหนดการฉลองวัดเซนต์หลุยส์วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2019 เวลา 10.00 น.
มิสซาเช้า  06.00 น. ตามปกติ (งดรอบ 8.00 น.และ 12.00 น.)มิสซาเย็น 17.30 น. ตามปกติ
มิสซาฉลองเวลา        10.00 น.เริ่มพิธี(ประธาน คุณพ่อปีแอร์ลาบอรี่)
        + ขบวนแห่จากบ้านพักพระสงฆ์ ผ่านโถงหน้าศาลา
        + กำยาน กางเขนและเทียน พระคัมภีร์ (ธงแห่ของแต่ละวัด)*** ขบวนพระสงฆ์ ประธาน ผู้ช่วยพิธีฯ
        + ภาคถวาย มี ผู้ถวายเครื่องบูชา 2 ชนิด ปัง เหล้าองุ่น
        + รับศีล พระสงฆ์ 12 องค์ เชิญศีลตามจุด
        + หลังรับศีล สวดภาวนาและเชิญนั่ง คำนับประธานอ่านและเด็ก 2 คนถือดอกไม้กับของที่ระลึก
        + ประธานกล่าวตอบ
พิธีแห่       + ถวายกำยานนักบุญหน้าวัด
        + ขบวนแห่ออก กำยาน กางเขนและเทียน ธงแห่ของแต่ละวัด
รูปนักบุญหลุยส์ พระสงฆ์และประธาน นักบวช และสัตบุรษทั่วไป
+ อัญเชิญรูปและบุษบกมาที่โถงหน้าศาลาหลุยส์ ถวายกำยาน และสวด
+ พิธีสิ้นสุด ถวายช่อดอกไม้
ทานอาหารหลังพิธีแห่จบ (ขอความร่วมมือทุกท่านรักษาความพอดี สะอาด และทิ้งขยะลงถุงดำ)
        + สัตบุรุษ บริเวณโถงหน้าวัดพระจิตเจ้า เฉพาะผู้สูงอายุบริเวณลานกาแฟ
หมายเหตุ มิสซาฉลองภายในและมีแห่รอบวัด วันเสาร์เวลา 17.30 น.(ประธานคุณพ่อปิยะชาติ มกรครรภ์)
        เดือนสิงหาคม จะเป็นเดือนล้อมรอบพระแท่นใหญ่ โอกาสฉลองวัดในช่วงเวลาพิเศษ 350 ปีของพระศาสนจักรในประเทศไทย(มิสซังสยาม) วันเสาร์อาทิตย์ 3 สัปดาห์ ทีมฉลองวัดในปีนี้คือการระลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี่ ผู้บุกเบิกชุมชนความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์
        สัปดาห์แรก    4 สิงหาคม    รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์เวย์ผู้ซื้อที่ดินบริเวณเซนต์หลุยส์ทั้งหมด
        สัปดาห์ที่สอง 11 สิงหาคม     รำลึกถึงพระสังฆราชหลุยส์โชแลง ผู้ก่อสร้างวัดเซนต์หลุยส์
        สัปดาห์ที่สาม 18 สิงหาคม     รำลึกถึงพระสังฆราชมีแชลลังเยร์ เจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์องค์แรก                      
        จึงเชิญชวนทุกท่านเตรียมตัวและเตรียมใจสำหรับการฉลองวัดตั้งแต่บัดนี้

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


                                   
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
สื่อสารมวลชนเครื่องมือในการสร้างความเป็นหนึ่ง
            คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของสื่อสารมวลชนกันแบบเต็มตัว เรารับข่าวสารและส่งข่าวสารกันแบบนาทีต่อนาที ชั่วโมงต่อชั่วโมง จนหลายๆครั้ง รับจนกระทั่งอินกับเรื่องนั้นมากไป มากไปกว่านั้นอีกอาจถึงขนาดดราม่าตามมากมายกับเรื่องต่าง ๆ นั้น จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับกันเลยก็ว่าได้ สื่อสารมวลชนไม่ว่ารูปแบบใด ๆ มีประโยชน์มากมายมหาศาลถ้าถูกใช้อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์ อาทิตย์นี้เป็นวันสื่อมวลชนสากล สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ออกสาสน์ในวันสื่อมวลชนสากลปีนี้ ในใจความตอนหนึ่งพระองค์ตรัสว่า ถ้าหากครอบครัวใช้สื่อในการเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น นั่นเป็นการใช้สื่อที่ถูกต้อง ถ้าหากวัดใช้สื่อในการประสานกิจกรรมต่าง ๆ เป็นสื่อกลางทำให้คริสตชนร่วมบูชาขอบพระคุณด้วยกัน เป็นการใช้สื่อที่ถูกต้อง ถ้าสื่อเป็นโอกาสในการแบ่งปันประสบการณ์ความดี ความงาม ความทุกข์ยากจากที่ห่างไกลและทำให้เราสวดภาวนาให้กันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นี่เป็นการใช้สื่อที่ถูกต้อง
            ในโลกปัจจุบัน ในสังคม หลายครั้ง สื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือของการโจมตีกัน เพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างจนสร้างความแตกแยกสร้างความเสียหายมากกว่าจะเป็นประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็นจนทำให้คุณค่าและประโยชน์ที่แท้จริงลดน้อยลงไป ในวันสื่อมวลชนสากลในวันนี้น่าจะทำให้เราตระหนักถึงการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ อย่างถูกต้อง อย่างเป็นประโยชน์ เพราะนี่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะเข้าไปถึงผู้คนในโลกยุคปัจจุบันอย่างง่ายดาย พ่อขอยกบทภาวนาเพื่อสื่อมวลชนตอนหนึ่งและเชิญชวนทุกท่านได้ภาวนาไปด้วยกันเพื่อสื่อมวลชนจะได้เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในสังคมของเรา
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดให้มนุษย์รู้จักใช้เครื่องมือสื่อสารมวลชนเหล่านี้  เป็นเครื่องมือ
เป็นสื่อนำความรัก  มาสู่จิตใจที่มีความเกลียดชัง,เป็นสื่อนำความจริง  มาสู่ที่ที่มีการหลอกลวง,
เป็นสื่อนำความยินดี  มาสู่ผู้ที่กำลังเศร้าโศก,เป็นสื่อนำแสงสว่าง  มาสู่ผู้ที่อยู่ในความมืด,
เป็นสื่อนำความหวัง  มาสู่ผู้ที่กำลังท้อแท้,เป็นสื่อนำชีวิต  มาสู่ผู้ที่อยู่ในความตาย,
เป็นสื่อนำความเชื่อมั่น  มาสู่ผู้ที่สงสัย,เป็นสื่อนำความเป็นหนึ่งเดียว  มาสู่ที่ที่มีการแตกแยก,
และเป็นสื่อนำความรอดตลอดนิรันดร์  สำหรับตนเองและมนุษยโลก
ขอโปรดให้ผู้ที่ได้เสียสละ  ทุ่มเทเพื่อสร้างสรรค์สื่อที่ดีแก่สังคม  ได้รับพระพรตลอดนิรันดรของพระองค์  และขอให้มนุษย์ในฐานะผู้รับสื่อ  สามารถแยกแยะ  และเลือกรับสื่อที่เหมาะสม  เป็นประโยชน์แก่ตัวเราและสังคมด้วยเถิด  อาแมน
                                                                                                ปลัดวัดสาทร