วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2014

พี่น้องที่รัก
                อาทิตย์นี้เราได้มีโอกาสระลึกถึงดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ และ เหล่าบรรดานักบุญที่ได้บรรลุถึงเมืองสวรรค์แล้ว ในเดือนพฤศจิกายนนี้ พระศาสนจักรเชิญชวนเราให้หันมาพิจารณาคำสอนของพระศาสนจักรที่สอนเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้ศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อในเรื่องนี้คือพระศาสนจักรประกอบไปด้วย เรามนุษย์ที่ยังคงเดินอยู่บนเส้นทางแสวงบุญไปสู่เมืองสวรรค์  และ ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับที่ผ่านชีวิตในโลกนี้ไปแล้ว แต่ยังรอคอยที่จะเข้าสวรรค์อยู่ในไฟชำระ และ เหล่าบรรดานักบุญในสวรรค์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าในความสุขในสวรรค์นิรันดรแล้ว สมาชิกของพระศาสนจักรทั้งสามหมู่เหล่านี้ต่างเกื้อกูลกัน โดยเราที่ยังมีชีวิตอยู่ภาวนาเพื่อบรรดาวิญญาณในไฟชำระ การภาวนาหมายถึง การสวดภาวนาด้วยบทภาวนาก็ดี การขอมิสซาอุทิศให้ก็ดี การทำพระคุณการุณย์อุทิศให้ก็ดี กิจการเหล่านี้มีประโยชน์ต่อดวงวิญญาณในไฟชำระที่เราอุทิศให้ทั้งนั้น เมื่อวิญญาณในไฟชำระพ้นจากการชำระให้สะอาดและเข้าสวรรค์แล้ว ก็จะวิงวอนพระเจ้าโปรดเมตตากรุณา ประทานพระพรเพื่อช่วยเหลือเราในการเดินทางแสวงบุญบนโลกของเรานั่นเอง

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 4
พระสงฆ์ ผู้ที่มีความสุขที่สุด

                ไม่เพียงแต่บรรดานักบุญเท่านั้นที่สามารถบรรลุถึงความสุข ความพึงพอใจ และ เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีในการมีส่วนร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ แต่บรรดาพระสงฆ์ผู้ถวายพิธีบูชาขอบพระคุณจะเข้าถึงความสุขนี้เช่นกัน ถ้าพระสงฆ์ตระหนักว่า
                1. ท่านเป็นบุคคลที่ได้ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากที่สุด ท่านมีโอกาสได้ประคองพระองค์ไว้ในมือของท่านเอง มองพระองค์ และสนทนากับพระองค์ และ พระองค์ได้เพ่งมองมายังหัวใจของท่านด้วยความรัก
                2. พระสงฆ์เป็นผู้มอบสิริมงคลและความยินดีที่ยิ่งใหญ่แด่พระองค์ นับเป็นสิริมงคลที่ยิ่งใหญ่เลยโพ้นไปกว่าเหล่าเทวดาและนักบุญในสวรรค์ถวายแด่พระองค์เสียอีก
                3. พระสงฆ์เป็นหนทางผ่านของพระพรมากมายมายังโลกของเรา
                4. พระสงฆ์ยังได้รับการเฝ้าล้อมโดยเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าที่คอยเฝ้ามองท่านในทุกท่วงท่า ในขณะที่ท่านกำลังถวายพิธีบูชาขอบพระคุณอยู่
                5. พระสงฆ์ยังเป็นผู้ที่สามารถคอยช่วยเหลือ บรรเทาใจ และ มอบความยินดีให้กับเหล่าดวงวิญญาณในไฟชำระอีกด้วย
                 พระสงฆ์ผู้มีปรีชาญาณและทุ่มเทอุทิศตนเมื่อตระหนักถึงความจริงดังกล่าวข้างต้น เขาย่อมเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความยินดีมิใช่หรือ
................................................................................................................

 สมโภชนักบุญทั้งหลาย
 
           พี่น้องครับวันนี้เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย ใครก็ตามที่อยู่บนสวรรค์ เราสมโภชทั้งหมด เราสวดภาวนาขอให้ท่านช่วยเรา เป็นวันที่เราคริสตชนบนโลกนี้ประกาศข้อความเชื่อที่สำคัญๆ หลายข้อในเวลาเดียวกัน 
     ข้อแรก เราประกาศว่า สวรรค์และนรกมีอยู่จริง
     ข้อสอง เราประกาศว่า เราทุกคนสามารถไปสวรรค์ได้
     ข้อสาม เราประกาศว่า พระเยซูเจ้าคือหนทางแห่งความรอดที่แท้จริงของเรา
     ข้อสี่ เราประกาศว่า บรรดานักบุญบนสวรรค์สามารถช่วยเราได้

ดังนั้นเราจึงเรียกความสัมพันธ์นี้ว่า “สหพันธ์นักบุญ” หรือคำศัพท์ใหม่ที่ใช้กันก็คือ “ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์” และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้พวกเราซึ่งมีชีวิตอยู่บนโลก สามารถสวดภาวนา ขอมิสซา ทำพระคุณการุณย์ ช่วยวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระได้ด้วย

และในวันนี้เราสมโภชบรรดานักบุญทั้งหลาย อยากจะฝากข้อความหนึ่งไว้ว่า “ใครๆ ก็สามารถเป็นนักบุญได้” ฟังประโยคนี้ดูแล้ว รู้สึกขัดใจเราไหม.. เพราะบางครั้งเราคิดว่าการเป็นนักบุญคงไม่ใช่เราแน่ๆ  ไม่มีทางเป็นไปได้  แต่พี่น้องครับนักบุญทั้งหลายทั้งปวง พวกเขาก็เคยเป็นคนบาปมาก่อน บางคนก็เป็นคนธรรมดา บางคนมีอายุน้อยหรืออายุมากก็เป็นนักบุญ  ไม่ว่าจะมีอาชีพหรือไม่มีอาชีพ มีบ้านหรือไม่มีบ้าน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร พระสงฆ์ ฆราวาส นักบวช กษัตริย์ ราชินี ขอทาน ทหาร นักรบ ไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่ ก็เป็นนักบุญได้ ขอแค่เรามีเพียงสิ่งเดียว คือ หัวใจที่พร้อมจะรักพระและเพื่อนพี่น้อง เราก็เป็นนักบุญได้ตั้งแต่บนโลกนี้แล้วนะครับ


ถ้าใครๆ เขาสามารถเป็นนักบุญได้ ทำไมฉันจะเป็นไม่ได้   --  นักบุญออกัสติน”


คพ.วิทยา

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2514

พี่น้องที่รัก
                เดือนตุลาคมเดือนแม่พระลูกประคำกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วครับ แม้ว่าเรากำลังจะจบเดือนตุลาคม แต่ก็ไม่อยากให้พี่น้องจบการสวดสายประคำไว้เพียงแค่เดือนนี้ของปีนะครับ วันนี้พ่อขอนำคำแนะนำในการสวดภาวนาของนักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอ มองฟอร์ต ผู้มีความศรัทธาต่อแม่พระมากมาฝากพี่น้องครับ
                ท่านนักบุญให้คำแนะนำว่า เมื่อเริ่มสวดภาวนา ให้ถวายคำอธิษฐานวิงวอนขอ แด่แม่พระและตั้งใจสวดภาวนาอย่างดี ภาวนาด้วยหัวใจ ภาวนาด้วยความรักพระ ภาวนาด้วยความสุภาพถ่อมตน และถ่อมใจ ภาวนาช้า ๆ นึกถึงคำภาวนาแต่ละคำ ให้แต่ละคำมีความหมายเต็มไปด้วยความรัก ออกมาจากหัวใจ เหมือนเราคุยกับคนที่เรารัก ไม่สวดภาวนาแบบเคยชิน สวดภาวนาแต่ปากแต่ใจล่องลอย ไม่รีบสวดภาวนา ให้เรานึกเสมอว่า ทุกอย่างที่เราทำนี้เพื่อพระ เพื่อผู้อื่น และเพื่อวิญญาณในไฟชำระ ไม่ใช่ภาวนาเพื่อความดี หรือประโยชน์ของตนเอง โดยเริ่มด้วยคำเสนอวิงวอนตามความต้องการสวดภาวนาขอพรพระให้กับผู้ใด เรื่องอะไรบ้าง อธิษฐานวิงวอนตั้งแต่เริ่มต้นเลย และในเวลาภาวนา ตั้งใจภาวนาอย่างเดียวไม่ต้องมัวพะวงเรื่องคำอธิษฐานวิงวอนขออีก เสร็จแล้ว ตามด้วยการถวายคำภาวนาแด่แม่พระดังนี้....
                “ข้าแต่พระแม่มารีอาพระมารดาที่สุดรักของลูก ลูกขอถวายคำภาวนาและคำวอนขอของลูกนี้แด่พระแม่ ขอพระแม่ทรงตบแต่งให้สวยงาม ขอพระจิตเจ้า ผู้ทรงสถิตอยู่ในพระแม่ บันดาลให้คำภาวนาและคำวอนขอของลูกนี้ศักดิ์สิทธิ์ไปและขอให้คำภาวนาและคำวอนขอของลูกร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระจิตเจ้าและพระแม่ ขอพระแม่ทรงถวายคำภาวนาและคำวอนขอของลูกนี้ แด่พระเยซูเจ้าพระบุตรสุดที่รักของพระแม่ พระเป็นเจ้า พระผู้ไถ่ และพระเชษฐาของลูก และขอพระเยซูเจ้าทรงถวายคำภาวนาและคำวอนขอของลูกนี้แด่พระบิดาเจ้าสวรรค์นิรันดร ผู้ทรงพระทัยอารีและทรงรักลูก ขอพระองค์โปรดทรงพระเมตตากรุณาสงสาร ตามพระประสงค์ของพระองค์ และโปรดสดับฟังคำวอนขอของลูกแล้วแต่จะทรงพระกรุณา ลูกวอนขอทั้งนี้ในพระนามของพระเยซูเจ้าพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ โดยคำเสนอวิงวอนของพระแม่มารีย์ เทวดา ทูตสวรรค์ นักบุญทั้งหลาย ท่านอารักขเทวดา และวิญญาณในไฟชำระ ลูกขอให้คำภาวนาและคำวอนขอของลูกนี้ ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับของคริสตชนทั่วโลกผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่รักพระองค์และผู้ที่สวดภาวนาทุกท่าน อาแมน
                นักบุญหลุยส์ มารีย์ เดอ มองฟอร์ต ถวายคำภาวนาเช่นนี้ทำให้คำภาวนาของท่านนักบุญได้รับพระพร และพระหรรษทานเพิ่มทวีคูณมหาศาล
                เมื่อเราถวายคำภาวนาแด่แม่พระเช่นนี้ แม่พระจะเป็นผู้แจกจ่ายพระพร และ พระหรรษทานแก่ผู้ที่ต้องการทุกคน ครอบครัวของเรา เพื่อนพี่น้องของเรา ทุกคนที่เรารัก และวิญญาณในไฟชำระไม่ต้องห่วงว่าผู้ที่เราสวดให้จะไม่ได้รับอย่างเพียงพอ เพราะแม่พระทรงทราบดีว่าใครต้องการมาก ใครต้องการน้อย และแม่พระยังมีพระหรรษทานเพิ่มพูนให้ เมื่อบางคนต้องการมากและเราสวดให้ไม่พอ แม่พระทรงเป็นผู้แจกจ่ายพระพรและพระหรรษทานที่ดีที่สุด เพราะแม่พระทรงเปี่ยมด้วยพระหรรษทาน ทรงเปี่ยมด้วยความรัก ความเอาพระทัยใส่และความเมตตาสงสาร แม่พระคอยดูแลลูก ๆ ของแม่ในโลกนี้ แม่พระเป็นแม่สวรรค์ที่รักใคร่และห่วงใยลูก ๆ มาก มากจนกระทั่งแม่ของเราในโลกนี้ไม่สามารถเปรียบได้เลย
                วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม ขอเรียนเชิญพี่น้องมาร่วมกันสรรเสริญ เทิดเกียรติแม่พระ พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเริ่มในเวลา 19.00 . หลังพิธีมีการแห่พระรูปแม่พระรอบวัด

พ่อสุพจน์ 
.......................................................................................................................................
               
พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา พระวาจาวันนี้สอนเราว่า คริสตชนจำเป็นต้องเชื่อฟังพระคัมภีร์หรือไม่ กุญแจที่สำคัญซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจในเรื่องนี้คือ พระเจ้าทรงมอบพระวาจาของพระให้กับชนชาวอิสราเอล เพื่อให้ชาวอิสราเอลรู้จักพระเจ้า รู้แล้วเชื่อฟังพระเจ้าและทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย บทบัญญัติต่างๆเป็นเรื่องของการแสดงให้เห็นว่าจะนมัสการพระเจ้าอย่างไร ระบบการถวายเครื่องสักการบูชาแด่พระเจ้า เพื่อทำให้ชาวอิสราเอลแตกต่างจากชนชาติอื่นๆ เป็นชนชาติพิเศษ เป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร ชีวิตของเราจึงอยู่ภายใต้ความคุ้มครองและการนำของพระเจ้าจนเป็นชีวิต พูดง่ายๆคือเราทุกคนล้วนอยู่ในความรักของพระองค์ตลอดเวลา พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า ในโลกนี้ไม่มีความรักไหน ใหญ่ยิ่งกว่าการยอมตายแทนคนรัก”  (ยน.15:13) ที่ไหนมีรัก ทีนั่นไม่ลำบาก” (น.เอากุสติน) ดังนั้น ท่านต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน สุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่านนี่คือบทบัญญัติแรก บัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกันคือ ท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง”  (มธ.22:37-38) ความรักมีหลายอย่าง รักระหว่าง พ่อ แม่ ลูก พี่ ป้า น้า อา หลาน คู่รัก คู่หมั่น สามีภรรยา พระสงฆ์รักสัตบุรุษพยายามช่วยให้ไปสวรรค์ ความรักแท้ คือความรักไม่เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ เพื่อหวังประโยชน์ของตัวเป็นใหญ่ ความรักแท้คือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ระหว่างคนสองคน หรือหลายๆคน มารวมกันโดยมีเครื่องหมายภายนอกคือ ยอม อดทน ช่วยเหลือ ทำทุกอย่างให้ด้วยดี ให้อภัย เพื่อให้เขาเป็นสุข เป็นที่น่าเสียดายที่คนสมัยนี้รักไม่เป็น และมักตัดสินปัญหาความรักด้วยความรุนแรง เพราะคิดว่าไม่มีใครรัก ความรักเป็นความสุขหรือความทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือมองความรักอย่างไร เพื่อไม่ให้ความรักเป็นทุกข์กลับมาทำลายตัวเราเอง และคนรอบข้าง ความรักเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเองและคนที่เรารักมีความสุขด้วย
    ส่วนใหญ่คนเรามีปัญหาเพราะเรารักไม่เป็น จึงไปทำให้เขาหรือตัวเราเป็นทุกข์ ทางจิตวิทยาบอกว่าความรักดีต่อสุขภาพ หรือถูกต่อสุขภาพจิต ดังนั้นความรักจึงควรเริ่มจากตัวเองก่อนเสมอ รักตัวเอง มิใช่หลงตัวเอง เห็นแก่ตัว ไม่สนใจคนอื่น แต่รู้จักคุณค่าแท้ในตัวเองอย่างเพียงพอ แสดงออกให้เห็นถึงคุณค่าของตัวเอง โดยให้ความรักต่อผู้อื่น ลดอิทธิพลในตัวเองในน้อยลงที่สุด ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุขเสมอ ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของตัวเรา และเมื่อคนอื่นไม่รักเรา เราก็เศร้าและน้อยใจ ที่เห็นคนอื่นมีคนรักมากมายและเป็นสุข  คนบางคนทำตัวไม่ถูก ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน มีทิฐิ ไม่ยอมปรับตัว ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ชอบทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ คิดว่าตนเองเองดีแต่เพียงคนเดียว ไม่เคยมองความต้องการของผู้อื่น ไม่มีความเกรงใจ คิดว่าตัวเองมีความสามารถแทบทุกเรื่องจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น พระเจ้าเป็นต้นแบบของความรักที่เราทุกคนต้องเลียนแบบ เราได้เรียนรู้จากพระคัมภีร์ ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ปฏิบัติจนหลายปี การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลย คงไม่มีตาทิพย์ที่ไหนมอเห็น แต่ต้องแสดงออกด้วยสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา รักเพื่อนพี่น้องเหมือนที่พระเจ้าทรงรักเรา แล้วจะไม่ต้องมาเสียใจ


พ่อพงษ์เกษม 

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลราคม 2014

พี่น้องที่รัก
                สัปดาห์นี้พ่อขอนำ เรื่องแนวการปฏิบัติตัวเมื่อมาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณมานำเสนอให้พี่น้องได้อ่าน เผื่อว่าจะมีอะไรที่ช่วยให้เราปรับปรุงปฏิบัติตนได้เหมาะสมยิ่งขึ้นเมื่อมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณที่วัด
            ข้อปฏิบัติเมื่อมาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ
            1. เตรียมตัวด้วยการละเว้นการทานอาหาร  เพื่อจะเป็นการเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างดี พระศาสนจักรกำหนดให้งดหรือละเว้นการรับประทานอาหารก่อนการรับศีลมหาสนิท 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ข้อกำหนดนี้ยกเว้นได้สำหรับ ผู้ป่วย หรือ ผู้อาวุโส
            2. มาวัดแต่เนิ่น ๆ เพื่อสำรวมสมาธิ  มีคนเคยถามว่า "การมาถึงวัดช้า หรือ สาย หมายความว่าอย่างไร?” คำตอบคือ ถ้าเรามาวัด "ไม่ทันการเริ่มเดชะพระนาม" ก็ถือว่ามาวัดสายแล้ว  เพราะพิธีบูชาขอบพระคุณเริ่มต้นตั้งแต่ขบวนแห่ของพิธีเริ่มเดินออกมา พ่อจึงอยากแนะนำให้พี่น้องมาถึงวัดล่วงหน้า ก่อนพิธีจะเริ่มสัก 10-15 นาที เพื่อจะมีเวลาสวดภาวนาและสำรวมจิตใจ และเริ่มพิธีบูชาขอบพระคุณในสภาพที่จิตใจพร้อมจะสวดภาวนาแล้ว  ถ้าใครที่มาถึงวัดล่าช้า พิธีบูชาขอบพระคุณนั้นก็ไม่มีความหมายใด ๆ สำหรับบุคคลนั้น และยิ่งไปกว่านั้นถ้ากลายนิสัยแล้ว ก็เริ่มที่จะกลายเป็นบาปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมาร่วมพิธีในวันอาทิตย์
            3. การแต่งกาย ควรแต่งกายอย่างสุภาพ เสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องไม่เป็นจุดเด่นที่เรียกร้องความสนใจจากผู้อื่นมากเกินไป เช่นชุดที่เปิดเผยเสียจนขาดความเรียบร้อย จำไว้เสมอว่าให้สวมใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุดที่ท่านมี พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ และร่างกายของท่านก็คือพระวิหารของพระองค์ จงปกปิดเรือนร่างของท่านให้เหมาะสมกับการเป็นที่พึงให้ความเคารพและได้รับการให้เกียรติจากผู้อื่น
            4. ละเว้นการใช้โทรศัพท์  อุปกรณ์สื่อสารใด ๆ เป็นสิ่งที่พึงต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ การส่งข้อความ การใช้อุปกรณ์เพื่อการสื่อสารในแบบใด ๆ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม พ่อเห็นหลายคนอดใจไม่ได้กับการใช้โทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อดู และ โต้ตอบกันผ่านทาง ไลน์ เฟซบุ๊ค หรือ การท่องเว็บไซท์ต่างๆ ทำไมเราจะอุทิศเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเดียวนี้ให้กับพระเจ้าอย่างเต็มที่ไม่ได้เชียวหรือ เวลาที่เรามีให้กับพระเจ้าก็น้อยอยู่แล้ว เรายังมาเบียดบังเวลาของพระองค์ไปเสียด้วยการไม่ยอมอดใจละเว้นจากการใช้โทรศัพท์ หรือ แทบเล็ตในช่วงเวลาของการมาสวดภาวนาอีก
            5. การไหว้ หรือ การย่อเข่า ถวายความเคารพแด่พระเจ้า เมื่อเราก้าวเข้ามาในวัด เราตระหนักดีว่าพระเยซูทรงประทับอยู่ในตู้ศีลมหาสนิท เราจึงสมควรต้องแสดงความเคารพ ถวายคารวะแด่พระองค์ ด้วยการไหว้ หรือ การย่อเข่าข้างหนึ่งลงจนจดลงถึงพื้น เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเคารพต่อพระเจ้าที่ประทับอยู่ในวัดแห่งนั้นพระองค์รอคอยการมาถึงของเราเพื่อจะประทานพระพรและสันติสุขให้กับเรา
            6. การมีส่วนร่วมในพิธีอย่างแข็งขัน เพื่อจะมีส่วนร่วมในการชุมนุมภาวนาของกลุ่มคริสตชน เราพึงแสดงออกภายนอกด้วยการมีส่วนร่วมในอากัปกิริยาที่หมู่คณะแสดงออกอย่างแข็งขัน ไม่ว่าจะเป็นการยืน การคุกเข่า การนั่ง การโต้ตอบกับพระสงฆ์ผู้เป็นประธานในพิธี และการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า เพื่อให้การมาร่วมพิธีของเราทุกครั้งบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
            7. การไปรับศีลมหาสนิท ทุกครั้งที่เราไปรับศีลมหาสนิทให้เราได้แสดงความสำรวม และ แสดงออกซึ่งความเคารพอย่างสูงสุด พระเยซูกำลังจะเสด็จมาประทับในวิญญาณของเรา ให้เราตระหนักเสมอว่าชีวิตที่เสื่อมสลายได้ของเรากำลังได้รับชีวิตเหนือธรรมชาติของพระเจ้าเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็งในตัวของเรา เมื่อรับศีลมหาสนิทแล้วให้เราสงบและภาวนาในใจสักครู่ ด้วยความชื่นชมยินดี เมื่อพิธีบูชาขอบพระคุณจบแล้วให้เราแบ่งปันความยินดีนี้กับผู้อื่นด้วย
            8. จงมีใจกว้าง ตามธรรมเนียมแล้วจะมีการเวียนถุงทานเพื่อขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ให้เราระลึกเสมอว่า การบริจาคเป็นการแสดงออกถึงความใจกว้าง และ การรู้จักแบ่งปันให้กับผู้อื่น เพื่อความดีส่วนรวม แต่ละวัดก็จะนำเงินบริจาคนี้ไปทำประโยชน์ในการทำนุบำรุงวัด ซ่อมแซม และใช้เป็นค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ เช่นที่วัดของเราก็มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากในแต่ละเดือนสำหรับค่าไฟฟ้า น้ำประปา การซ่อมแซม และปรับปรุงสถานที่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดูแลในส่วนต่างๆ ฯลฯ ดังนั้นเราจึงสมควรที่จะใจกว้างกับการบริจาคเสมอ วัดของเราไม่มีรายได้ใด ๆ สำหรับการจุนเจือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น นอกจากเงินบริจาคจากพี่น้องเท่านั้น
            9. อย่าเร่งรีบมากเกินไป อย่าพึ่งรีบเร่งออกจากวัด จนกว่าพิธีจะจบและประธานในพิธีจะเดินออกจากพระแท่นแล้ว แต่กระนั้นก็ดี ขอแนะนำว่าให้เราใช้เวลาสักครู่ในการคุกเข่า หรือ นั่งเงียบ ๆ ภาวนาขอบพระคุณพระเจ้า หรือ เพ่งมองพระเยซูเจ้าที่ตู้ศีลมหาสนิท หรือ ที่กางเขนกางวัด ยิ้มให้กับพระองค์ด้วยจิตใจที่เบิกบาน หลังจากนั้นให้ออกจากวัดโดยรักษาความเงียบสงบเพื่อไม่เป็นการรบกวนสมาธิของผู้อื่น
 พ่อสุพจน์
........................................................................................................... 
               
พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา พระวาจาวันนี้เตือนตัวเราแต่ละคนให้มีความยุติธรรมต่อทุกคนและจงขอบพระคุณพระเจ้าเสมอในชีวิต และยังต้องนอบน้อมเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์ ทุกสามเดือนแรกของปี พี่น้องทราบไหมว่ามีอะไรเกิดขึ้น เราแต่ละคนต้องนั่งลงคิดและคำนวณรายรับและรายจ่ายของตัวเรา รวบรวมตัวเลขและนำไปรายงานที่กรมสรรพากร มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่สรรพากรจะมาเยี่ยมคุณเป็นการส่วนตัว เราเป็นคนซื่อสัตย์แบบไหนในชีวิต บางครั้งเรากลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมากกว่ายำเกรงพระเจ้า แล้วบอกกับตนเองว่า ไม่เป็นไรหรอกของพระเจ้าไว้รอก่อน แต่ของบ้านเมืองรอไม่ได้ต้องรีบจ่าย เดี๋ยวถูกปรับเพิ่ม หรืออาจเป็นว่าใช้วิธีการหลอกหน้าบัญชี หรือใช้เล่ห์เหลี่ยมสารพัดชนิดเพื่อมิให้ต้องเสียตามเป็นจริง ในสมัยที่ชาวอินเดียต้องเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ มหาตมะ คานธี ได้เป็นบิดาผู้สร้างชาติอินเดีย ให้พ้นจากการยึดครองของอังกฤษ ใช้วิธีการไม่ใช้ความรุนแรง “อหิงสา” ทำให้เขาเป็นที่เคารพนับถือของชาวอินเดียและทั้งชาติและทั่วโลก มีรูปติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ แต่มีสถานที่แห่งหนึ่งได้ติดรูปคานธีและรูปพระเยซูคู่กัน ผู้ที่นิยมนับถือคานธีหลังจากเห็นรูปทั้งสอง เขาได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าโค้งคำนับให้คานธี แต่ข้าพเจ้าคุกเข่านมัสการพระเยซูเจ้า” สมัยของจักรพรรดิติแบริอุส ซีซาร์ รัฐบาลโรมได้ผลิตเหรียญสำหรับใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ด้านหนึ่งเป็นของซีซาร์ อีกด้านเป็นตราของแผ่นดิน ประชาชนตั้งแต่อายุ 14 ปี จนถึง 65 ปี ต้องเสียภาษีให้รัฐบาลโรมด้วยเงินเหรียญที่ผลิตขึ้นนี้ สำหรับชาวยิวที่เป็นชาตินิยมไม่เห็นด้วยกับการเสียภาษีนี้ จนเป็นที่มาของความเกลียดชังต่อคนเก็บภาษี ทำให้คนเก็บภาษีต้องใช้มาตรการพิเศษเลยกลายเป็นคนบาปในระนาบเดียวกับหญิงโสเภณีและฆาตกร แต่พระเยซูเจ้ามิได้คิดเช่นนั้น พระองค์ทรงคบกับพวกคนเก็บภาษีและคนบาป และได้เรียกคนเก็บภาษีคนหนึ่งให้มาเป็นศิษย์ของพระองค์
ฟาริสีกล่าวหาพระองค์เพื่อหวังจับผิด เพื่อให้พระองค์ตกหลุมพราง “เสียภาษีแก่จักรพรรดิซีซาร์เป็นการถูกต้องหรือไม่” หากตอบว่าต้องเสีย ประชาชนก็จะเสื่อมความนิยมในพระองค์ ถ้าตอบว่าไม่ต้องเสีย พรรคพวกของกษัตริย์เฮโรดและชาวฟาริสีจะกล่าวหาพระองค์ว่าเป็นกบฏ ที่ยุยงให้ประชาชนขัดสู้กับอำนาจของโรมัน ซีซาร์เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งไม่ใช่เทพเจ้าแต่อย่างใด แต่ก็ควรให้ความเคารพในฐานะผู้ปกครองประเทศที่จะต้องให้ความร่วมมือ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและต้องเป็นพลเมืองที่ดี แต่ต้องไม่ขัดแย้งหน้าที่ต่อพระเจ้ากับหน้าที่ต่อบ้านเมือง เพราะเราต้องแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนอื่นใดหมด ในฐานะเราเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าแล้วค่อยปฏิบัติหน้าที่ต่อบ้านเมืองอย่างยุติธรรมและเสมอภาค เพราะทุกสิ่งเป็นของพระเจ้า เราจึงต้องหมั่นขอบพระคุณและมอบตัวเราทั้งครบแด่พระเจ้าโดยไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับตัวเราเอง และต้องดำเนินชีวิตตามจิตตารมณ์ที่แท้จริงแบบคริสตชนโดยมุ่งทำหน้าที่ของเราอย่างดีต่อสังคมและบ้านเมือง เพื่อให้ความดีไปพร้อม ๆ กัน ไปสู่หลักชัยมิใช่เฉพาะในโลกนี้ แต่เป็นพระราชัยสวรรค์


พ่อพงษ์เกษม 

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2014

พี่น้องที่รัก
            ตลอดเดือนตุลาคมนี้ เรารณรงค์การสวดสายประคำเป็นพิเศษ เนื่องด้วยเดือนตุลาคมเป็นเดือนแม่พระลูกประคำครับ วันเวลาผ่านไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว ถ้าพี่น้องยังไม่มีโอกาสได้สวดลูกประคำ พ่อก็เสนอให้พี่น้องได้เริ่มต้นสวดลูกประคำเถิดครับ การสวดลูกประคำจะช่วยให้จิตใจของเราผูกพันอยู่กับพระเจ้า และแม่พระ อาจเป็นไปได้ว่าพี่น้องหลายคนยังไม่ทราบวิธีสวดลูกประคำก็เป็นไปได้ หลายคนก็ยังไม่คุ้นเคยกับบทสวดภาวนาที่เรียบเรียงโดยใช้ถ้อยคำใหม่ๆ พ่ออยากให้เราได้เริ่มต้นที่จะสวดง่ายๆ เริ่มจากบทข้าแต่พระบิดา และ บทวันทามารีย์ และ บทพระสิริรุ่งโรจน์จะใช้บทสวดแบบเก่าหรือ แบบใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ลำบากเกินไปนัก ก็ให้เริ่มต้นสวดบทภาวนาแบบใหม่เสียเลย ไม่นานก็จะจดจำขึ้นใจได้เอง ถ้าเราเดินทางด้วยกันหลายคนเป็นครอบครัวไปไหนระยะทางไกล ๆ ก็ขอให้ผู้นำครอบครัวนำสวดภาวนาลูกประคำในรถด้วยกันสัก 10 เม็ด หรือ 1 ทศ หรือ ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็เพิ่มการสวดให้ครบ 1 สาย ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก เพื่อวอนขอการคุ้มครองจากพระเจ้าสำหรับการเดินทางของเราครับ
            ในวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันศุกร์ วัดของเราจะจัดให้มีการแห่แม่พระเพื่อเป็นการส่งท้ายเดือนแม่พระลูกประคำ โดยจะมีการสวดสายประคำเวลา 18.30 . และ มีพิธีบูชาขอบพระคุณเวลา 19.00 . หลังจากพิธีบูชาขอบพระคุณเสร็จแล้ว จะมีการแห่พระรูปแม่พระรอบวัดของเราด้วย จึงขอเรียนเชิญพี่น้องแต่เนิ่น ๆ มา ณ โอกาสนี้ครับ

พ่อสุพจน์ 
               
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 3
ความยินดีของบรรดานักบุญในพิธีบูชาขอบพระคุณ

                St. Ignatius ท่านนักบุญอิกญาซีโอ เคยประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความมุ่งมั่นศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม จนวันหนึ่งผู้ที่ทำหน้าที่ช่วยมิสซา สังเกตเห็นรัศมีสว่างไสวดุจเปลวเพลิงปรากฏอยู่รอบ ๆ ศีรษะของท่านนักบุญ เขาลุกขึ้นพยายามเร่งรีบหาทางดับเพลิงไฟนั้น แต่แล้วก็พบว่าที่แท้รัศมีดุจเปลวเพลิงนั้นคือ รัศมีเรืองรองศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติที่โอบอุ้มศีรษะของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่นั่นเอง
                 Blessed Francis of the Order of Minors บุญราศี ฟรังซิส มีอาการเจ็บป่วยปวดขาอย่างมากมานานหลายปี การปรับเปลี่ยนอิริยาบถใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ท่านต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความศรัทธาร้อนรนอย่างเต็มเปี่ยมที่ท่านมีต่อพิธีบูชาขอบพระคุณ ทุก ๆ เวลาเช้าท่านสามารถลุกจากม้านั่งไปถวายพิธีบูชาขอบพระคุณได้โดยไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ แม้แต่น้อย
                Blessed John, a Dominican of Ravenna บุญราศียอห์น แห่งราเวนนา ก็เช่นกันมีผู้พบเห็นท่านฉายแววรัศมีเรืองรองปรากฏออกมารอบ ๆ กายท่านในระหว่างที่ท่านประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ
                ยังคงมีเรื่องเล่าขานอีกมากมายของนักบุญอีกหลายองค์ ที่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าคล้ายคลึงกัน แต่เราทุกคนควรระลึกอยู่เสมอว่า ในทุก ๆ พิธีบูชาขอบพระคุณที่เราไปร่วมพิธี ไม่ว่าพระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีจะมีความสุภาพถ่อมตนเพียงใด พระธรรมล้ำลึกที่เฉลิมฉลองในพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นเป็นธรรมล้ำลึกเดียวกันที่มีผลอเนกอนันต์ นักบุญโบนาเวนตูรากล่าวว่า เป็นองค์พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพยิ่งใหญ่ ผู้ทรงประสูติบนพระแท่น ผู้ทรงถวายพระองค์เองบนพระแท่นอย่างแท้จริงอย่างที่เคยทรงถวายพระองค์ที่เนินเขากัลวารีโอ สำหรับทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นๆ
............................................................................................................................



พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา อย่ามัวนิ่งเฉยทำทองไม่รู้ร้อน ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เพราะพระเจ้าทรงจัดงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด มีเหล้าองุ่นชั้นดี มีอาหารเลิศรสโดยเฉพาะเหล้าองุ่นที่คัดสรรไว้แล้ว เนื่องจากพระเจ้าทรงรักและเมตตาต่อเรามนุษย์ พระองค์จึงทรงทำลายม่านแห่งความทุกข์ออกไปจากชีวิตของพวกเขา ทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน ทรงช่วยประชากรของพระองค์ ให้พ้นจากการลบหลู่ พระเจ้าทรงเป็นความหวังของเรามนุษย์ ทรงเป็นองค์ความชื่นชมยินดีและทรงช่วยเราทุกคนให้รอดพ้น แต่ทำไมเราจึงยังไม่ไว้ใจเข้ามาหา เราเข้ามาหาพระเพียงแค่ให้อิ่มท้องและประทังความหิวโหยแค่นั้นหรือ แต่ชีวิตก็ยังคงความทุกข์และขัดสนตลอดเวลา
            วันนี้อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับงานวิวาห์มงคล เป็นงานฉลองที่สำคัญ ตามธรรมเนียมของชาวยิว เจ้าภาพจะเชิญแขกล่วงหน้าโดยไม่กำหนดวันเวลา ต่อเมื่อทุกสิ่งพร้อมแล้วจึงส่งคนไปเรียกแขกที่เชิญไว้ให้มาร่วมงาน แต่แขกที่รับเชิญกลับปฏิเสธ แถมยังตอบกลับอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะการปฏิเสธถือเป็นการดูหมิ่นอย่างร้ายแรง ผลที่ตามมาคือแขกที่เชิญไม่มาแต่ปฏิเสธพระอย่างชนิดพองขนสยองกล้าน่ากลัว พระวรสารมัทธิวเขียนราวปี 10-20 แต่เนื่องจากชาวยิวปฏิเสธพระเจ้า โรมได้ส่งกองทัพมาทำลายและเผากรุงเยรูซาเล็มจนราบเป็นหน้ากลองในปี ค.ศ. 70 ชีวิตของเราก็ไม่ผิดไปจากประวัติศาสตร์หากการดำเนินชีวิตของเราไม่มีความรักในพระเจ้า ไม่มีการถ่อมตน ไม่มีการเสียสละ จึงทำให้พวกยิวทำการก่อการกบฏ และยั่วยุจนโรมไม่อาจอดกลั้นและจำต้องส่งกองทัพมาปราบปรามจนชาติยิวสิ้นชาติไปในที่สุด วันนี้เราจึงควรมาพิจารณาตนเองถึงการเชื้อเชิญของพระเจ้าในชีวิตของเรา เชิญเราให้มาร่วมในความปิติยินดี มาร่าเริงแจ่มใส ไม่ใช่มาแบบเศร้าหมอง อมทุกข์ มืดมน เพราะใจอันแข็งกระด้างของเรา ที่มัวแต่สลวนไปดื่มสุราจนหัวราน้ำ หลบไปทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม ไปทุ่ง ไปใช้ควายตัวใหม่ ปฏิเสธความดีของพระ แต่กลับไปทำสิ่งชั่วดุจเป็นคู่แข่งกับพระเจ้า สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือการไม่รู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่กลับไปเลือกสิ่งที่สอง ซึ่งทำให้เราพลาดจากความดีสูงสุด  แล้วมัวแต่ไปติดพันกับของเลวๆ คล้ายการไม่ใส่เสื้อสำหรับงานวิวาห์มงคล กลับไปปล่อยชีวิตของตนให้ตกต่ำลง แทนที่จะทุ่มเทต่อสู้เพื่อคุณค่าที่สูงส่ง กลับกลายเป็นความก้าวร้าวจนลืมพระ มัวแต่มองสิ่งของในโลก วุ่นวายกับสิ่งพวกนี้จนไม่ลืมหูลืมตา ไม่คิดคำนึงคำเชิญของพระเกี่ยวกับอาณาจักรสวรรค์โลกหน้าซึ่งเป็นนิรันดรที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ ตาและใจของเขาถูกปิดจนมองไม่เห็น พระหรรษทานของพระเจ้าที่ทรงให้เปล่า ๆ ด้วยน้ำพระทัยอันกว้างหาที่สุดมิได้ไม่ได้รับการตอบรับ สวรรค์เปิดรับสำหรับบุคคลที่รู้จักใช้พระพรของพระเจ้า จนชีวิตศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ มีวิญญาณที่สะอาด อาภรณ์แห่งความเชื่อ อาภรณ์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ อาภรณ์ที่สุภาพถ่อมตนและสำนึกผิด อาภรณ์แห่งความเคารพสักการะพระเจ้าตลอดกาลนิรันดร

พ่อพงษ์เกษม 

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่เราอุทิศถวายแด่แม่พระลูกประคำ ดังนั้นตลอดเดือนนี้ที่วัดของเราจัดให้มีการสวดลูกประคำทุกค่ำระหว่างวันจันทร์จนถึงวันศุกร์ โดยพิธีจะเริ่มต้นในเวลา 19.00 . ด้วยการตั้งศีลมหาสนิทบนพระแท่น และ สวดลูกประคำต่อหน้าศีลมหาสนิท 1 สาย และพิธีจะจบลงด้วยการอวยพรศีลมหาสนิท พ่อจึงอยากเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่สามารถ มาร่วมกันเฝ้าศีลมหาสนิท สวดลูกประคำ และ รับพรศีลมหาสนิท ร่วมกันที่วัด ถ้าพี่น้องไม่สะดวกที่จะมาร่วมพิธีที่วัด พ่อก็อยากเรียนเชิญให้พี่น้องได้สวดลูกประคำกันทุก ๆ วันตลอดเดือนตุลาคมนี้ พี่น้องสามารถสวดลูกประคำได้เสมอ ทั้งในระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือ ใช้เวลาสงบ ๆ ก่อนเข้าพักผ่อนหลับนอนในยามค่ำคืนก็ได้ ฝากชีวิต และ ครอบครัวของเราไว้ในการพิทักษ์รักษาของพระนางมารีย์ มารดาผู้อ่อนหวาน ผู้เสนอวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราทุกคน ความศรัทธาภักดีต่อพระนางมารีย์ พระมารดาของชาวเรา จะเสริมสร้างเราทุกคนให้มีความเข้มแข็งมั่นคงในความเชื่อมั่นในองค์พระเจ้า และ ในความอดทนต่อความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิต รวมไปถึงการมีความหวังที่เปี่ยมด้วยความปีติยินดีในพระพรแห่งการบรรเทาที่พระเจ้าจะโปรดให้กับเราในยาม ที่เราต้องเผชิญกับความยุ่งยากใจในปัญหาต่างๆ
                ขอพระนางมารีย์ แม่พระของเราวิงวอนเพื่อเราเสมอ Ave Maria

พ่อสุพจน์ 
               
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 3
ความยินดีของบรรดานักบุญในพิธีบูชาขอบพระคุณ

                St. Raymond of Penafort ท่านนักบุญเรย์มอนด์ อธิการเจ้าคณะของคณะดอมินิกัน ถวายพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธาร้อนรน ครั้งหนึ่ง ใบหน้าของท่านปรากฏแววรัศมีโชติช่วง เรืองรอง รอบ ๆศีรษะและบริเวณไหล่ของท่าน ในขณะที่ท่านสวดบทภาวนาเสกศีลจนถึงช่วงของการรับศีลมหาสนิท
                 Blessed Francis of Possadas บุญราศี ฟรังซิส แห่ง พอสซาดาส ก็เช่นกัน ใบหน้าของท่านฉายแววเรืองรองอย่างงดงามเป็นพิเศษ ราวกับว่าท่านมีชีวิตใหม่ วันหนึ่งขณะที่ท่านอ่านพระวาจาของพระเจ้าจากหนังสือพระวรสาร ริมฝีปากของท่านมีแสงสว่างสุกใสปรากฏขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกสองครั้งในโอกาสฉลองวันสมโภชพระจิตเจ้า ความเรืองรองสุกใสนี้ปรากฏขึ้นทั้งร่างของท่านทำให้พระแท่นบูชาสว่างไสว ขณะที่ท่านเปล่งคำภาวนาในบทเสกศีล องค์พระเจ้าตรัสกับท่านด้วยความรักอันเปี่ยมล้นว่า “ลูกเอ๋ย ฉันคือผู้เป็นอยู่” ภายหลังจากที่ท่านรับศีลมหาสนิทแล้ว ท่านบุญราศีฟรังซิส ก็รู้สึกว่าร่างของท่านได้รับการยกขึ้นลอยเหนือพื้นที่ท่านยืนอยู่
.................................................................................................

พี่น้องที่รัก
อาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา พระวาจาวันนี้สอนเราว่า ความจริงและคำสอนของพระอาจจะทำให้เราเจ็บปวด แต่การยอมรับความจริงจะช่วยให้เราเป็นคนสะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น คำสอนของพระทำให้เราหลุดพ้นจากความเห็นแก่ตัว และมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงพระเยซูเจ้า จงอย่าแปลกใจหรือเที่ยวมองหาว่าใครปฏิเสธหรือไม่ยอมรับพระเจ้า จนลืมหันมามองตนเองว่า ทำไมตัวเราถึงไม่ยอมรับความจริง ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานในองค์กร บริษัท ร้านค้า โรงเรียน เรามักได้รับคำร้องเรียนต่าง ๆ มีจดหมายรายงานความประพฤติของพนักงาน มีจดหมายร้องเรียนการทำงานของพนักงานบริการ และโดยเฉพาะโรงเรียนผู้ปกครองมักจะเขียนจดหมายต่อว่าต่อขานว่าทำไมคุณครูถึงกับลงมือ ลงไม้กับเด็ก ให้ผู้อำนวยการจัดการครูคนนั้นอย่างเด็ดขาด ให้ช่วยตักเตือนและให้ครูคนนั้นแก้ไขโดยเร็ว แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่ยอมรับความจริงที่ครูรายงานความประพฤติของเด็กที่เป็นลูกหลานของตน กลับไม่ยอมรับความจริง จนกลายเป็นให้ท้ายเด็กให้ทำในสิ่งที่เลวร้ายและรุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าเอง พูดไปแล้วไม่น่าเชื่อว่า คนที่ทำดีแบบพระเยซูเจ้า จะไม่มีคนยอมรับ พระองค์เสด็จไปที่ไหนมีแต่ทำดีที่นั่น แต่การกระทำและคำพูดของพระองค์กลับไม่มีใครต้อนรับ ซ้ำร้ายยังถูกปฏิเสธด้วยการกระทำที่ชั่วร้ายโหดร้ายและทารุณแสนสาหัสจนถึงตาย ทำไมจิตใจคนจึงแข็งกระด้างเช่นนี้ หน้าด้านอยู่ในความชั่ว
    ในการยอมรับพระองค์เป็นการตอบรับความจริง ตอบรับความดีที่พระองค์มีให้เราอย่างเหลือล้นไม่ใช่เป็นการตอบรับแค่ปากหรือคำพูดเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองเลยทีเดียวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง กล้าที่จะยอมรับความจริง ยอมรับความอ่อนแอของตัวเรา ความผิดพลาด ความล้มเหลว ความบกพร่อง นิสัยที่ไม่ดีของตัวเรา หรือเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้ใครมาแตะต้อง  เพราะเรากลัวที่จะยอมรับความจริง กลัวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะมันเป็นอาการของคนไม่มีศาสนา คนไม่มีความเชื่อ คนที่ปฏิเสธพระ ไม่กล้าสู้ความจริง ไม่มีความเกรงใจ ไม่ยอมแบ่งผลคุณความดีคืนให้พระเจ้าตามกำหนด ซ้ำยังทำร้ายพระเยซูเจ้าเองอย่างโหดเหี้ยม คำสอนของพระวันนี้ท้าทายเราทุกคนว่า เป็นใครกันแน่ที่ปฏิเสธพระเยซูเจ้า หลายครั้งที่เราทำตัวเคร่งครัดในสายตาคนอื่น มีความรู้ทางศาสนาดี สอนอย่างกับว่าเป็นพระเยซูเองแต่ภายในหัวใจไม่เคยยอมรับพระองค์เลย เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมาในชีวิตจับผิดผู้อื่นตลอดเวลา เข่นฆ่าลงโทษผู้อื่นอย่างโหดร้ายด้วยวิธีการต่าง ๆ ศรัทธาแท้ของเขาอยู่ที่ไหนกัน กิจการที่เขาทำก็เพียงเพื่อให้มุ่งผลประโยชน์ให้มากที่สุด ให้มีผู้ชื่นชมมีผลงานและเป็นที่ยอมรับ เป็นแค่ภายนอกแต่ไม่ได้ออกมาจากหัวใจแห่งความจริงวันนี้ใครกันแน่ที่พระเยซูเจ้าจะต้องลงโทษ คือคนที่บอกกับตนเองว่า “รู้แล้ว” แล้วทำเฉย ชอบเข้าข้างตัวเอง ทำตาบอด ไม่เคยมองความบกพร่องของตนเองเลย มัวแต่มองคนอื่นและเข่นฆ่าผู้อื่น เพราะแท้จริงเขาเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง แต่พระเจ้ามาเพื่อทำให้คนผิดกลับมาสู่ทางที่ถูกต้องด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ด้วยความเมตตา กรุณา และการให้อภัย ขอให้เรายอมรับความจริงและศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงเถิด

พ่อพงษ์เกษม