วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2018


เดือนตุลาคม พร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ
ส่งท้ายเดือนวันพุธที่ 31 นี้ เลื่อนมิสซาตอนเย็นเป็น 19.00 น.ก่อนมิสซาเวลา 18.30 น.เชิญชวนมาสวดสายประคำกับแม่พระ และหลังมิสซาแล้วมีแห่แม่พระรอบวัด
สวดสายประคำ“หนึ่งสายหนึ่งเหรียญ” ตามจุดประสงค์ 5 ข้อคือ 1.เตรียมฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม 2.เพื่อเด็กในครรภ์มารดา 3.เพื่อความสัมพันธ์ในครอบครัว 4.เพื่อพระกระแสเรียก และ 5.เพื่อเด็กเยาวชนจะได้เป็นศิษย์พระคริสต์ตามแนวทางกฤษฎีกาพระศาสนจักรไทย
ให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้า กลายเป็นชีวิตคริสตชนอย่างมีสันติสุขภายในจิตใจและแบ่งปันให้กับผู้อื่น  บรรดาผู้แพร่ธรรมได้ช่วยพระองค์สร้างบ้านแห่งการภาวนา(สวดสายประคำและรำพึงถึงพระวาจาของพระองค์)เพื่อการมีส่วนร่วมในการแพร่ธรรม ดังนั้นให้เราได้ออกเดินไปประกาศข่าวดีให้กับบุคคลอื่นที่ยังไม่รู้จักพระองค์
ขอบคุณสำหรับครอบครัวเยาวชนที่มาร่วมพิธีมิสซารอบ 08.30 น.ด้วยชุดสีฟ้าและให้เด็กๆได้ช่วยกันทำให้มิสซามีชีวิตชีวา ฝนตกโปรยๆแต่ไม่เป็นอุปสรรค มีบรรดาเด็กยุวธรรมทูตจากโรงเรียนมาสอนให้ทำสายประคำและรับกล่องทำบุญ งานแพร่ธรรมต้องเริ่มจากเรื่องเล็กๆใกล้ตัว อีกสักหน่อยจะกลายเป็นพระราชัยของพระเจ้าเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าใช้เมล็ดพันธ์พืชสอนเรา ขอให้เกิดผลหลายหน่วยสิบร้อยพันเท่าตัว
จบเดือนนี้เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน กิจกรรม 365 วันเพื่อเตรียมงาน 350 ปีมิสซังสยาม เดือนหน้าคือ “การระลึกถึงผู้ล่วงลับ” นับตั้งแต่บรรดามิชชั่นนารี พระสงฆ์นักบวชชายหญิง บรรพบุรุษ ขอให้เราซึ่งเป็นสัตบุรุษลูกหลานของท่านได้มาร่วมมิสซาในวันที่ 2 วันภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ มี 3 รอบ เช้า(06.00 น.) เย็น(17.30น.)และหนึ่งทุ่ม(19.00น.) พี่น้องสามารถเลือกหรือมาทั้งสามก็ได้สุดแล้วแต่สะดวก สามารถรับพระคุณการุณย์เพื่อผู้ล่วงลับได้หนึ่งครั้งในวันนี้ ตั้งใจและแก้บาปรับศีลอย่างดี นอกจากนี้ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 8 หากได้ไปสวดภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับที่วัดหรือที่สุสานนั้นๆก็สามารถรับพระคุณดังกล่าวได้ ส่วนบรรดาผู้ติดเตียงติดบ้านมาวัดไม่ได้ก็สวดตลอดทั้งเดือนก็ถือว่าเราได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมดังกล่าวแล้ว  “โปรดประทานการพักผ่อนตลอดนิรันดรแก่.....เถิดพระเจ้าข้า”
ขอประชาสัมพันธ์ งานคริสต์มาสประจำปีของวัดปีนี้ วัดกับโรงเรียนจัดงานรื่นเริงในวันที่ 24 ธันวาคมทั้งบริเวณวัดและในโรงเรียนเพื่อส่งความสุขให้กับเราทุกคน เชิญผู้ใหญ่ใจดีมอบของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กย่อยเพื่อนำมาเป็นรางวัลสอยดาวและบิงโก เกมสนุกสนาน หรือเป็นปัจจัยได้ที่พระสงฆ์ของวัด ปีนี้จะจำหน่ายบัตรสอยดาวให้กับสัตบุรุษที่มาวัด 6,000 ใบก่อนเพื่อมอบของขวัญพิเศษให้ถือเป็น “พิเศษ”และอำนวยความสะดวกให้ เพราะมาวันงานบัตรสอยดาวหมดก่อนซะแล้ว...มีจำกัดจำนวน

ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
......................................................................................

บอกกล่าว เล่าเรื่อง 
            ปิดเดือนแม่พระลูกประคำ เปิดใจสู่การสวดสายประคำมากขึ้น
            ช่วงเดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนที่เราคิดถึงแม่พระเป็นพิเศษ เพราะเป็นเดือนแม่พระลูกประคำ ตามวัดต่างๆ หรือที่วัดเซนต์หลุยส์ของเรา ก็มีการรณรงค์และสวดสายประคำร่วมกันทุกวันในวัดตลอดเดือนเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั้งในชุมชนวัดที่เป็นชุมชนคริสตชนเอง ก็จัดให้มีการร่วมสวดสายประคำตามบ้านเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีที่ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดขึ้น พ่อก็สังเกตว่าในเดือนตุลาคมนี้มีพี่น้องสัตบุรุษหลายๆ ท่านก็นำสายประคำมาให้พ่อเสก ก็เป็นเครื่องหมายที่ดีและเป็นเครื่องหมายของการให้ความสำคัญกับการสวดสายประคำในเดือนนี้เป็นพิเศษ บางท่านเวลานำมาให้พ่อเสกก็กำชับแบบทีเล่นทีจริงว่า ขอแบบศักดิ์สิทธิ์ๆ เลยนะพ่อ พ่อก็มักจะบอกแบบทีเล่นทีจริงด้วยเหมือนกันว่า ความศักดิ์สิทธิ์คงไม่ได้อยู่ที่พ่อเสกหรืออวยพรที่สายประคำหรอก แต่สายประคำจะศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเมื่อเราสวดบ่อยๆ สาวสายประคำบ่อยๆ ด้วยการสวดนี่ละยิ่งทำให้สายประคำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นทุกๆ วัน
            เดือนแม่พระลูกประคำกำลังจะจบลง แต่คงไม่ได้หมายความว่า การสวดสายประคำจะสิ้นสุดลงในเดือนนี้เช่นเดียวกัน แต่การสวดสายประคำจะยังคงดำเนินต่อไปในชีวิตประจำวันของพี่น้องทุกๆวัน ในเดือนตุลาคมเราก็มีโครงการเกี่ยวกับการรณรงค์ให้สวดสายประคำและให้ชื่อว่า ทั้งโลกพร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ เสียงการสวดสายประคำจะคงดำเนินต่อไปในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนบางคนก็ถามพ่อว่าสวดไม่ครบสายได้ไหม พ่อก็ตอบทันทีว่าขอให้สวดก็ใช้ได้ละ จะ 10 เม็ด 20 เม็ด 1สาย 2สาย ก็สุดแล้วแต่ขอให้สวดเถอะครับ
            พ่อคิดว่าทุกๆ วันทุกๆ กิจการที่เราทำ เราก็สามารถสวดสายประคำควบคู่ไปได้ ในเวลาของการเดินทาง รถติดหงุดหงิด บ่นด่า แทนที่ด้วยการสวดสายประคำ อารมณ์เสีย หงุดหงิดกับหน้าที่ ภาระที่มี แทนที่ด้วยการสวดสายประคำ โมโห โกรธ แทนที่ด้วยการสวดภาวนาให้ หรือมากกว่านั้นทกๆวันมีเวลาด้วยกันในครอบครัวชวนกันสวดสายประคำร่วมกันในบ้าน 10 เม็ด 20 เม็ดหรือมากกว่านั้นตามความเหมาะสม ฯลฯ นี่แหละจะทำให้ทุกๆ วันไม่สิ้นเสียงสายประคำในชีวิตประจำวันของเราจริงๆ
            ทุกๆ ครั้งที่แม่พระประจักษ์มาไม่ว่าที่ใด สิ่งหนึ่งที่แม่พระบอกเสมอก็คือ อย่าลืมสวดสายประคำ อย่าลืมสวดเพื่อคนบาปจะได้กลับใจ และอย่าลืมสวดเพื่อเราเองแต่ละคนซึ่งก็เป็นคนบาปด้วย นี่จึงเป็นความสำคัญประการหนึ่งที่เรายังคงต้องสวดสายประคำเสมอๆ เดือนแม่พระลูกประคำกำลังจะสิ้นสุดลงในอีกสองสามวันนี้ แต่ขอให้เสียงการสวดสายประคำจะยังคงดังกึกก้องต่อๆ ไปเสมอๆในชีวิตประจำวันของพวกเรา ในครอบครัวของพวกเราอย่างไม่ขาดสาย
ปลัดวัดสาทร

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2018


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2018
สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา”วันแพร่ธรรมสากล”

เดือนตุลาคม พร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ
ปีนี้พระสันตะปาปาเรียกประชุม synod กับบรรดาพระสังฆราชทั่วโลกที่รับผิดชอบงานเยาวชน “พร้อมกับเยาวชน ให้เราประกาศข่าวดี สู่ปวงชน” หวังว่าวันข้างหน้าพวกเขาคือศิษย์พระคริสต์ช่วยพระองค์ให้กับคนทั้งหลายต่อไป
        กระตุ้นเยาวชนให้เข้าร่วมงานพระศาสนจักรในการนำพระวรสารไปสู่ปวงชน  เชิญชวนเยาวชนหญิงชายที่ต้องการติดตามพระคริสต์ให้แสวงหา ค้นหาและเพียรพยายามรักษากระแสเรียกนี้ไว้
สาระสำคัญในวันแพร่ธรรมวันนี้ คงเป็นเรื่องเดียวกันคือการประกาศข่าวดี หมายถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าให้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ฟังพระวาจา อ่านพระวาจา ทำตามพระวาจา พระเยซูเจ้าเมื่อ 2018 ปี ยังคงเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต เพื่อเราจะได้ชีวิตนิรันดร ทั้งคนหนุ่มสาว หลากหลายอาชีพ สตรีใจศรัทธา หญิงม่าย ชาวประมง กรรมกรคนงาน บรรดานักวิชาการ นักบริหาร ข้าราชการและอื่นๆอีกมากมาย พระเยซูเจ้าให้ความสำคัญและเอาใจใส่ทุกคนเปรียบเหมือนลูกแกะที่พระองค์เป็นนายชุมพาบาลคือรู้จักแกะทุกตัว ไม่เว้นแม้แต่ลูกแกะหลงทาง ลูกล้างผลาญ คนบาปทั้งหลาย พระองค์ปรารถนาให้เขาเปลี่ยนแปลงชีวิต เพื่อให้เป็นเกลือดองแผ่นดิน เป็นความสว่างให้กันและกัน จะได้เดินทางไปด้วยกันกับพระองค์เพื่อมุ่งตรงสู่พระราชัยของพระเจ้าทั่วหน้ากัน
พระสันตะปาปาให้บรรดาพระสังฆราชทั่วโลกผู้เกี่ยวข้องกับงานอภิบาลเยาวชน ช่วยทำให้บรรดาเด็กเยาวชนเหล่านี้ช่วยพระเยซูประกาศข่าวดีเพื่อนำพาเพื่อนๆเข้ามาหาพระองค์ และหวังในการเจริญเติบโตมีพระกระแสเรียกจะได้เป็นศิษย์ของพระองค์ในโลกที่กำลังเปลี่ยนถ่ายไปยังคนรุ่นต่อๆไป
ผู้เกี่ยวข้องกับงานอภิบาลเยาวชนเหล่านี้คือใคร
คือพระสงฆ์ผู้อภิบาลประจำวัด นักบวช พ่อแม่ ครูคำสอน บรรดาผู้ใหญ่ที่ต้องเป็นประจักษ์พยานชีวิตพระคริสต์ให้เด็กได้เห็นพระเยซูเจ้าที่ใจดีกับพวกเขา ด้วยกันเป็นแบบอย่าง จะได้กลายเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงในการติตตามพระองค์และช่วยผู้อื่นได้อย่างบังเกิดผล 30 เท่า 60 เท่าและ 100 เท่าเต็มล้น
ส่งท้ายเดือนนี้วันพุธที่ 31 จะมีเวลาสวดก่อนมิสซาเวลา 18.30 น.มิสซาตอนเย็นจะเป็นเวลา 19.00 น. และหลังมิสซาแล้วมีแห่แม่พระรอบวัด
ใครที่สวดแล้วครบหนึ่งสายอย่าลืมมาใส่เหรียญที่กล่องพน้าพระแท่นแม่พระในวัด “หนึ่งสายหนึ่งเหรียญ” ตามจุดประสงค์ 5 ข้อคือ 1.เตรียมฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม 2.เพื่อเด็กในครรภ์มารดา 3.เพื่อความสัมพันธ์ในครอบครัว 4.เพื่อพระกระแสเรียก และ 5.เพื่อเด็กเยาวชนจะได้เป็นศิษย์พระคริสต์ตามแนวทางกฤษฎีกาพระศาสนจักรไทย

ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
..........................................................................................................

บอกกล่าว เล่าเรื่อง
            จงเป็นเรื่องชุบชูใจของกันและกัน
            เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่อเองได้นำเด็กๆเยาวชนและผู้ปกครองบางส่วนของเด็กๆ ไปร่วมกิจกรรมค่ายเยาวชนวัดเซนต์หลุยส์ ที่บ้านเพชรสำราญ หัวหิน มีผู้เข้าร่วมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 50 กว่าชีวิต เราไปใช้ชีวิตร่วมกัน พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยน ร่วมกิจกรรมด้วยกัน ระหว่างพ่อเอง เด็กๆเยาวชน และผู้ปกครอง สิ่งที่พบตลอดค่ายเลยก็คือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แม้วันเดินทางไปเราอยู่บนรถบัสด้วยกันกว่า 5 ชั่วโมง จากวัดไปถึงที่พักที่หัวหิน เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดในช่วงวันหยุดยาว ไม่มีใครบ่น(หรืออาจจะไม่ได้ยิน) ไม่มีความหงุดหงิด ทุกคนยิ้ม หัวเราะ (+หลับสลับกันไป) ตลอดการเดินทาง ทำให้พ่อสัมผัสได้ว่า การมาของทุกคนนั้นมาด้วยใจ
            พ่อมีโอกาสอ่านบทความสั้นๆบทความหนึ่งจำไม่ได้ว่าผู้เขียนคือใคร ซึ่งในบทความตอนหนึ่ง เขียนไว้ว่า ไม่ใช่การบรรลุเป้าหมายใหญ่ๆโตๆหรอกที่ทำให้เราอยากมีชีวิตต่อไป หรือมีชีวิตที่มีความสุข แต่การชุบชูใจเรื่องเล็กๆ ในแต่ละวันนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออเว้ย ยังมีเรื่องดีๆ ในชีวิต ยังมีสิ่งที่ดีในแต่ละวัน ฉันอยากตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ เห็นแล้วหายเหนื่อยหน่อย การชุบชูใจกันนี่แหละทำให้เราและคนรอบข้างมีความสุข และในตอนท้ายของบทความนี้เองก็สรุปว่า จงเป็นเรื่องชุบชูใจของกันและกันเสมอๆ
            ตลอดสองคืนสามวันในค่ายเยาวชน พ่อได้มอบหมายให้พี่ๆ เยาวชนที่โตหน่อยได้วางแผน เตรียมงาน เตรียมกิจกรรมต่างๆ ดำเนินการเรื่องต่างๆ ด้วยตัวของพวกเขาเอง พ่อเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาได้ช่วยกันทำอาจจะไม่ใช่ค่ายที่ดีที่สุด อาจจะไม่ใช่กิจกรรมที่ดีที่สุด หรือมีการเตรียมการ หรือพร้อมที่สุด ก็ยังมีผิดพลาด ยังมีความไม่สมบูรณ์ในเรื่องต่างๆ  แต่เชื่อว่ามันก็สมบูรณ์ที่สุดสำหรับเด็กๆ สำหรับผู้ที่เข้าร่วม แต่พวกเขาทำด้วยใจ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ อาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร แต่มันเป็นเรื่องเล็กๆที่เกิดขึ้นและมันก็ชุบชูหัวใจของกันและกันให้พองโต
            กิจกรรมที่ผ่านมานี้มีผู้มีส่วนร่วมหลายๆท่านที่ส่งเสริมสนับสนุนและทำให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้น ผ่านทางคุณพ่อเจ้าอาวาสเอง บรรดาคุณพ่อ พี่น้องสัตบุรุษ เด็กๆและเยาวชนทุกคนของวัดเซนต์หลุยส์ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตของกันและกันร่วมชุบชูความเชื่อ ชุบชูใจของกันและกัน
พ่อเชื่อว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราทำให้กันและกันในแต่ละวันนี่แหละเป็นการชุบชูหัวใจของกันให้พองโต และสูบฉีดต่อไปในแต่ละวันได้ จงเป็นเรื่องชุบชูใจของกันและกันในแต่ละวัน ด้วยรอยยิ้ม ด้วยคำพูดดีๆ ด้วยการทำเรื่องดีๆให้กันมากขึ้น และเราจะพบว่า ชีวิตในแต่ละวันมันมีความสุขที่อยู่รอบตัวจริงๆ   
ปลัดวัดสาทร

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2018


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2018
สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา

เดือนตุลาคม พร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ
วันเสาร์ที่ 13 อาทิตย์ที่ 14 และจันทร์ที่ 15 ตุลาคม ทางวัดจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนให้เด็กๆมีพ่อแม่ไปด้วยเพื่อทำกิจกรรมเยาวชน ณ บ้านเพชรสำราญ หัวหิน มีผู้เข้าร่วมกว่า 40 คน ต้องขออภัยที่ต้องปิดรับสมัครเพราะจำนวนที่นั่งและที่พักมีจำกัดจริงๆ คุณพ่อวีรยุทธและสามเณรใหญ่นำพาไป อบอุ่นใจมากขึ้นที่มีคุณพ่อคุณแม่บางท่านร่วมไปด้วยเพื่อช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกในกิจกรรมด้วย  หวังว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันแพร่ธรรมสากล กลับมาช่วยพระเยซูประกาศข่าวดีตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส
ดังนั้นในวันอาทิตย์หน้าพ่อได้เริ่มแปะรูปไว้ด้านหน้าสารวัดฉบับนี้แล้ว เพื่อให้เราเข้าใจได้ว่าการประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า ทุกคนสามารถทำได้ แม้แต่เด็กๆและเยาวชน วันนี้จึงมีเด็กๆมาช่วยทำหน้าที่ทั้งรอบพระแท่น ในวัด และนอกวัด เพื่อเริ่มทำความคุ้นเคยเรื่องใกล้ตัวและสักวันหนึ่งคงได้ทำหน้าที่สำคัญๆต่อไป พระเยซูเจ้าบอกกับสานุศิษย์ว่า “ให้ออกไปที่ลึก” นั่นหมายถึงการออกไปเพื่อทำหน้าที่จับมนุษย์ (ให้พระวาจาจับใจ)แทนพระองค์
ปีนี้พระสันตะปาปาเรียกประชุม synod กับบรรดาพระสังฆราชทั่วโลกที่รับผิดชอบงานเยาวชน “พร้อมกับเยาวชน ให้เราประกาศข่าวดี สู่ปวงชน” หวังว่าวันข้างหน้าพวกเขาคือศิษย์พระคริสต์ช่วยพระองค์ให้กับคนทั้งหลายต่อไป
เชิญชวนภาวนาและถวายเงินเพื่อการแพร่ธรรม ในสัปดาห์หน้าเป็นพิเศษด้วย
ยังมีองค์กรฆราวาสแพร่รรมมาช่วยประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ “ประกาศข่าวดี”ด้วย
พ่อต้องขอบคุณที่มีพี่น้องหลายท่านได้มาช่วยงานวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อบริการความสะดวกให้กับพี่น้องจากวัดในเขตมาร่วมสวดสายประคำด้วยกัน พอดีๆคับวัดตั้งแต่เช้าจรดถึงบ่ายสามโมง หลายคนมีความสุขใจในการบริการ แต่สิ่งที่สำคัญคือเสียงการสวดสายประคำนี่สิไม่สิ้นเสียงเลย หวังว่าพระพรของพระเจ้าทำให้จิตใจของเราทุกคนชุ่มฉ่ำใจเหมือนฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ในเวลาที่ทุกอย่างจบลงและทุกคนกลับบ้านกันแล้ว
วันพุธที่ 31 ส่งท้ายการสวดสายประคำ มิสซาตอนเย็นจะเป็นเวลา 19.00 น.มีเวลาสวดก่อนมิสซาเวลา 18.30 น.และในเวลาหลังมิสซาแล้วมีแห่แม่พระ(โคมไฟ)รอบวัด

ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
..............................................................................................

บอกกล่าว เล่าเรื่อง
รู้จักเรา รู้จักเขา
พ่อจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยได้ร่วมการอบรมเกี่ยวกับการรู้จักตนเอง และในการอบรมนั้นมีกิจกรรมหนึ่งให้บรรยายความเป็นตัวเอง ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าคิดไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไร ข้อดี ข้อเสียเขียนมาได้นิดหน่อยและก็ไม่รู้จะเขียนอะไรมากกว่านี้ละ พอเริ่มให้บรรยายเพื่อนที่รักคนที่ชอบ ก็เขียนได้พอสมควรทั้งลักษณะทั้งนิสัย ทั้งรูปประกอบยิ่งต่อมาเขียนบรรยายคนที่ไม่ชอบสักคน ยิ่งเยอะเลยทั้งข้อเสียร้อยแปดพันประการมาแบบจัดเต็มจึงมีคำกล่าวที่ว่าความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของเราเท่าเส้นผม และคนเราก็มักที่จะคิดว่าตัวเรารู้จักคนนั้น คนนี้ดี จนหลายครั้งดูเหมือนรู้จักดีกว่าตัวของเราเองด้วยซ้ำไป
ซ้ำร้ายกว่านั้นบางทีเรารู้จักคนอื่นในแบบที่เราคิดว่าเรารู้จักจากคนเขาว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้และก็สรุปว่าคนนั้นเป็นอย่างนี้แน่นนอน ฉันรู้จักเขาเพราะคนเขาว่ามา หรือรู้จักเขาจริง ๆ จากตัวของเรา จากประสบการณ์ของเรา หรือมากกว่านั้นบางทีก็เปรียบเทียบคนอื่นกับคนนั้นคนนี้ ก็เลยทำให้เราไม่ได้รู้จักตัวตนของคนคนนั้นจริง ๆ เรารู้จักเขาอย่างไรจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง จากคนอื่นหรือรู้จักเขาอย่างที่เขาเป็น
ในตอนท้ายกิจกรรมผู้นำก็สรุปว่า ทุกคนก็มีมุมดีมุมด้อย มีจุดอ่อนจุดแข็ง เราเลือกรู้จักเขาแบบไหน แบบข้อด้อย แบบมีจุดอ่อนเพื่อซ้ำเติมโจมตี หรือเพื่อช่วยเขา เพื่อพัฒนาเขา หรือเลือกรู้จักแบบที่มีจุดดีแบบที่มีจุดแข็งของเขา เพื่อเสริมสร้าง เพื่อสนับสนุน หรือเพื่อประโยชน์บางอย่างสำหรับตน
ทุกวันนี้สังคมก็ทำให้เรารู้จักตัวเราเองแบบแต่งแต้มเพิ่มเติมจากค่านิยมอื่น ๆ จากกระแสสังคมต่าง ๆ จนไม่ใช่ตัวเราจริง ๆ หรือเราก็รู้จักกันเพียงผิวเผิน อาจจะโดยทางสังคมออนไลน์ ทางช่องทางต่าง ๆ จากที่คนอื่นบอก จากที่เราคิดจนเราก็ไม่รู้จักกันจริง ๆ แบบที่เราและเขาเป็น
บางทีเพื่อจะรู้จักคนอื่นดี ๆ ก็เรียกร้องการรู้จักตัวเองจริง ๆ ยิ่งรู้จักมากเท่าไหร่ก็ช่วยให้เราเห็นคุณค่าของตนเองและคนอื่นมากขึ้น รู้จัก(ตัว)เรา ก็รู้จักเขา(ผู้อื่น) มากขึ้น
                                                                                   
ปลัดวัดสาทร

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2018


สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา

เดือนตุลาคม มารีย์คือความหวังอันชื่นฉ่ำ เมื่อเรารักกันสวดสายประคำด้วยกันกับแม่พระ พระเยซูเจ้าสอนเราให้เข้าใจถึงความรักและย้ำว่าพระเจ้าคือความรัก กิจการใดที่เรากระทำด้วยความรักนั้น พระเจ้าประทับอยู่ในบ้านเรา
ขอต้อนรับคุณพ่อบริซ(BRICE) คณะมิสซังต่างประเทศฯเป็นพระสงฆ์มิชชันนารี มาอยู่และเรียนรู้ภาษาไทยกับพิธีกรรมภาคภาษไทยโดยพักที่โรงพยาบาลและมาร่วมมิสซาช่วยบริการอภิบาลศีลศักดิ์สิทธิ์ของวัดเซนต์หลุยส์เป็นระยะเวลา 6 เดือนเพื่อทำงานในประเทศไทยต่อไป
กิจกรรมเดือนนี้ให้บ้านแต่ละบ้านเป็นโรงเรียนสร้างเสียงภาวนา  ดังไปยังบ้านใกล้เรือนเคียง  ย้ำเตือนให้เพื่อนบ้านรู้ว่าเรากำลังสวดภาวนากับแม่พระและรำพึงถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้า  เป็นสันติสุขของพระเจ้าประทับอยู่เป็นพิเศษ พระองค์บอกกับลูกศิษย์ว่า “ที่ใดภาวนาร่วมกันสองสามคนขึ้นไป พระเจ้าประทับอยู่ พระพรของพระองค์ประทานมายังสมาชิกในบ้านนั้นมากมาย” ให้การรำพึงถึงพระวาจาและภาวนาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยให้เรารักกันด้วยเสียงภาวนา ดีกว่าคุยกันไม่รู้เรื่องชวนกันทะเลาะกับคนในบ้าน จนคนข้างบ้านรำคาญอีกเขาเป็นคริสตังมิใช่หรือ
พ่อประชาสัมพันธ์แบบธรรมดาเพื่อให้เกิดความเป็นปกติ เรื่องการสวดสายประคำจะเป็นที่บ้าน ละแวกหมู่บ้านและที่วัด ทำได้หมดแล้วแต่ศรัทธา เพียงขอความร่วมมือใส่เหรียญกล่องใสในวัดเพื่อรวมจำนวนกับวัดอื่นๆทั่วประเทศไทยตามเป้าหมายเชิงปริมาณ 350,000 สายเพื่อการฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม
ใครสะดวกที่วัด วันธรรมดาเวลา 18.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์เวลา 17.00 น.
ทุกวันอาทิตย์ในสองเดือนนี้คือตุลาคมและพฤศจิกายน วัดจัดเสริมความรู้พระวาจาให้กับสภาภิบาลวัด ผู้นำองค์กร บรรดาผู้อ่านพระวาจา และบรรดาผู้ใหญ่ที่เรียนคำสอนรับศีลล้างบาป เพื่อเพิ่มเติมส่วนที่สำคัญและจำเป็นให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อการเป็นผู้นำบรรดาเพื่อนผู้อื่น  ทั้งในภาระกิจการงานและพันธกิจศิษย์พระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดี สถานที่คือห้องประชุมด้านหลังบ้านพักพระสงฆ์
ตลอดเดือนที่ผ่านมาเห็นสนามหญ้าข้างวัด มีพี่น้องสนใจเลือกซื้อหนังสือพระวาจา หนังสือศรัทธาและเหรียญรูปพระทำให้เจ้าหน้าที่ศูนย์คำสอนมาบริการประทับใจจนหลายคนติดใจ แต่คงเป็นครั้งๆไป ไม่ทำบ่อยเพื่อให้สนามหญ้าเป็นที่พักพิงพึ่งพาพระ นั่งเงียบภาวนาร่วมพิธีแบบสำรวมใจได้  นอกจากนี้ยังมีครูกับนักเรียนโรงเรียนเซนต์หลุยส์มาช่วยแนะนำกิจกรรมยุวธรรมทูต ช่วยพระเยซูเจ้าทำงานข่าวดี  ทำให้เขามีรายได้เพื่อเป็นต้นทุนทำงานรักและรับใช้เพื่อนผู้อื่นได้อย่างเต็มความสามารถ ขอสนับสนุนและส่งเสริมกิจการดีเหล่านี้ ใครหยิบยื่นน้ำเพียงแก้วเดียวก็เท่ากับทองคำ กำยานและมดยอบให้กับพระองค์แล้ว
วันเสาร์ที่ 13 อาทิตย์ที่ 14 และจันทร์ที่ 15 ตุลาคม ทางวัดจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนให้เด็กๆมีพ่อแม่ไปด้วยเพื่อทำกิจกรรมเยาวชน ณ บ้านเพชรสำราญ หัวหิน นับเป็นกิจกรรมที่เตรียมฉลอง 350 ปีมิสซังสยามด้วย
วันพุธที่ 31 ส่งท้ายการสวดสายประคำ มิสซาตอนเย็นจะเป็นเวลา 19.00 น.มีเวลาสวดก่อนมิสซาเวลา 18.30 น.และในเวลาหลังมิสซาแล้วมีแห่แม่พระ(โคมไฟ)รอบวัด

ขอพระเจ้าอวยพร
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
....................................................................................................................................
         
                       
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
วัด = ครอบครัวเดียวกัน
คุณพ่อช่วยอบรมลูกฉันที เดี๋ยวนี้ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยจะมาวัด ไม่ค่อยจะสนใจแก้บาปรับศีลเลย ลูกไม่เอาเรื่องศาสนาเลย ฉันจะต้องทำอย่างไร พ่อน่าจะช่วยได้ จะมีประโยคคำถาม ประโยคขอร้องอีกหลายๆประโยค ที่พ่อมักได้ยิน หรือคุณพ่อท่านอื่นๆหลายท่านมักได้ยิน เป็นคำถามยอดนิยมที่เกิดขึ้นกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นญาติผู้ใหญ่ซึ่งแสดงถึงความห่วงใยต่อความเชื่อของลูกๆหลานๆ เวลามีคำถามเหล่านี้ มีประโยคขอความช่วยเหลือแบบนี้ คำตอบที่พ่อมักให้ก็คือ พ่อไม่เตือนหรอก บอกไม่ได้หรอก โตแล้ว ถ้าไม่บอกไม่สอนตั้งแต่เล็กๆไม่ปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆด้วยการให้เขามาวัด มาร่วมกิจกรรมของวัด มามีส่วนในงานของวัดเลยในวัยเด็ก พอโตเขาก็จะไม่มา พอโตเขาก็จะไม่คุ้นเคย และไม่รู้สึกว่าตนเองต้องเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนวัด ในกิจกรรมของวัดที่สามารถทำได้ พ่อบอกได้แค่ตอนเด็กๆที่พ่อแม่พาเขามาวัด  พ่อก็ไม่รู้ว่านี่เป็นคำตอบของคำถามที่อยากได้ยินหรือเปล่า
พี่น้อง ความเชื่อของเด็กๆ ความเชื่อของลูกหลานของเรา จะได้รับการปลูกฝังและได้รับการหล่อหลอมจากครอบครัวเป็นอันดับต้น และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระสันตะปาปาฟรังซิสก็เน้นย้ำเมื่อพูดถึงครอบครัวเสมอๆ ใครจะสอนลูกๆ หลานๆ ให้มาวัด ให้สวดภาวนา ให้แก้บาปรับศีล ให้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของวัด อันดับแรกก็คือ ครอบครัว พ่อแม่ อากง อาม่า พี่ป้าน้าอา ถ้าเด็กถูกเสริมสร้างในบรรยากาศแบบนี้ เขาก็จะอยู่ในบรรยากาศแบบนี้แบบไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นภาระเพิ่ม
อันดับต่อมาที่จะช่วยส่งเสริมพวกเขาได้ก็คือชุมชนวัด คำถามนี้พ่อพอจะตอบได้ พอจะช่วยได้ว่าวัดจะส่งเสริมเด็ก หล่อหลอมเด็กอย่างไร ทางหนึ่งก็โดยกิจกรรมต่างๆที่จะช่วยส่งเสริมพวกเขาตามบทบาทที่เป็น การอบรมส่งเสริมบทบาทหน้าที่ที่พวกเขาสามารถทำได้ เป็นเด็กช่วยมิสซา ผู้อ่านบทอ่าน กลุ่มเยาวชนของวัด ฯลฯ หรือแม้กระทั่งค่ายอบรมส่งเสริมความเชื่อ ค่ายเยาวชนวัดที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม วันเสาร์ที่ 13-15 ตุลาคมนี้ เพื่อเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีเสริมสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มเด็กๆและเยาวชนของวัด และส่งเสริมปลูกฝังความเชื่อของพวกเขา(รายละเอียดติดตามได้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ข้างวัด) ก็ล้วนเป็นแนวทางที่สามารถช่วยส่งเสริมและหล่อหลอมเด็กๆและเยาวชนให้ผูกพันกับวัด แต่ทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ผู้ปกครอง
พ่อจึงเชิญชวนพี่น้องได้ส่งเสริมสนับสนุนทั้งผลักทั้งดันๆลูกๆหลานให้มามีบทบาทมาร่วมในกิจกรรมต่างๆของวัด พ่อเชื่อว่าการได้มีโอกาสมาสัมผัส มาใกล้ชิดกับวัด จะช่วยให้พวกเขาคุ้นเคย ช่วยให้พวกเขามีความผูกพันกับวัด กับชุมชน กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในวัด และพวกเขาจะไม่ทิ้งวัดไปเมื่อโตขึ้น เพราะพวกเขาจะไม่รู้สึกว่าวัดเป็นที่สำหรับคนแปลกหน้าที่มาพบกันและก็แยกย้ายกันเมื่อจบมิสซา แต่วัดจะเป็นที่ๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาพบเจอกัน พ่อเห็นภาพเยาวชนหรือสัตบุรุษหลายๆท่านในวัดเป็นเพื่อนสนิทกัน คุ้นเคยกันก็เพราะว่าได้มาร่วมกิจกรรมของวัด มาช่วยเหลืองานของวัดตามที่ตนเองสามารถทำได้ ทำให้ภาพของการมาวัดไม่ใช่เพียงแค่การมาทำหน้าที่คริสตชนเท่านั้นแต่กลายเป็นภาพของการมาพบเจอกันของกลุ่มเพื่อน กลุ่มคนรู้จัก และนี่คือความหมายของชุมชนวัด เพราะวัดคือครอบครัวใหญ่ที่เราจะมาพบกันทุกๆอาทิตย์ หรือทุกๆครั้งที่มีโอกาส

ปลัดวัดสาทร