วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม2019
สัปดาห์ที่สี่ในเทศกาลมหาพรต
พี่น้องที่รัก...
        เราเข้าสู่มหาพรตอย่างเข้มข้น สีสันของเสื้อพระสงฆ์เป็นสีชมพูกุหลาบ สื่อถึงความหมายการเตรียมจิตใจผ่านคึ่งทางแล้ว การรอคอยด้วยความชื่นชมยินดีเป็นการเดินทางมหาพรตที่เปี่ยมล้นด้วยความหวังถึงการมีชีวิตใหม่ เหมือนงานเลี้ยงที่พระเป็นเจ้าจัดเตรียมรอคอยพวกเราทุกคนในวันอาทิตย์ปัสกา เหมือนเรื่องเล่าในพระวรสารวันนี้ ลูกที่ผ่านชีวิตเก่าคือบาป บัดนี้ได้มีชีวิตใหม่ นำความชื่นชมมาสู่ชาวเราอีกครั้งหนึ่ง
        ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 5 เมษายน เวลา 17.00 น.จนถึงเย็นวันเสาร์ที่ 6 เมษายน เวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า “อาศัยพระคริสตเจ้า พร้อมกับพระคริสตเจ้า และในพระคริสตเจ้า”ตื่นเฝ้า ณ วัดพระจิตเจ้า รพ.เซนต์หลุยส์ ใช้เวลาเพื่อ “อยู่ที่นี่กับพระอาจารย์” เพื่อเข้าเงียบสร้างพลับพลาใจให้กับพระเยซูเจ้า แต่ละชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์มีเพื่อนพี่น้องสามารถเปลี่ยนเวรยามเฝ้าศีลแบบส่วนตัวและกลุ่มเพื่อนหมู่คณะ แต่จะไม่มีพิธีกรหรือการส่งเสียงรบกวนใด เว้นแต่ตอนทำวัตรและสวดสายประคำเท่านั้น
        นอกจากนี้มีโปรดศีลอภัยบาปโดยสงฆ์แห่งเมตตาธรรมในคืนวันศุกร์ต้นเดือนที่วัดเซนต์หลุยส์ ตั้งแต่เวลา 19.00 จนถึง 21.00 น. พี่น้องสามารถเชิญชวนเพื่อนพี่น้องที่ห่างเหินไป นำพามาเพื่อการคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักรในมหาพรตและปัสกาปีนี้ จะทำให้เราปฏิบัติกิจเมตตาทั้งฝ่ายการและจิตใจอย่างดี
        พ่อขอเชิญชวนทุกคนจัดเวลาพิเศษเพื่อเตรียมตัวเดินหน้าเข้าสู่ปัสกาอย่างดี

        ศุกร์ที่ 5 เมษายน 2019
        17.00 น.  ตั้งศีลมหาสนิทที่วัดพระจิตเจ้า(เริ่มการตื่นเฝ้า 24 ชั่วโมง)
        17.30 น.  มิสซาศุกร์ต้นเดือน พระแท่นใหญ่วัดเซนต์หลุยส์
        18.00 น.  เดินรูป 14 ภาค วัดเซนต์หลุยส์
        19.00 น.  วจนพิธีกรรมศีลอภัยบาป พระสงฆ์เมตตาธรรมฟังแก้บาปที่วัดเซนต์หลุยส์ถึงสามทุ่ม
                (มีกลุ่มคณะสลับเฝ้าศีลสลับเปลี่ยนครั้งละ 1 ชั่วโมงตลอดคืน รักษาความเงียบและสงบ)
        เสาร์ 6 เมษายน 2019
        05.00 น.  ทำวัตรเช้าต่อหน้าศีลมหาสนิทวัดพระจิตเจ้า
        06.00 น.  มิสซาประจำวัน พระแท่นใหญ่วัดเซนต์หลุยส์
                (วัดพระจิตเจ้า ยังคงทำการตื่นเฝ้าต่อไปจนถึงเวลา 17.00 น.)
        10.00 น.  ทำวัตรสายต่อหน้าศีลมหาสนิทวัดพระจิตเจ้า
        15.00 น.  ทำวัตรเย็นต่อหน้าศีลมหาสนิทวัดพระจิตเจ้า
        16.00 น.  สวดสายประคำต่อหน้าศีลมหาสนิทวัดพระจิตเจ้า
        17.00 น.  อวยพรศีลมหาสนิทปิดพิธีตื่นเฝ้า 24 ชั่วโมงวัดพระจิตเจ้า
        17.30 น.  มิสซาประจำวันอาทิตย์ที่ 5 มหาพรตวัดเวนต์หลุยส์
        พระเยซูเจ้าเชื้อเชิญ...อยู่กับพระองค์ “ที่นี่น่าอยู่จริงๆ....”

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


                                                                                                                       
ความรัก คือ การให้ชีวิต และความยินดีที่ได้ให้ชีวิต (การให้อภัย)
            ลูกชายคนเล็ก ​รู้​สำนึก​และ​คิด​ว่า ‘​คน​รับ​ใช้​ของ​พ่อ​ฉัน​มี​อาหาร​กิน​อุดมสมบูรณ์ส่วน​ฉัน​อยู่​ที่นี่หิว​จะ​ตาย​อยู่​แล้วฉัน​จะ​กลับไป​หา​พ่อพูด​กับ​พ่อ​ว่า ‘​พ่อ​ครับลูก​ทำ​บาป​ผิด​ต่อ​สวรรค์​และ​ต่อ​พ่อลูก​ไม่​สมควร​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​ลูก​ของพ่อ​อีกโปรด​นับว่า​ลูก​เป็น​ผู้รับ​ใช้​คน​หนึ่ง​ของ​พ่อ​เถิด” เขา​ก็​กลับไป​หา​พ่อขณะที่​เขา​ยัง​อยู่​ไกลพ่อ​มองเห็น​เขารู้สึก​สงสารจึง​วิ่ง​ไป​สวมกอด​และ​จูบ​เขา.....พ่อ​พูดกับลูกชายคนพี่​ว่า “​ลูก​เอ๋ยลูก​อยู่​กับ​พ่อ​เสมอ​มาทุก​สิ่ง​ที่​พ่อ​มีก็​เป็น​ของ​ลูกแต่​จำเป็นต้อง​เลี้ยง​ฉลอง​และ​ชื่น​ชม​ยินดีเพราะ​น้องชาย​คน​นี้​ของ​ลูก​ตาย​ไป​แล้วกลับ​มี​ชีวิต​อีกหายไป​แล้วได้​พบ​กัน​อีก”​' (ลก 15:17-20,31-32)
มองดูผู้เป็นพ่อ เราเห็นภาพความรักของพระบิดา  พ่อมองอยู่ตลอดเวลา พ่อตั้งใจเสมอไม่เคยลืมลูก พ่อทุ่มเทและไม่ได้เพียงแค่ทำพอผ่านผ่าน พ่อมองไปไกลไกลด้วยรู้ว่าจะต้องทุ่มเทเพื่อจะได้ลูกกลับมา  เวลาพบแล้วพบลูกที่ผิดพลาดหนักมาก ความรักมองข้ามความอ่อนแอ ความรักมีแต่มองดูลูกเห็นลูกกำลังเผชิญหน้ากับความเลวร้ายสิ้นหวังและเจ็บปวด ความรักจึงผลักดันความเมตตาสงสารออกมา  ภาพของความรักเมตตาจึงแสดงอาการเข้าสวมกอดทำทุกอย่างเท่าที่สามารถเพื่อปลอบโยนดวงใจที่กำลังเจ็บปวดเจ็บช้ำ
ความรักของพ่อ ยังส่งต่อให้กับลูกชายคนโต ส่งต่อชีวิตที่มีความสุขมีความหมายแท้จริง ให้กับลูกชายที่ตนรักไม่แพ้กัน เพราะบางทีด้วยความไม่เข้า มองมุมอื่นๆที่ไม่เข้าใจมุมของพ่อ อาจเกิดอาการน้อยใจ อาจคิดนึกว่าพ่อไม่รักตน รักตนน้อยกว่า รักอีกคนหนึ่งมากกว่า
“เพราะ​เห็น​แก่​เรา พระ​เจ้าทรง​ทำ​ให้​พระองค์​ผู้​ไม่​รู้จัก​บาป​เป็น​ผู้รับ​บาป เพื่อ​ว่า​ใน​พระองค์​เรา​จะ​ได้​กลายเป็น​ผู้​ชอบ​ธรรม​ของ​พระ​เจ้า.....​ทรง​ทำ​ให้​โลก​คืน​ดี​กับ​พระองค์​ใน​องค์​พระ​คริสต​เจ้า พระองค์​มิได้​ทรง​เอา​ผิด​กับ​มนุษย์ แต่​ทรง​มอบ​ให้​เรา​ประกาศ​สาร​แห่ง​การ​คืน​ดี​นี้”(เทียบ 2คร 5:19,20)
พ่อหวังให้ลูกชายทั้งสองมีความสุขแท้ที่แท้จริง  สำหรับลูกชายคนเล็ก พ่อหวังให้ปล่อยวางความผิดพลาด นำความพลาดและผิดที่มีนำมาใช้เป็นบทเรียนสำหรับชีวิตของตน  นำมาใช้เป็นบรรทัดฐานเพื่อจะได้เข้าใจเพื่อนพี่น้องคนอื่นที่ก็มีความบกพร่องพลาดผิดเช่นกัน จะได้สามารถมอบความรักให้กัน อภัยกันได้  พ่อหวังให้ความรักของพ่อเป็นแบบชีวิตสำหรับลูกน้อย
สำหรับลูกชายคนโต สุขแท้มิใช่อยู่แค่มีมากน้อยมีเท่าไหร่  แต่สุขแท้อยู่ที่ “ได้ให้ชีวิต...มีความชื่นชมยินดีที่ตนได้มีส่วนให้ชีวิตแก่คนอื่น”  เช่นกันพ่อหวังให้พี่ชายจะได้เดินตามแบบอย่างความรักเมตตา เมตตาด้วยใจกว้าง  พ่อหวังให้ลูกชายจะได้มีความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่ได้จากการให้ ให้ชีวิตกับผู้คนรอบข้าง เป็นต้นคนในครอบครัวนั่นเอง.

                                         นกขุนทอง.

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม2019

สัปดาห์ที่สามในเทศกาลมหาพรต
พี่น้องที่รัก...
        เป็นสัปดาห์ที่สาม พระวรสารพูดถึงต้นมะเดื่อ ปลูกมาสามปีแล้วยังไม่มีผล จงโค่นมันทิ้งเสีย มหาพรตเริ่มเดินทางมาถึงหลักหมุดไม้กางเขนเป็นสัปดาห์ที่สาม หากพระวาจายังไม่บังเกิดผลในตัวเองต้องรีบทำอะไรบ้างแล้ว ก่อนที่พระองค์จะโค่นเราทิ้งเสีย พยศชั่วที่ทำให้ชีวิตของเรายังวนเวียนเรื่องเก่าๆที่เสียวิญญาณและพระพรของพระเจ้า จงตัดกิ่งที่ไม่เกิดดอกออกผลเสีย หมั่นรดน้ำพระวาจาทรงชีวิตและคลุกเคล้าด้วยอาหารอันศักดิ์สิทธิ์ ศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ยังมีอนาคตและเต็มไปด้วยความหวังว่ามันจะเกิดผลออกมา และเป็นผลที่พระเจ้าต้องการ
        ขอชื่นชมบรรดากลุ่ม คณะทำงานของวัดและองค์กรต่างๆ ได้ออกมาพบปะพี่น้อง ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องใหม่ ก็ขอให้เป็นขอบฟ้าใหม่ที่พร้อมจะทำให้ชุมชนแห่งความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์มีชีวิตชีวา หากเปรียบเทียบองค์กรของภาครัฐ ยังต้องให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่นั่งในสำนักงานเพื่อไปหาชาวบ้าน เสนอความช่วยเหลือและบอกเล่าการทำงานให้ถึงปากถึงท้องถึงกับเคาะประตูบ้าน ส่วนภาคเอกชนนั้นเดินหน้าเต็มพิกัดเพื่อทำอย่างไรให้ทุกคนได้เข้ามาในวงจรธุรกิจการค้าขาย ขายตรง ขายอ้อม ขายผ่อน ขายประกัน ขายเชื่อ แม้แต่ยังขายด้วยระบบออนไลน์ สามารถติดต่อกันได้ตลอดวันตลอดคืน
        การทำให้สัตบุรุษหรือเพื่อนพี่น้องของเรา ต้องมีขอบฟ้าใหม่ ยิ่งลูกค้ามีน้อยต้องกล้าประชิดตัวและมีวิธีการใหม่ให้ลูกค้าสนใจและติดใจ อย่าเป็นเพียงแค่ save zone รอดไปวันๆ ถึงแม้ชีวิตความศรัทธาไม่ใช่ธุรกิจการค้าและตีคุณค่าของความเชื่อเป็นสินค้ากับลูกค้า แต่เมื่อเส้นทางมันคู่ขนานกันไป มองเขามองเรา และแข่งขันกันให้ไปถึงเป้าหมาย คงไม่ใช่ไปด้วยกันไปไม่ได้ ชีวิตคนมีทั้งร่างกายและวิญญาณ เรื่องปากท้องและจิตใจ จึงต้องอาศัยเดินทางไปด้วยกัน ผ่านทางไม้กางเขน cross พบกับ พระสิริโรจน์ crown ฉันใดชีวิตที่ประสบความสำเร็จ success ต้องมี passion เช่นเดียวกัน
        มี cross และ passion ในเวลามหาพรตสำหรับผู้ที่ปรารถนา crown และ successคือการเดินทางไม้กางเขนหรือเดินรูปสิบสี่ภาค เป็นการเดินทางที่พระพรและทำให้เราไตร่ตรองถึงชีวิตในเวลาพิเศษนี้ได้อย่างดี ในวันธรรมดาก็เป็นวันศุกร์ เวลา 18.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 09.30 และ 17.00 น.นอกจากนี้สรรหาหนังสือดีดี มากำกับตัวเราให้มุ่งมั่นไปข้างหน้าเพื่อ อยู่ในหนทางมหาพรตสู่ปัสกาอย่างมีความสุขใจ การรับศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างใส่ใจ จะทำให้เข้าใจถึง การแก้บาปและรับศีลมหาสนิทในกำหนดปัสกาอย่างมีความหมายในชีวิต
        ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 5 เมษายน เวลา 17.00 น.จนถึงเย็นวันเสาร์ที่ 6 เมษายน เวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า “อาศัยพระคริสตเจ้า พร้อมกับพระคริสตเจ้า และในพระคริสตเจ้า”ตื่นเฝ้า ณ วัดพระจิตเจ้า รพ.เซนต์หลุยส์ ใช้เวลาเพื่อ “อยู่ที่นี่กับพระอาจารย์” เพื่อเข้าเงียบสร้างพลับพลาใจให้กับพระเยซูเจ้า แต่ละชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์มีเพื่อนพี่น้องสามารถเปลี่ยนเวรยามเฝ้าศีลแบบส่วนตัวและเพื่อนหมู่คณะ แต่จะไม่มีพิธีกรหรือการส่งเสียงรบกวนใด
        นอกจากนี้มีโปรดศีลอภัยบาปโดยสงฆ์แห่งเมตตาธรรมในคืนวันศุกร์ต้นเดือนที่วัดเซนต์หลุยส์ ตั้งแต่เวลา 19.00 จนถึง 21.00 น. พี่น้องสามารถเชิญชวนเพื่อนพี่น้องที่ห่างเหินไป นำพามาเพื่อการคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักรในมหาพรตและปัสกาปีนี้ จะทำให้เราปฏิบัติกิจเมตตาทั้งฝ่ายการและจิตใจอย่างดี
        ขอให้ทุกคนมีพลังใจ เพื่อการเดินทางมหาพรตอย่างมุ่งมั่นต่อไป

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม



"ชวนมากลับใจเปลี่ยนชีวิตตน ชวนมาเป็นฮีโร่กัน"

พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​โมเสส​อีก​ว่า ท่าน​ต้อง​บอก​ชาว​อิสราเอล​ดังนี้​ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระ​เจ้าของ​บรรพ​บุรุษ​ของ​ท่าน พระ​เจ้าของ​อับ​รา​ฮัม พระ​เจ้าของ​อิสอัค และ​พระ​เจ้าของ​ยา​โคบ ทรง​ส่ง​ข้าพเจ้า​มา​หา​ท่าน​ทั้งหลาย นาม​นี้​จะ​เป็น​นาม​ของ​เรา​ตลอดไป ชน​รุ่น​ต่อๆ ไป​จะต้อง​เรียก​เรา​ด้วยนาม​นี้” (อพย 3:15)
          "ฮีโร่" คำนี้เราทุกคนฟังแล้วเข้าใจดี ว่าคืออะไร. แม้หลายครั้งเราจะรับรู้เข้าใจมากจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ เรารู้ดีว่า "ฮีโร่" มักจะมาจากเรื่องราวที่ผู้คนจินตนาการ. และเรายังเข้าใจดีว่า แม้เราจะจินตนาการให้โอเวอร์เกินพ้นไปจากความจริงไปมาก หากแต่เราก็ยอมรับด้วยใจจริงว่า "ฮีโร่ตัวจริงในชีวิตจริง" ก็มีอยู่จริงในชีวิตของเรา. เราแต่ละคนต่างก็มี "ฮีโร่" ประจำชีวิตตนเอง. เราก็ยกย่องพวกเขาเหล่า "ฮีโร่...ของฉัน"
          ครั้งหนึ่ง รุ่นพี่คนหนึ่งกับความใจกว้างที่มอบให้ ก็กลายเป็นเรื่องราวเป็นบุคคลที่ประทับใจตัวพ่อเอง ในวันนั้นในวัย 10 ขวบ. ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ใจกว้างเรื่องเล็กน้อย ก็กลายเป็น "ฮีโร่" ในใจของน้องแล้ว. หรือเมื่อฟังเรื่องราวความรักความอดทนของพ่อตนเอง ประกอบกับได้เห็นความรักความขยันอดทนของท่านในทุกวัน. ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักและอดทนทีละน้อยทีละวัน ก็กลายเป็น "ฮีโร่" ในใจของลูกแล้ว.
"จิตใจ​ข้าพเจ้า​เอ๋ย จง​ถวาย​พระ​พร​แด่​พระ​เจ้า​เถิด จง​อย่า​ลืม​พระคุณ​ต่างๆ ที่​พระองค์​ประทาน​ให้  พระองค์​ประทาน​อภัย​ความผิด​ทั้งหลาย​ของ​ท่าน ทรง​รักษา​โรคภัย​ทั้งหมด​ของ​ท่าน  ทรง​ช่วยชีวิต​ท่าน​ให้​พ้น​จาก​เหว​ลึก ประทาน​ความ​รัก​มั่นคง​และ​พระ​เมตตา​เป็น​ดัง​มงกุฎ​แก่​ท่าน" (สดด 103:2-4)
          พระเจ้าปรารถนาและเรียกร้องเราให้ "กลับใจ-เปลี่ยนชีวิตของตน"  อาจจะมีคำถามว่า "แล้วเราจะต้องปรับเปลี่ยนไปสิ้นสุดที่ตรงไหน"  หากจะตอบว่าเอาแค่ "เป็นฮีโร่ให้ได้" เราจะไหวไหมใจเราจะสู้และกล้ากลับใจเปลี่ยนชีวิตของตนไหม.
          "ฮีโร่" แท้จริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องทำเรื่องราวใหญ่โตอะไรมากมาย แค่ใจกว้างในเรื่องเล็กน้อย หรือ  แค่มอบความรักและอดทนทีละน้อยทีละวัน ก็กลายเป็น "ฮีโร่" ในใจใครหลายคนแล้ว เป็นต้นคนใกล้ตัว คนในครอบครัว.
“​ท่าน​คิด​ว่า​ชาว​กา​ลิ​ลี​เหล่านี้​เป็น​คน​บาป​มากกว่า​ชาว​กา​ลิ​ลี​ทุก​คน​หรือ จึง​ต้อง​ถูก​ฆ่า​เช่นนี้.....  แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ.....  มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” (เทียบ ลก 13:2,4-5)
          สัปดาห์นี้ ไม่ขอชวนให้เราแค่คิดทบทวนย้อนหลังว่าเราเป็นคนบาป เราทำผิดพลาดทำบาปเรื่องใดมาบ้างเท่านั้น. แต่ขอชวนเชิญให้เราหันมาดูแลกันและกัน มอบกิจการความรัก มอบความใจกว้าง มอบความอดทนที่จะรักและอภัยกันทีละครั้งและต่อเนื่องให้แก่กัน.
          สัปดาห์นี้เชิญชวนเรา มาร่วมเตรียมชีวิต มาร่วมแบกกางเขนกับพระเยซูเจ้า ด้วยการพยายามทำตนเองให้เป็น "ฮีโร่" ทีละน้อย ทีละครั้ง ทีละวันกันครับ.

                                         นกขุนทอง.

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2019
สัปดาห์ที่สองในเทศกาลมหาพรต
พี่น้องที่รัก...
        สารวัดฉบับนี้ พ่อตั้งใจเอาวาระการประชุมของสภาภิบาลวัดมาให้พี่น้องได้อ่าน เพื่อรับรู้เหมือนกันว่าตัวแทนของพี่น้องกำลังทำอะไร ประชุมเรื่องอะไร และมีอะไรที่เราสามารถมีส่วนร่วม เหมือนกับเราก็นั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย  ปกติประชุมสภาภิบาลวัดประชุมในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สามของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา 13.45-15.30 น.เกือบสองชั่วโมงหย่อนสิบห้านาที สมัยก่อนเราก็เรียกว่าสภาวัด ปัจจุบันนี้เราให้ชื่อนี้มีความหมายว่าเรากำลังทำหน้าที่หน้าช่วยอภิบาลได้ ซึ่งหมายถึงการเอาใจใส่เรื่องวิญญาณสัตบุรุษเป็นสำคัญ มากกว่าเรื่องวัตถุ แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องเอาใจใส่ฝ่ายร่างกายด้วย เพราะกายและใจต้องไปด้วยกัน เพียงแต่เน้นเรื่องวิญญาณมากกว่า  ตามระเบียบข้อกำหนดของสังฆมณฑลเรื่องสภาภิบาลวัด  ให้เป็นเสียงและแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการอภิบาลวัด ซึ่งเป็นชุมชนแห่งความเชื่อที่มีการปกครองดูแล เทศน์สอนและช่วยให้มีความศักดิ์สิทธิ์ พร้อมก้าวไปด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวา
        “ทีนี่น่าอยู่จริง...” เราจะสร้างวิหารของพระเจ้าในจิตใจของแต่ละคนและในชุมชนของวัดเรา

วาระการประชุม
คณะกรรมการสภาภิบาลวัดเซนต์หลุยส์(2018-2021)
ครั้งที่ 6 สมัยที่ 16 วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2019
วาระที่ 1   เรื่องประธานแจ้งให้ทราบ
1.1 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า ศ.5 และ ส.6 เมษายน 2019 วัดเซนต์หลุยส์และพระจิตเจ้า
1.2 คืนวันศุกร์ที่ 5 ห้องคำสอนและลานหน้าวัดพระจิตมีสอนถักใบลานเพื่อเตรียมวันอาทิตย์ใบลาน
1.3 เสาร์ที่ 30 มีนาคม ประชุมเตรียมสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ เวลา 14.30 น.ห้องคำสอนผู้ใหญ่
วาระที่ 2  รับรองรายงานการประชุม
          รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 5 สมัยที่ 16
วาระที่ 3  เรื่องสืบเนื่อง
           3.1  กิจกรรม 365 วันของวัดเซนต์หลุยส์เตรียมฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม 
          + มี.ค.2018  ความคิดหลักอาทิตย์ที่ 24 , 31 เปิด “ขอบฟ้าใหม่”ขององค์กรและกลุ่มต่างๆของวัด
          + เม.ย.2018 มุทิตาจิตผู้อาวุโส วันอาทิตย์ที่ 7 และ 28 เมษายน โปรดศีลเจิมผู้สูงอายุนอกมิสซา
          + พ.ค.2018  รวมพลังวิถีชุมชนวัดเซนต์หลุยส์ (ก้าวต่อไป) กับ โครงการ 4 สถานีมีชีวิตชีวา
          + มิ.ย.2018  กิจเมตตาผู้ยากไร้  กำหนดวันส่งของ 2 วันอาทิตย์ และมอบของ 2 วันอาทิตย์
           3.2 ปฏิทินงานเดือนมีนาคม และเมษายน 2019
          +  5 - 6 เมษายน 2019  “24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า” สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
                   (กำหนดเวรหน้าที่ 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า)
        3.3 ติดตามแผนปฏิบัติงานประจำปี 2019 ขององค์กรและกลุ่มงานต่างๆ
วาระที่ 4  ปรึกษาหารือ
        4.1 สัมมนาประจำปี 2019 องค์กรและกลุ่มงานต่างๆของวัดเซนต์หลุยส์ สถานที่ วันเวลา
          4.2 กำหนดการสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์และปาสกา ประจำปี 2019
          4.3 ตารางการฉลอง 350 ปีมิสซังสยามของวัดเซนต์หลุยส์
                   4.3.1 ระดับสังฆมณฑล
                   4.3.2 ระดับเขต
                   4.3.3 และวัด
วาระที่ 5  การเงินของสภาภิบาลวัด
วาระที่ 6  อื่นๆ (ถ้ามี)
นัดประชุมครั้งหน้า อา. ........  เมษายน 2019 เวลา 13.45 น.



พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์

"หยุด วางทุกสิ่ง และฟังเสียงพระ"
            เสียงหนึ่งดังออกมาจากเมฆว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรของเรา ผู้ที่เราได้เลือกสรร จงฟังท่านเถิด” (ลก 9:35)
          เราจะกล้าวางกล้าหยุดไหม เมื่อพระบอก สัปดาห์แรกขอให้กล้าเชื่อในพระ สัปดาห์นี้ ขอให้เรา "กล้าที่จะวางใจในพระ และหยุด หยุดจริงๆ หยุดอยู่กับพระองค์"
"ข้าพเจ้าขอบอกว่า หลายคนประพฤติตนเป็นศัตรูกับไม้กางเขนของพระคริสตเจ้า ปลายทางของพวกเขาเหล่านี้คือความพินาศ พระเจ้าของเขาทั้งหลายคือท้อง เขาสนใจสิ่งของของโลก  แต่บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ในสวรรค์ เราเฝ้าคอยพระผู้ไถ่จากแดนนี้ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า"  (ฟป 3:18-20)
          เมื่อเราสามารถ "หยุด" "หยุดอยู่กับพระองค์"ได้แล้ว  เราจะได้ "ฟังเสียง" ของพระองค์ที่ตรัสกับเรา พระองค์จะได้ชี้ให้เราเห็นเข้าใจ เข้าใจว่าขณะนี้เรากำลังมีชีวิตอยู่ร่วมทาง ทางแบกไม้กางร่วมกับพระองค์หรือไม่
"เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดลงแล้ว ก็มีหม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่ลอยผ่านระหว่างกลางสัตว์ที่ผ่าซีกเหล่านั้น  ในวันนั้นพระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า “เรามอบแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของท่าน ตั้งแต่แม่น้ำแห่งอียิปต์ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส.....  อับรามเชื่อพระเจ้า และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา (ปฐก 15:17-18,6)
          เช่นเดียวกับอับราฮัม-บิดาแห่งความเชื่อ อับราฮัมกล้ายอมวางทุกอย่างไว้ข้างหลัง ทุกอย่างที่เป็นที่สนใจภูมิใจของคนทั้งโลก แต่ท่านกลับยอมปล่อยทิ้งไว้ข้างหลัง และหันมาหยุด...ฟังเสียงของพระ และติดตามพระองค์เท่านั้น
          เหมือนในเพลงสดุดีที่เราได้ฟัง เป็นดังเสียงในใจของอับราฮัม และรวมถึงทุกคนที่หยุด...วางสิ่งอื่น...และฟังเสียงของพระว่า "พระเจ้าทรงเป็นความสว่างและทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใด พระเจ้าทรงเป็นป้อมปราการปกป้องชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหวาดกลัวผู้ใด"  (สดด27:1)
           เช่นเดียวกัน เราก็จะเป็นเหมือนกับท่าน เราจะสามารถผ่านบททดสอบชีวิต และกลายเป็น "ผู้มีความเชื่อแท้จริง-ผู้ชอบธรรม"  ด้วยเราพยายาม "หยุด...หยุด-วางจากทุกสิ่ง และฟังเสียงของพระองค์"        
                                                                                                นกขุนทอง