วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016

พี่น้องที่รัก
                สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงเชิญชวนให้คริสตชนทั่วโลก เข้ามารับพระเมตตาของพระเจ้าผ่านทางพิธีเคารพศีลมหาสนิท การเฝ้าศีลมหาสนิท การรับศีลอภัยบาป คำเชิญของพระองค์นี้ได้รับการตอบรับจากวัดคาทอลิกทุกแห่งทั่วโลก โดยที่พระสันตะปาปาฟรังซิสเองจะเป็นผู้ประกอบพิธีนมัสการศีลมหาสนิทที่มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม ถึงวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม
                เพื่อร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาและพระศาสนจักรทั้งครบ พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช จึงเชิญชวนให้ทุกวัดได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา และ พระศาสนจักรทั่วโลก ที่จะเชิญชวนหมู่มวลสัตบุรุษให้เข้ามาพึ่งพาพระเมตตาของพระเจ้าในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้
                นี่จึงเป็นโอกาสพิเศษที่พระศาสนจักรเชิญชวนพี่น้องคริสตชน โดยเฉพาะผู้ที่เหินห่างพระศาสนจักรไป หรือขาดการรับศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลานาน บัดนี้พระเยซูเจ้าทรงเปิดประตูรอคอยทุกคนอยู่ พระเมตตาของพระองค์เปิดหนทางกว้างต้อนรับทุกคนแล้ว
                สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงเรียกร้องให้คริสตชนทุกคนอุทิศเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อเข้ามาเฝ้าพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า "การเฝ้าศีล 24 ชั่วโมง" เป็นกิจศรัทธาที่พระองค์ปรารถนาให้ทุกเขตสังฆมณฑลจัดขึ้นในระหว่างวันศุกร์และวันเสาร์ ของอาทิตย์ที่4 ในเทศกาลมหาพรต เพื่อว่าสัตบุรุษรวมถึงบรรดาเยาวชน จะกลับมาสู่การรับศีลอภัยบาป เพื่อเขาเหล่านั้นจะมีประสบการณ์ในการค้นพบเส้นทางของการกลับมาคืนดีกับพระเจ้า ด้วยการภาวนาอย่างเข้มข้น และค้นหาความหมายของชีวิต ให้เราหันมาให้ความสำคัญกับศีลอภัยบาปว่าเป็นศูนย์กลางของชีวิตที่ช่วยเราให้สามารถเข้าถึงพระเมตตาของพระเจ้าด้วยตัวของเขาเอง เพื่อทุกคนจะสามารถเข้าถึงแหล่งที่มาของสันติสุขภายในใจของตนได้อย่างแท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
                เพื่อให้สอดคล้องกับพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา และ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระศาสนจักรพ่อจึงขอแจ้งกำหนดการพิธีกรรมในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม และ ในวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม ที่วัดเซนต์หลุยส์ดังนี้
                วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม (วันศุกร์ต้นเดือน)
                19.00 . พิธีเดินรูป 14 ภาค
                                 พระสงฆ์โปรดศีลอภัยบาปที่ตู้โปรดศีลอภัยบาป
                19.30 . พิธีนมัสการศีลมหาสนิท อวยพรศีลมหาสนิท
                20.00 . พิธีบูชาขอบพระคุณ
                วันเสาร์ 5 มีนาคม
                17.00 . พิธีนมัสการศีลมหาสนิท 
                                 พระสงฆ์โปรดศีลอภัยบาป ที่ตู้โปรดศีลอภัยบาป
                17.30 . วจนพิธีกรรมพระมารดานิจจานุเคราะห์
                                 อวยพรศีลมหาสนิท
                17.45 . พิธีบูชาขอบพระคุณ อาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรต
               
                พ่อจึงขอเรียนเชิญพี่น้องทุกท่านมาร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพิธีกรรมดังกล่าว เพื่อเข้ามาสัมผัสพระเมตตารักของพระเจ้าเป็นพิเศษในเทศกาลมหาพรต และ ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้อย่างใกล้ชิดครับ
พ่อสุพจน์
...............................................................................................................................
               
พี่น้องที่รัก
            พระเยซูเจ้าทรงมีคำตอบ และความคิดเห็นของพระองค์ก็แตกต่างออกไป  ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน” (ลก.13:2-3)  พระองค์ทรงเชิญชวนให้เรากลับใจ เปลี่ยนแปลงตนเอง  คนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมทับตาย  เป็นการลงโทษของพระเจ้าหรือพระเยซูเจ้าทรงตอบว่า ไม่ใช่”  ทรงตรัสว่า  มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” (ลก.13:5)  พวกเขาไม่กลับใจ พระองค์ทรงสอนให้เราค้นพบเสียงเรียกของพระเจ้าผ่านทางเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของเรา  พระองค์ทรงอุปมาให้เราได้คิดและค้นพบแผนการของพระเจ้า  ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ” (ลก.13:6)  และบ่อยครั้งที่พระเยซูเจ้าทรงอุปมาเรื่องสวนองุ่นเพื่อเตือนใจเราถึงความรับผิดชอบที่เราควรมีต่อความรักของพระเจ้า  เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผลพระองค์จะทรงตัดทิ้ง กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น” (ยน.15:1-2)  พระบิดาคือเจ้าของสวน พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ตกแต่งเถาองุ่น  พระองค์ทรงยืนยันเพื่อขอเวลาจากพระบิดาสำหรับการกลับใจ
ผู้ใดจะเสมอเหมือนองค์พระเจ้า   พระเจ้าของเรา  พระองค์ประทับบนพระบัลลังก์ในที่สูง แต่ทรงน้อมพระองค์ทอดพระเนตรลงมายังสวรรค์และแผ่นดิน ทรงยกคนยากจนขึ้นมาจากฝุ่นดิน ทรงยกคนขัดสนขึ้นมาจากกองขยะ(สดด.113:5-7)พระเจ้าจะไม่ทรงโค่นเราทิ้งเสีย สมัยที่ปีลาตปกครองแคว้นยูเดียระหว่างปี ค.ศ. 26-36  เกิดขาดแคลนน้ำอย่างหนักในกรุงเยรูซาเล็ม ปีลาตจึงตัดสินใจสร้างระบบส่งน้ำโดยใช้งบประมาณจากเงินในคลังของพระวิหารต้องยอมรับว่าโครงการของปีลาตดี แต่ชาวยิวยอมรับไม่ได้ที่จะนำเงินจากพระวิหารซึ่งเป็นของพระเจ้าออกมาใช้จ่าย  พวกเขาจึงรวมตัวกันจับอาวุธขึ้นต่อต้านปีลาตสั่งให้ทหารปลอมตัวโดยสวมเสื้อคลุมทับชุดทหาร พร้อมกับซ่อนตะบองไว้ใต้เสื้อคลุมแทนการใช้ดาบ แล้วให้ทหารปะปนไปกับฝูงชน เมื่อได้รับสัญญาณ พวกทหารพยายามสลายฝูงชน  แต่เพราะทำรุนแรงเกินกว่าคำสั่ง จึงมีประชาชนจำนวนหนึ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับการต่อต้าน ครั้งนี้คาดว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตคงมีชาวกาลิลีรวมอยู่ด้วย เพราะพวกเขาขึ้นชื่อในเรื่องรักชาติ และพร้อมจะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบอยู่แล้ว ในบท ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลายที่ก่อนหน้านี้เราเคยสวดว่า โปรดยกหนี้ของเรา เหมือนเรายกหนี้แก่เขา”“ผู้บริสุทธิ์เคยพินาศหรือ ?” (โยบ4:7)“คนดีต้องได้ดี  เพราะฉะนั้นการที่คนเราตกทุกข์ได้ยากย่อมแปลว่าเขาได้ทำบาปผิดต่อพระเจ้า เท่ากับว่าคำสอนของชาวยิวคือ ความทุกข์ยากและความตายเป็นผลของบาป หรือไม่ก็เกี่ยวเนื่องกับบาปชนิดแยกออกจากกันไม่ได้นับเป็นคำสอนที่โหดร้ายและทารุณจิตใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเป็นจริงตามคำสอนนี้ ย่อมเข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า เศรษฐีทุกคนคือคนดี และคนจนที่ตกทุกข์ได้ยากทุกคนคือคนชั่วแต่พระเยซูทรงเล็งเห็นว่าบาปไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการถูกฆ่าหรือถูกหอล้มทับตาย  พระองค์ยังตรัสย้ำถึงสองครั้งสองคราว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกันตรงกันข้ามพระองค์ทรงสอนว่า ผู้มีใจยากจน หรือถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา” (มธ 5:3,10; ลก 6:20,22) ที่สำคัญ พระองค์ทรงกำหนดเงื่อนไขในการติดตามพระองค์ไว้ว่า ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็ให้เขาเลิกนึกถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา
หากพวกเขายอมกลับใจและเปลี่ยนชีวิตตามคำเตือนของพระเยซูเจ้า พวกเขาคงไม่ต้องประสบกับความทุกข์ยากและความหายนะเช่นนี้      

พ่อพงษ์เกษม

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016

พี่น้องที่รัก
            ในเทศกาลมหาพรตนี้ หนึ่งในกิจพลีกรรมใช้โทษบาปที่พระศาสนจักรเสนอแนะให้เราปฏิบัติคือ การทำบุญให้ทาน ในแง่หนึ่งหมายถึงการบริจาคทุนทรัพย์เพื่อผู้ยากไร้ ขัดสน ขาดที่พึ่ง พระศาสนจักรจึงรณรงค์ให้มีการอดออมงดใช้หรือบริโภคสิ่งของฟุ่มเฟือย เพื่อสะสมรวบรวมไว้ในถุงมหาพรต ตลอดช่วงเทศกาลมหาพรต เมื่อสิ้นเทศกาลแล้วจึงนำถุงมหาพรตดังกล่าวกลับมาจัดส่งที่วัด เพื่อรวบรวมเงินบริจาคที่ได้จากการอดออมดังกล่าวช่วยเหลือผู้ยากไร้ต่อไป
            นอกจากนี้ตลอดปี พี่น้องสัตบุรุษวัดเซนต์หลุยส์ยังได้เสียสละบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผ่านทางการทำงานของคณะวินเซนต์เดอปอล เดือนละหนึ่งครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นกุศลจิตที่ยิ่งใหญ่ วันนี้พ่อขอนำรายละเอียดด้านการเงินที่ได้รับรายงานจากคณะวินเซนต์เดอปอล วัดเซนต์หลุยส์ของเรามารายงานต่อพี่น้องเพื่อจะได้ทราบกันโดยทั่วกันครับ
พ่อสุพจน์

รายงานการเงินของวินเซนต์เดอปอล คณะนักบุญมีคาแอลวัดเซนต์หลุยส์ปี 2015/2558

รายการ
รายรับ
รายจ่าย
รวม
ยอดยกมาจาก ธ.ค.2014
28,889.68


เงินบริจาคทุกสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน
626,328.75


เงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา
8,363


ดอกเบี้ยเงินฝาก
94.93

634,786.68
รายจ่าย



ช่วยเหลือครอบครัวผู้ขัดสน

89,535

ช่วยเหลือเป็นครั้งคราวแก่ผู้ขอความช่วยเหลือ(ขาจร)

8,370

ช่วยเหลือเป็นค่าที่อยู่อาศัย

2,600

ช่วยเหลือด้านการศึกษานักเรียนที่ขัดสน

3,295

ช่วยเหลือด้านการศึกษานักเรียนที่ขัดสนผ่านคณะน.ยอแซฟฯ กรุงเทพ

24,000

ช่วยเหลือด้านการศึกษานักเรียนที่ขัดสนผ่านคณะน.ยอแซฟฯ อุบล

48,000

ช่วยเหลือด้านการศึกษานักเรียนที่ขัดสนผ่านโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา

30,000

ช่วยเหลือด้านการลงทุนค้าขาย

3,500

ช่วยเหลือด้านรักษาพยาบาล

15,131

ช่วยเหลือชาวต่างชาติ

6,100

ช่วยเหลือการทำงานของคณะวินเซนต์ต่างจังหวัด

90,000

ข้าวสารช่วยเหลือผู้ยากไร้

10,010

ข้าวสารสำหรับเด็กฝึกหัด คณะ น.ยอแซฟฯอุบล

24,000

นมผงให้เด็กเล็ก

2,633

กิจกรรมร่วมกับวินเซนต์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

5,000

บ้านผู้สูงอายุลำไทร

60,000

ช่วยผู้ยากไร้ บ้านธัญญบุรี ผ่านสโมสรผู้สูงอายุเซนต์หลุยส์

24,000

10% ของธันวาคมปี2014 ให้วินเซนต์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ

2,890

สารวินเซนต์

1,920

ผ้าห่มส่งต่างจังหวัด

30,000

สัปดาห์ช่วยเหลือผู้ขัดสนของวินเซนต์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ

30,000

สนับสนุนกิจกรรมวินเซนต์ระดับประเทศ

30,000

เบ็ดเตล็ด

230

รวมจ่าย


541,214
ยอดยกไปเดือนมกราคม 2016
122,462.36



 ................................................................................................................................................................

พี่น้องที่รัก
พี่น้องชาววัดเซนต์หลุยส์ที่มีครอบครัว     และมีบุตรหลานอยู่ร่วมกันในครอบครัว  พ่อเชื่อแน่ว่าพวกท่านต้องรักบุตรหลานของท่านมาก  และบางครั้งท่านอาจจะรู้สึกไม่รักบุตรหลานของท่าน  เพราะเขาเหล่านั้นอาจทำผิดต่อท่านได้ใช่ไหมครับ  แต่ในที่สุดแล้ว  ด้วยความเป็นสายเลือดหรือลูกในไส้  พี่น้องก็คงจะยังรักบุตรหลานของพวกท่านอยู่ดี  แม้ว่าบุตรหลานของท่านจะมิได้ทำให้ท่านสมปรารถนาดังตั้งใจ ฉันใดก็ฉันนั้นครับ  พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงรักพระเยซูเจ้าผู้เป็นบุตรสุดที่รักของพระองค์เช่นเดียวกัน  ดังที่นักบุญลูกา ได้บรรยายเอาไว้ว่า  พระเจ้าได้เปิดเผยพระทัยของพระองค์  ด้วยเสียงที่มาจากก้อนเมฆต่อหน้าเปโตร  ยากอบ  และยอห์นว่า  ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา  จงฟังท่านเถิด.......” (ลก9:35)  ในขณะเดียวกันสาวกทั้ง3ท่านก็ตลึงงันกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาอีกว่า  พระวรกายของพระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนไป  และฉลองพระองค์กลับมีสีขาวที่เจิดจ้า  ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกสามารถทำให้ขาวได้   นับเป็นการแสดงองค์พระเยซูอย่างรุ่งโรจน์เป็นครั้งแรกต่อหน้าสาวกทั้งสาม  และเสมือนต่อหน้าพี่น้องชาววัดเซนต์หลุยส์ที่ได้อ่านพระวรสารประจำสัปดาห์นี้ด้วย     เรายังทราบต่อมาถึงพระภารกิจที่พระเยซูเจ้าทรงรักมนุษย์  ทรงยอมพลีชีพไถ่กู้บาปของพวกเราทุกคน  ตลอดจนการสั่งสอนของพระอาจารย์เยซูที่ได้ถูกบันทึกไว้โดยบรรดาอัครสาวกและนักบุญทั้งหลาย  ดังนั้นเองในเทศกาลมหาพรตที่พวกเรากำลังรำลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซู  รำลึกในความรักและความเสียสละชีวิต  เป็นเหมือนบิดาที่คอยปกป้องและรักบุตรของพระองค์สุดชีวิตทุกๆ คนทั้งชายและหญิง  แล้วเราคิดจะทำอะไรให้พระเยซูบ้าง  เพื่อตอบแทนพระคุณของพระองค์
ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา  จงฟังท่านเถิด....”  ลก 9:35  พี่น้องครับเพียงเงียบ  เปิดใจ  ฟังพระวาจาของพระองค์อย่างตั้งใจในเทศกาลมหาพรตเป็นพิเศษ  ด้วยการอ่านพระวรสาร  ประจำวันทุกวันตลอดเทศกาลนี้  พ่อเชื่อแน่ว่าพระเยซูเจ้าคงจะตรัสสอนอะไรเป็นพิเศษแก่เรา  ลองรำพึงชีวิตของพี่น้อง  พูดคุยกับพระองค์ด้วยหัวใจที่พร้อมจะฟังพระองค์ดูสิครับ  หรือพี่น้องลองมองดูภาพพระมหาทรมานทั้ง 14 ภาพ  ในขณะที่เรามาเดินรูป     ลองจินตนาการถึงเหตุการณ์นั้นว่าตัวเราเองจะช่วยพระองค์ได้อย่างไร  จะยอมแหวกกองกำลังทหารเข้าไปช่วยพระองค์ไหม  หรือปล่อยให้พระองค์ถูกนำไปประหารต่อหน้าต่อตาเรา   พ่อเองได้อ่านบทสวดในการเดินรูปทุกๆ ครั้ง   เป็นบทสวดที่กินใจ  ให้ความรู้สึกจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ครับ
พี่น้องชาววัดเซนต์หลุยส์จงมาตอบพระองค์เองว่า    พี่น้องอยากจะทำอะไรให้พระองค์  ลองมาช่วยกันเขียนสิ่งที่เราอยากทำให้พระเยซู  เป็นลายลักษณ์อักษรกันดีไหมครับ  แล้วส่งมาลงในสารวัดเพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้สึก  หรือหัวใจของพี่น้องเอง  ซึ่งพ่อหวังว่าพวกเราคงจะได้ยินอะไรที่ดีๆ  เพราะองค์พระเยซูพระอาจารย์ทรงอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคนที่แก้บาปรับศีลมหาสนิทเป็นประจำครับ และดำเนินชีวิตตามแบบพระองค์ จะบอกว่าที่น่าสบายจริงๆจะไม่ลิ้มรสความตายจนกว่าจะเห็นพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงพร้อมด้วยพระอานุภาพ

พ่อพงษ์เกษม

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016

พี่น้องที่รัก
                เทศกาลมหาพรตเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันพุธรับเถ้าที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมดั้งเดิมของเราคริสตชน เทศกาลนี้เราจะมุ่งเน้นที่จะฝึกปฏิบัติในคุณธรรม 3 ประการ ที่สำคัญคือ การภาวนา การถือศีลอดอาหาร และ การบริจาคทาน โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะฟื้นฟูพระพรแห่งศีลล้างบาปที่เราได้รับมา
                การภาวนา หมายถึงให้อุทิศเวลาสำหรับการภาวนาให้มากขึ้น เทศกาลนี้ควรที่จะนำพาชีวิตของเราให้ใกล้กับพระเจ้ามากขึ้น เราอาจสวดภาวนาเพื่อขอพระพรให้เราสามารถปฏิบัติตนเป็นคริสตชนที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นตามคำมั่นสัญญาขณะรับศีลล้างบาปของเรา เราอาจภาวนาเพื่อผู้เตรียมตัวรับศีลล้างบาปในวันปัสกาจะได้รับพระพรหล่อเลี้ยงเส้นทางชีวิตแห่งการเข้ามาเป็นลูกของพระเจ้าอย่างเพียงพอ เราอาจจะภาวนาเพื่อให้ผู้ที่เข้ามารับศีลอภัยบาปในระหว่างเทศกาลนี้จะได้ฟื้นฟูชีวิตของตนอย่างแท้จริงให้หลุดพ้นจากความเคยชินในบาปต่างๆ
                การถือศีลอดอาหาร หมายถึงการหักห้ามใจจากการบริโภค ได้รับการถือปฏิบัติมาแต่สมัยโบราณในเทศกาลนี้ ในอดีตพระศาสนจักรเคยกำหนดให้มีการอดอาหารสองวันก่อนจะถึงวันฉลองค่ำคืนตื่นเฝ้า ต่อมาได้มีการขยายเวลาแห่งการถือศีลอดอาหารเป็นช่วงเวลา 40 วัน การถือศีลอดมีอะไรที่มากกว่าเพียงเป็นการฝึกฝนที่จะควบคุมตนเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความหิวที่เกิดขึ้นนั้นเตือนใจเราถึงความหิวกระหายหาพระเจ้า  ประกาศกอิสยาห์เคยเตือนว่า การถือศีลอดอาหารโดยปราศจากการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยให้ดีขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัย ดังนั้นการถือศีลอดจึงหมายถึงการละจากความปรารถนาต่างๆ การปลดปล่อยผู้ที่ถูกปฏิบัติอย่างอยุติธรรม การปลดแอกภาระหนักที่ถูกวางบนบ่าของบุคคล การแบ่งปันอาหารให้กับผู้หิวโหย การให้ที่อยู่อาศัยกับคนที่ขาดที่พึ่ง การให้เสื้อผ้ากับคนที่ไม่มีจะนุ่งห่ม เหตุผลประการสำคัญก็คือ เมื่อเราได้รับศีลล้างบาป เราได้ร่วมส่วนในการแสดงพระพักตร์อันเมตตาของพระคริสตเจ้าให้กับโลก โดยเฉพาะกับผู้คนที่ขัดสน ส่วนการอดเนื้อนั้นเป็นการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ยากไร้ที่ไม่มีเงินพอจะจัดซื้อเนื้อหรืออาหารดีๆมาบริโภค พระศาสนจักรยังแนะนำให้เราอดเนื้อในวันศุกร์ตลอดเทศกาลมหาพรตนี้ด้วย
                การทำบุญให้ทาน ในเทศกาลมหาพรตนี้ เราแต่ละคนได้รับการเชิญชวนให้เก็บออม และบริจาคเงินออมที่เก็บได้จากการฝึกปฏิบัติจากการละเว้นในสิ่งฟุ่มเฟือยต่างๆ เพื่อนำเงินออมนั้นแบ่งปันสำหรับกิจการกุศล และ ช่วยเหลือผู้ยากไร้
                การเดินรูปสิบสี่ภาค ถือเป็นกิจศรัทธาที่พระศาสนจักรเชิญชวนให้เราคริสตชนได้ทำเป็นพิเศษในเทศกาลมหาพรตนี้ เพื่อระลึกถึงการทนทรมานและการถวายองค์เป็นพลีบูชาบนไม้กางเขนของพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเราเดินรูปสิบสี่ภาคก็เท่ากับว่าเรากำลังเชื่อมต่อชีวิตฝ่ายจิตของเรากับความหมายของพระพรแห่งศีลล้างบาป ในความหมายที่ว่าเมื่อเราเดินไปสู่ภาคต่างๆ ของพระทรมานของพระเยซู เท่ากับว่าเรากำลังก้าวเข้าไปในพระธรรมล้ำลึกของความตายและการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า  และ ช่วยรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาของเราเมื่อเรารับศีลล้างบาปนั้น ว่าเราจะสมัครใจอุทิศชีวิตของเราเพื่อผู้อื่นเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าเคยกระทำ ทำให้เราเข้าใจว่าเมื่อเราเห็นพระเยซูต้องทนทรมานและรับความตายแล้ว จะช่วยเราให้กล้าที่จะน้อมรับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยความสัตย์ซื่อต่อเสียงเรียกของพระเจ้าเสมอ
                มหาพรต มาหาพระ จึงเป็นเสมือนช่วงเวลาพิเศษจริงๆ สำหรับเราแต่ละคน ที่จะเข้าสู่ช่วง สะกดอดใจ ละจากความปรารถนาที่ไม่ดีไม่งาม วางตนในกรอบของความดี ความบริสุทธิ์อย่างเคร่งครัด และจริงจังกับข้อตั้งใจที่มีอยู่ ขอพระเจ้าประทานพระพรให้กับพี่น้องจะก้าวไปบนความก้าวหน้าของชีวิตฝ่ายจิตอย่างเกิดผลด้วยเถิด

พ่อสุพจน์
..............................................................................................................

พี่น้องที่รัก
การถูกทดลองของพระเยซูเจ้าดังนี้
1.คำกรีก peirazein (เปยราเซน) มีความหมายว่า ทดลองหรือ ทดสอบมากกว่าจะแปลว่า ผจญ, ประจญ, หรือ ล่อลวงซึ่งส่อไปในทางชักชวนผู้อื่นให้ทำผิด  หากเราแปลคำ peirazeinในหนังสือปฐมกาลบทที่ 22 ข้อ 1 เป็น ผจญก็จะได้ความว่าพระเจ้าทรงผจญอับราฮัมให้ถวายอิสอัคบุตรชายเป็นเครื่องเผาบูชา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะชักชวนอับราฮัมให้ทำผิดเมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงควรเปลี่ยนความคิดจากสิ่งที่เคยเรียกว่า การผจญแล้วมักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้หรือบาปเสียใหม่ การผจญเป็นการกระทำของปีศาจ พระเป็นเจ้าทรงประทานให้เรามีความสามารถและเหมาะสมกับภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ พระเจ้าทรงประทานการ ทดลองแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร ไม่ใช่เพื่อให้ตกในบาป แต่เพื่อให้เราชนะบาป จะได้เข้มแข็ง บริสุทธิ์ และเหมาะสมกับภารกิจที่จะทรงมอบหมายให้มากขึ้นการทดลองจึงไม่ใช่สิ่งน่ากลัวหรือน่าอับอายที่จะต้องปกปิดกันอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่เราแต่ละคนจะต้องสอบให้ผ่านและเอาชนะให้จงได้
2.ถิ่นทุรกันดารตั้งอยู่ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่บนที่ราบสูงตอนกลางของประเทศกับทะเลตายซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล มีเนื้อที่ประมาณ 1,300 ตารางกิโลเมตร ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้เลยพระองค์เสด็จไปในดินแดนที่ไร้ผู้คนเพราะทรงประสงค์จะอยู่ตามลำพังเพื่อพิจารณาหาวิธีการทำให้ภารกิจที่พระบิดาทรงมอบหมายสำเร็จลุล่วงไปในชีวิตนี้ มีบางสิ่งที่เราต้องทำเองตามลำพัง  มีบางครั้งที่คำแนะนำของใคร ๆ ก็ไม่อาจช่วยเราได้  เราต้องรู้จัก หยุดทำและ เริ่มคิดบ้างอย่าให้เราผิดพลาดเพียงเพราะไม่มีโอกาสอยู่ตามลำพังกับพระเจ้า ช่างน่าเสียดายยิ่ง
3.พระวรสารสามฉบับเน้นเหมือนกันว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองทันทีหลังรับพิธีล้างจากยอห์น โดยเฉพาะมาระโกระบุชัดเจนว่า ทันใดนั้น พระจิตเจ้าทรงดลให้พระองค์เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร” (มก 1:12)เป็นความจริงว่าเมื่อเราขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือผ่านเหตุการณ์สำคัญที่สุดในชีวิตแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ในทางที่เป็นภัยมากกว่าเป็นคุณ  เหมือนดอกไม้ไฟที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดและสว่างไสวที่สุดแล้ว ก็จะดับมืดและร่วงตกลงมาสู่พื้นพระเยซูเจ้าก็เช่นกัน พระองค์พึ่งจะได้รับเกียรติสูงสุด โดยพระจิตเจ้าที่เสด็จมาในรูปของนกพิราบทรงรับรองพระองค์เป็น บุตรสุดที่รักของพระบิดา  และทันทีเป็นพระจิตเจ้าอีกเช่นกันที่ทรงนำพระองค์สู่การทดลองในถิ่นทุรกันดาร
4.การทดลองของพระเยซูเจ้าไม่ใช่ประสบการณ์ภายนอก แต่เป็นการดิ้นรนต่อสู้ภายในจิตใจและวิญญาณของพระองค์เอง เหตุผลคือในโลกนี้ไม่มี ยอดเขาสูงมากจนพระองค์สามารถ ทอดพระเนตรอาณาจักรรุ่งเรืองต่าง ๆ ของโลกได้ทั้งหมด (มธ 4:8)แสดงว่า ปีศาจโจมตีจากภายในจิตใจของเรา”  มันสามารถเจาะแนวป้องกันของเราเข้ามาได้ และที่ร้ายกาจสุด ๆ คือมันมี ความคิดและความปรารถนาของเราเองเป็นพันธมิตรและเป็นอาวุธของมัน เราจึงตกในความพ่ายแพ้ได้ง่าย
5.อย่าคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองเพียงครั้งเดียวในชีวิต  ที่เมืองซีซารียาแห่งฟิลิป เป็นเปโตรศิษย์รักนั่นเองที่ล่อลวงพระองค์ให้เลือกหนทางอื่นที่ง่ายกว่าหนทางของไม้กางเขน จนพระองค์ต้องดุว่า เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:21-23)เมื่อใกล้วาระสุดท้าย พระองค์ทรงกล่าวกับพวกศิษย์ว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ที่ยืนหยัดอยู่กับเราในการทดลองที่เราได้รับ” (ลก 22:28)แม้เราไม่มีฤทธิ์อำนาจพอที่จะทำให้ถูกทดลองกระโดดจากที่สูงหรือเปลี่ยนก้อนหินเป็นขนมปังเหมือนพระองค์  แต่เราต้อง ระมัดระวังการใช้พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษที่เรามี”  จงอย่าใช้ในทางที่ผิด เช่นใช้ความสวยงามหลอกลวงผู้อื่น หรือใช้วาทศิลป์เปลี่ยนขาวให้เป็นดำหรือดำให้เป็นขาว เป็นต้นเรากำลังหลงผิดและเดินอยู่ในความมืด ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก

พ่อพงษ์เกษม

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2016

พี่น้องที่รัก
            วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ที่จะมาถึงนี้เป็นวันตรุษจีน ซึ่งถือว่าเป็นวันหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นอย่างมาก จึงมีการหยุดงานเป็นเวลาหลายวัน เพื่อเตรียมงานฉลองปีใหม่
            ธรรมเนียมที่ดีอย่างหนึ่งในเทศกาลตรุษจีนก็คือ ในครอบครัวทุกบ้านจะทำความสะอาดบ้านเรือน ถือเป็นการทำความสะอาดใหญ่ บ้านเรือนจะถูกทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่าง หน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นกวาดเอาโชคร้ายออกไป มีการขัดสีฉวีวรรณประตูหน้าต่าง ทาสีใหม่ และประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพร เช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และ อายุยืน
            พ่อคิดว่า สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ธรรมเนียมนี้มีผลดีทั้งครบ ไม่เพียงแต่บ้านเรือนภายนอก ควรที่จะให้ความสำคัญกับชีวิตและจิตใจของเราด้วย นั่นคือ การทำความสะอาดจิตใจ สำรวจตรวจตราดูว่ามีสิ่งใดที่พึงได้รับการชำระให้สะอาด ซึ่งได้แก่มลทินบาปในวิญญาณของเรา และ เปลี่ยนแปลงอุปนิสัยใจคอ ที่ไม่ดีไม่งามให้พ้นไปจากชีวิตของเรา ประดับประดาตกแต่งมารยาท บุคลิกภาพของเราให้งดงามด้วยการฝึกฝนคุณธรรมที่ดีงามต่างๆ อาทิ ความใจกว้าง ความเมตตากรุณา การไม่พูดร้ายต่อผู้อื่น รู้จักยกโทษ ให้อภัย เป็นต้น จะทำให้ชีวิตของเราสวยงามเป็นที่เคารพยกย่องของผู้คนรอบข้าง
            โอกาสตรุษจีนเวียนมาบรรจบอีกครั้งแล้วครับ วัดเซนต์หลุยส์ของเรามีพี่น้องสัตบุรุษที่มีเชื้อสายจีนเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว พ่อจึงขอถือโอกาสนี้ส่งความสุข ความปรารถนาดีมายังพี่น้องที่มีเชื้อสายจีนทุกท่านในโอกาสนี้เป็นพิเศษนะครับ ขอให้พี่น้องทุกท่านได้รับพระพรอันอุดมบริบูรณ์จากพระเจ้า ขอพระเจ้าทรงปกปัก พิทักษ์รักษา สนับสนุนค้ำจุนพี่น้องทุกท่าน ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ให้มีจิตใจที่แจ่มใส ปราศจากความกังวลร้อนใจใดๆ ให้มีความมั่นคงก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสามารถอยู่รอดได้แม้ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างรอบด้านฝืดเคืองไปหมดเช่นเวลานี้ด้วยครับ

พ่อสุพจน์
.............................................................................................. 
พี่น้องที่รัก
ในพระวรสารนักบุญลูกา ทะเลสาบเป็นสถานที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจ อัศจรรย์พิเศษนี้เกิดขึ้นเมื่อชาวประมงมีความไว้วางใจพระเยซูเจ้า ซึ่งไม่ใช่ชาวประมงในการหย่อนอวนลงจับปลาอีกครั้ง ถึงแม้พวกเขาจะจับปลาไม่ได้เลยตลอดคืน แต่ทันใดนั้นต้องประหลาดใจที่พวกเขาจับปลาได้จำนวนมากมาย การตอบรับในอัศจรรย์ที่จับปลาได้จำนวนมากมายนั้น เปโตรจึงกราบลงที่พระชานุของพระเยซูเจ้า ชาวประมงทุกคน พวกเขาสัมผัสได้ถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า จึงละทิ้งทุกสิ่งติดตามพระองค์  เป็นเรื่องของเปโตรที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้และตรัสถึงเปโตรเป็นคนแรกที่ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้า และเห็นว่าตนไม่เหมาะสมพระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเปโตรแต่ผู้เดียวว่า ท่านจะเป็นชาวประมงจับมนุษย์นี่เป็นการชี้ให้เห็นล่วงหน้าถึงกระแสเรียกของการเป็นผู้นำในพระศาสนจักร คำกิริยาที่ใช้ว่า จะเป็นชาวประมงนั้น หมายถึงจะเป็นตลอดชีวิต
ลักษณะเด่นของพระวาจาวันนี้คือ พระอานุภาพของพระเยซูเจ้าที่ทรงมีเหนือมนุษย์และเหนือธรรมชาติ รางวัลของการกระทำตามในสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงแนะนำ เป็นเครื่องหมายบอกว่าเปโตรจะมีบทบาทพิเศษในพระศาสนจักร การเป็นชาวประมงหามนุษย์เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิต ความร่วมมือกันในการทำงานเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นของพระเยซูเจ้าและชาวประมง เพื่อที่จะจับปลาเราสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณค่าของการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าเป็นไปได้อย่างไรในชีวิตของเรา
            พระธรรมชาติของพระเจ้าคือ ความศักดิ์สิทธิ์ และพระเจ้าทรงใช้เราเป็นเครื่องมือในการประกาศข่าวดีของพระองค์ ทรงใช้ปากของเรา ใช้มือของเรา ทำในนามของพระองค์ ดังนั้นการตอบรับและการตอบสนองด้วยความเชื่อและยืนหยัดมั่นคงจนตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ การสวมชีวิตใหม่ด้วยการตายต่อตัวเองและให้พระคริสตเจ้าเข้ามาครอบครองชีวิต จึงเป็นพลังสำคัญของพระหรรษทานอย่างต่อเนื่องในชีวิตของการเป็นศิษย์แท้ แผ่นดินของพระเจ้าจะเต็มด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
            แต่วิบัติจะเกิดแก่ข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้ามีปากที่ไม่สะอาด เต็มไปด้วยมลทินบาป มือที่สกปรกเต็มได้ด้วยราคีและโลกีย์ของโลก เพราะเราเป็นผู้ทรงส่งเจ้าไป ดังนั้นในการทำตัวเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงข่าวดีที่พระเจ้าทรงประทานให้เรา และน้อมรับด้วยความเชื่อ ประกาศถึงชีวิตขององค์พระเยซูที่ตายบนไม้กางเขนเพื่อเราทุกคน ทรงถูกฝังไว้และกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม พระองค์ยังคงมีชีวิตอยู่กับเราในพระศาสนจักรและช่วยเราทุกคนให้รอดพ้น อาศัยพระจิตความรอดพ้นมาจากพระเจ้า มิใช่เพราะคุณความดีของเราแต่ประการใด เราแต่ละคนล้วนเป็นผู้ต่ำต้อยและไม่เหมาะสม เพราะเราทุกคนล้วนเป็นคนบาป แต่ความเชื่อได้ชำระเราให้สะอาด เพื่อเราจะได้ทำงานให้หนักขึ้นเพื่อข่าวดีของพระเจ้า เหมือนการเรียกของเปโตรในวันนี้ ขอพระอวยพรพี่น้องให้มีความเชื่อที่มั่นคงและทำหน้าที่ประกาศข่าวดีของพระเจ้าในชีวิตประจำวันแก่ทุกคน

พ่อพงษ์เกษม