วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                วันฉลองคริสต์มาสที่ผ่านไปเมื่อสามสี่วันที่ผ่านมา ช่างเป็นวันที่น่าชื่นใจจริงๆ เพราะในรอบหนึ่งปี เรามีโอกาสนี้เพียงโอกาสเดียวที่จะได้แสดงออกถึงความรักและการแบ่งปัน อย่างที่พระเจ้าทรงสอนเรา ออกมาเป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม ผู้คนมากมายที่ได้มาร่วมงานรื่นเริงในช่วงหัวค่ำ ผ่านทางกิจกรรมการละเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมสนุกสนาน ที่เรียกเสียงหัวเราะ พร้อมการลุ้นรางวัลจากการเอาชนะความท้าทายที่เกมแต่ละเกมตั้งเงื่อนไขไว้ การจับสลากสอยดาว ที่มีรางวัลน้อยใหญ่มอบให้เป็นของขวัญ และ การบิงโกที่สร้างสรรค์บรรยากาศของความสุขสมถ้าเกิดลุ้นแล้วเป็นไปตามเป้าประสงค์ สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงบรรยากาศภายนอก ส่วนที่สำคัญคือ การที่เราได้มาร่วมกันในคำภาวนาในพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของการมาบังเกิดของพระเยซูกุมาร ที่นำความสว่างมาสู่โลกของเรา เพื่อนำพาเราไปสู่ความรอดพ้นที่พระเจ้าประทานให้กับเรา
                ขอพระกุมารเยซูที่มาบังเกิดโปรดประทานพระพรอันอุดมบริบูรณ์ให้กับพี่น้องทุกท่าน ขอพระองค์ประทานแสงสว่าง การคุ้มครองพิทักษ์รักษา และ พระพรแห่งความบรรเทาใจเราในความทุกข์ยากต่างๆ ขอให้ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้เป็นปีแห่งความก้าวหน้า ความเจริญ และ ความสุขอันยั่งยืนสำหรับพี่น้องทุกๆท่าน

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 5
จงอย่าละเลยในการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเลย

                ข้อบัญญัติของพระศาสนจักรที่กำหนดให้คาทอลิกทุกคนไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์และวันฉลองบังคับนั้นเป็นข้อบัญญัติที่สำคัญยิ่ง ดังนั้นผู้ที่ขาดการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์โดยไม่มีเหตุผลที่สมควรจึงเป็นบาปหนัก ซึ่งผู้ที่ขาดการมาร่วมพิธีในวันอาทิตย์นอกจากจะไม่ได้รับพระพรหลายประการที่สำคัญแล้ว ถ้าเขามีจิตใจเย็นเฉยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นี้ติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว เขายังอาจถูกพระเจ้าลงโทษอย่างหนักเสียด้วย
                ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
                เรื่องที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่งใกล้ๆกับกรุงโรม นักธุรกิจสามคนเดินทางไปชมงานแสดงสินค้าที่เมืองซิสแตร์โน เมื่อได้ตกลงเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้นแล้ว นักธุรกิจสองคนเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้านในเช้าวันอาทิตย์ ส่วนอีกคนท้วงว่าอย่าทำเช่นนั้นเลยเพราะเขาทั้งสองจะพลาดโอกาสไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในเช้าวันอาทิตย์ สองคนนั้นหัวเราะคำทักท้วงของเพื่อนคนนี้ พร้อมกับกล่าวว่าไม่เป็นไรหรอกวันหลังค่อยไปร่วมพิธีก็ได้ แล้วเขาก็ออกเดินทางไป ส่วนเพื่อนอีกคนที่เหลือตัดสินใจจะไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเสียก่อนแล้วค่อยเดินทางตามไปทีหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เขามาทราบภายหลังด้วยความเสียใจว่า เพื่อนของเขาสองคนนั้นต้องเสียชีวิตลงในอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง..........(ยังมีต่อ)
                    ....................................................................................................................

พี่น้องที่รัก
สัปดาห์สุดท้ายของปีพระศาสนจักรให้เราฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ที่ประกอบด้วยพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ ในวันนี้ให้เราได้มอบถวายครอบครัวของเราและสมาชิกทุกคนในครอบครัวและหมู่คณะ บนพระแท่นบูชาเพื่อขอพระพรจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ฉลองนี้เตือนใจเราถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักรสากล แต่ละครอบครัวได้รับการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เริ่มแรกของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เรื่องราวการบังเกิดของพระเยซูเจ้าที่เบธเลเฮม การหนีไปประเทศอียิปต์ การหายไปของพระเยซูเจ้าขณะไปนมัสการที่พระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม บทอ่านและการฉลองในวันนี้พูดถึงครอบครัวในฐานะที่เป็นของประทานจากพระเจ้า เป็นแผนการของพระเจ้าตั้งแต่แรกสร้างโลก ที่ไม่ทรงประสงค์ให้มนุษย์อยู่โดยลำพัง พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นครอบครัว อีกทั้งตั้งใจให้บุตรของพระเจ้าเกิดมาเป็นมนุษย์ในครอบครัว ในสภาพที่เหมือนเราทุกอย่างเว้นแต่บาป พระเยซูเจ้าจึงได้เสด็จมาในโลกที่พระองค์ทรงสร้าง ทรงบังเกิดมาในครอบครัวที่มีแม่พระและนักบุญยอแซฟที่นาซาเร็ธ เป็นการระลึกถึงชีวิตครอบครัวของพระเยซูเจ้าซึ่งดำเนินชีวิตในความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และเคารพซึ่งกันและกัน เป็นแบบอย่างในการแบ่งปันความยินดี ความรับผิดชอบและการร่วมทุกข์ร่วมสุขในครอบครัว พระศาสนจักรจึงยกย่องให้เป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นแบบอย่างของครอบครัวทั้งหลาย นอกนั้น การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยังเรียกเราให้มุ่งความสนใจไปที่ครอบครัวคริสตชนทุกครอบครัว และวอนขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับเรา ครอบครัวของเราแต่ละคน และเรียกร้องเราให้เป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้าเหมือนยอแซฟ ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข เป็นบุคคลที่มีหัวใจเปิดสู่พระเจ้า เชื่อฟังและพร้อมจะเผชิญความยากลำบากทุกอย่าง เพื่อปกป้องพระกุมารและแม่พระให้ได้รับความปลอดภัย จึงได้ชื่อว่าเป็น ผู้ชอบธรรมที่มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว ขณะที่แม่พระเป็นคู่ชีวิตที่รับผิดชอบดูแลครอบครัวและมีส่วนในความยากลำบากต่างๆ ในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเงียบๆ บิดา-มารดาต้องเป็นครูคนแรกที่สอนลูกให้มีความรู้และรู้จักพระเจ้าเป็นประการสำคัญที่สุด ต้องมีความรับผิดชอบในการเป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุตรของตน และต้องทำให้ครอบครัวของตนเป็น ครอบครัวดี เป็นคนดี สร้างสังคมดี

คพ.พงษ์เกษม

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2014

   พี่น้องที่รัก
                งานฉลองคริสต์มาสมาอยู่เบื้องหน้าเราแล้วครับ คริสต์มาสคือการฉลองการมาบังเกิดของพระเยซู ซึ่งนำความสุข ความชื่นชมยินดีมาสู่ชีวิตของเราทุกคนอย่างแท้จริง เราสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความสุขนี้รอบ ๆ ตัวเราได้จริง ๆ จากเสียงเพลงของเทศกาลคริสต์มาสที่บรรเลงขับกล่อมจิตใจของผู้คนทั่วโลกให้บังเกิดความชื่นชมยินดี  จากของขวัญ เกม การละเล่น การตกแต่งบ้าน ประดับประดาสถานที่ด้วยแสงไฟประดับประดา ระยิบระยับ ซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ คือ เครื่องหมายภายนอกที่สื่อให้เห็น บรรยากาศแห่งความสุขนั้นปรากฏอยู่รอบๆตัวเรา
                สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คงจะไม่มีหรือเกิดขึ้นได้อย่างที่เราเห็น ถ้าพระเยซูไม่ลงมาบังเกิดเมื่อสองพันปีก่อน การมาบังเกิดของพระองค์จึงนำความสุขความชื่นชมยินดีมาสู่โลกอย่างแท้จริง

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 5
พิธีบูชาขอบพระคุณช่วยให้เราสิ้นใจในศีลในพรของพระเจ้า
                เป็นบุญยิ่งนักสำหรับชีวิตของเรา ถ้าเราได้สิ้นชีวิตจากโลกนี้ไปอย่างศักดิ์สิทธิ์และมีความสุข จะมีประโยชน์อะไรจากการที่เรามีอายุที่ยืนยาว ได้เพลิดเพลินเจริญใจกับความสะดวกสบาย เท่าที่เกียรติยศ  และความมั่งคั่งของโลกปรนเปรอให้กับชีวิตเราได้ แต่กลับไม่ได้สิ้นใจตายในศีลในพรของพระเจ้า ความตายเช่นนี้เป็นความตายที่ไม่มีความสุข เพราะหมายความถึงชีวิตจบลงด้วย ความทุกข์โศก และ การถูกสาปแช่งตลอดไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
                มนุษย์เราตายได้เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเราตายไม่ดี ถือเป็นความผิดพลาดที่เราไม่มีโอกาสแก้ไขได้อีกแล้ว เพราะการตายไม่ดีนั้นจะนำมนุษย์เราไปยังไฟนรกที่ไม่รู้จักดับตลอดไป
                ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องพยายามอย่างที่สุด ในทุกวิถีทาง เพื่อเราจะบรรลุถึงบั้นปลายชีวิตที่เราจะได้ตายดี ในศีลในพรของพระเจ้า
                ผู้เขียนหนังสือศรัทธาหลายคนให้คำแนะนำหลายๆวิธีที่จะช่วยเราให้บรรลุถึงความรอดพ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเราทุกคนควรพยายามอย่างยิ่งยวดตามแนวทางเหล่านั้น แต่ทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่า หนทางที่ดีที่สุด และ ง่ายที่สุดคือ การไปร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณให้บ่อยที่สุด
                นักบุญ Mechtilde ได้รับการยืนยันจากพระเยซูเจ้าที่ประจักษ์มากับเธอว่า พระองค์จะบรรเทา และ ปลอบโยน ทุกคนที่มาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยความศรัทธา และ พระองค์จะส่งนักบุญจำนวนมากมาเพื่อช่วยเราในยามที่ความตายมาถึงเรา
                มีเรื่องเล่าว่า ชายคนหนึ่งมีนามว่า Penellas เป็นคนมีความเชื่อความศรัทธาเป็นอย่างมาก เขามั่นใจว่าพิธีบูชาขอบพระคุณมีคุณประโยชน์ต่อเรามนุษย์มากมาย เขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเสมอ ๆ เท่าที่สามารถ ต่อมาชายผู้นี้ป่วยและสิ้นใจในสันติสุขในศีลในพรของพระเจ้า คุณพ่อเจ้าอาวาสรู้สึกเศร้าใจมากที่วัดแห่งนั้นต้องสูญเสียสมาชิกผู้เป็นแบบอย่างดีคนนี้ไป ท่านจึงถวายประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณอุทิศให้กับวิญญาณของเขาเสมอ ๆ วันหนึ่งคุณพ่อเจ้าอาวาสผู้นี้ต้องประหลาดใจเป็นอันมาก ที่ได้รับนิมิตว่าชายผู้นี้ปรากฏมาพร้อมกับรัศมีเจิดจ้า เพื่อขอบคุณคุณพ่อที่มีจิตเมตตาคิดถึงเขาอยู่เสมอ เขายังบอกว่าตัวเขานั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับคำภาวนาอุทิศให้แล้ว เนื่องด้วยผลบุญของการมาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณบ่อย ๆ นั้นส่งผลให้เขาได้รับความสุขในสวรรค์นิรันดรแล้ว
                มงซิยอร์ Nautier พระสังฆราชแห่ง เบรสเลา ท่านเป็นผู้ที่ขยันขันแข็งในการงาน และมีความรับผิดชอบสูง  ท่านไม่ละโอกาสที่จะปรากฏอยู่ในพิธีบูชาขอบพระคุณในอาสนวิหารบ่อยครั้งเท่าที่โอกาสอำนวย ในวาระสุดท้ายของชีวิตของท่าน วิญญาณของท่านถูกยกขึ้นสู่สวรรค์ แวดล้อมด้วยหมู่เหล่าเทวดาที่คอยขับประสานบทเพลงไพเราะเพื่อสรรเสริญสดุดีด้วยความชื่นชมยินดี
                คริสตชนที่ดีทุกคน จึงควรที่จะเจริญรอยตามแนวทางของแบบอย่างชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวข้างต้น และวิงวอนองค์พระเจ้าในทุกครั้งที่มาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณโปรดประทานพระพรแห่งการสิ้นใจอย่างศักดิ์สิทธิ์ ในศีลในพรของพระเจ้า และ พ้นจากการชำระมลทินบาปในไฟชำระ   (ยังมีต่อ)
..................................................................................................................................

พี่น้องที่รัก
เราได้สร้างที่ประทับอะไรให้พระเจ้าของเรา จะไม่มีใครรบกวนท่าน ไม่มีคนชั่วคอยข่มเหงท่านแต่ท่านจะมั่นคงและดำรงอยู่ตลอดไป คําสอนของพระสันตะปาปา ฟรังซิสเกี่ยวกับแม่พระ
            1. หาเวลาเงียบๆในช่วงคริสต์มาสเพื่อฟังเสียงของพระเจ้าบ้าง สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส บุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ ทรงย้ำเทศกาลคริสต์มาสคือช่วงเวลารื่นเริงที่มีเสียงอึกทึกครึกโครมมาก มันจึงเป็นการดีที่เราจะเตรียมตัวรับเสด็จ นี่แหละคือท่วงทํานองของภาษาของพระเจ้า ซึ่งเราทุกคนต้องเตรียมตัวฟังเสียงนี้อย่างดี การจะฟังเสียงของพระเจ้านั้น โดยปกติแล้ว คริสต์มาสจะเป็นเทศกาลวันหยุดที่เสียงดังวุ่นวายมาก ดังนั้น จึงเป็นการดีที่เราจะมีช่วงเวลาเงียบๆและฟังเสียงแห่งความรักของพระเจ้า ฟังเสียงแห่งความอ่อนโยนของพระองค์เหมือนแม่พระที่ฟังเสียงเทวดา
            2. เด็กๆที่เตรียมตัวรับเสด็จพระกุมารด้วยการไม่ดื้อต่อพ่อแม่ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส บุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ทรงสอนเด็กๆให้เตรียมตัวรับเสด็จพระกุมารอย่างดีด้วยการไม่ดื้อกับพ่อแม่และคนที่ดูแลเรา เราต้องทําตัวเหมือนพระเยซูที่ไม่ดื้อกับนักบุญโยเซฟและแม่พระ ทรงขอบใจเด็กๆที่นําของขวัญมามอบให้ล่วงหน้า นี่ก็ใกล้วันคริสต์มาสเข้ามาแล้ว พ่อขอให้พวกหนูเตรียมตัวต้อนรับพระกุมารเยซูเป็นอย่างดี เตรียมตัวอย่างไร เตรียมตัวด้วยการเป็นเด็กดีกับคุณพ่อคุณแม่ และเชื่อฟังบรรดา คุณหมอ พยาบาล ซิสเตอร์ และบรรดาพี่ๆที่คอยดูแลเรา อย่าดื้อนะ พระกุมารเยซูไม่ดื้อกับนักบุญโยเซฟและแม่พระ เราก็ต้องอย่าดื้อ เพราะการเป็นเด็กดื้อที่ไม่ฟังใครจะทําให้ถูกปีศาจล่อลวงไปทําสิ่งที่ผิดได้นะ
      พวกเธอจงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเถิด จงอย่ากลัวเลย เพราะพวกเธอเป็นลูกของพระที่เกิดมาเพื่อรับใช้พระเป็นเจ้า จงอย่าทำให้เสียชื่อ เพราะไม่มีอะไรที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ ถ้าพวกลูกเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า จงหมั่นฟังเสียงของพระเจ้าที่ประทับอยู่ในตัวพวกลูก อย่าทำตามใจตัวเองเลย ความยินดีและความสุขใจจงมีแก่พวกลูกทุกคนในโอกาสคริสต์มาสที่ใกล้จะมาถึงนี้

คพ.พงษ์เกษม

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                เป็นที่น่ายินดีที่เรามีพระคัมภีร์คาทอลิก ฉบับสมบูรณ์แล้ว ตามที่พี่น้องทราบจากการประชาสัมพันธ์ของพ่อในช่วงเวลาที่ผ่านมา พ่อดีใจที่พี่น้องสนใจและจัดหาพระคัมภีร์เล่มนี้ไว้เป็นคู่มือในการดำเนินชีวิตคริสตชนกันอย่างเห็นได้ชัด จนพระคัมภีร์ที่จัดหามานั้นไม่เพียงพอกับความต้องการของพี่น้อง สัปดาห์นี้เราได้จัดหาพระคัมภีร์มาเพิ่มเติมแล้ว หวังว่าคงจะเพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องนะครับ
                อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์พระคัมภีร์ สภาพระสังฆราชอยากให้เราร่วมใจกันบริจาค เพื่อจุดประสงค์ในการจัดการส่งเสริมการศึกษาพระคัมภีร์ในเชิงลึกสำหรับกลุ่มคริสตชนชาวไทย ขอพี่น้องโปรดร่วมใจกันบริจาคเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวด้วยครับ

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 5
คุณประโยชน์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

                นักบุญ ยอห์นมารีย์ เวียนเนย์ ครั้งหนึ่งท่านป่วยหนักมาก แม้ว่าจะไปหาหมอรักษาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอาการจะทรุดหนักอย่างรวดเร็ว ทุกคนคิดว่าท่านคงไม่มีโอกาสหายป่วยกลับมามีชีวิตปกติดังเดิมได้อีก
                ท่านนักบุญ ขอให้มีการถวายพิธีบูชาขอบพระคุณบนพระแท่นของนักบุญฟีโลมีนา เพื่ออาการป่วยของท่าน เมื่อพระสงฆ์ถวายพิธีบูชาขอบพระคุณเสร็จสิ้นตามคำร้องขอ อาการป่วยของท่านนักบุญ ยอห์นมารีย์ เวียนเนห์ ก็หายเป็นปกติ
                ในเมืองลิสบอน มีสตรีผู้หนึ่งกำลังจะตายเพราะป่วยหนัก หมอลงความเห็นว่าเธอคงไม่สามารถหายเป็นปกติได้อย่างแน่นอน สตรีผู้นี้ป่วยเป็นมะเร็ง ในส่วนที่ไม่สามารถผ่าตัดรักษาได้ พระสงฆ์วิญญาณรักษ์แนะนำให้เธอขอมิสซาเพื่อการบำบัดรักษา สตรีผู้ป่วยหนักผู้นี้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระสงฆ์วิญญาณรักษ์ของเธอ พระคุณเอนกอนันต์ของพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นส่งผลให้เธอมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และในที่สุดอาการเจ็บป่วยของเธอก็หายอย่างอัศจรรย์ นำความยินดีมาสู่เพื่อนๆ ญาติพี่น้อง รวมถึงสร้างความประหลาดใจให้กับแพทย์ที่รักษาเธอเป็นอย่างมาก
                บ่อยครั้งมีสมาชิกในครอบครัวคริสตชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องพาไปหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงมีความชำนาญในการรักษา ต้องเสียค่ายารักษาโรคมากมาย เพื่อช่วยให้ผู้เป็นที่รักของเราหายจากอาการเจ็บป่วย เพื่อรักษาชีวิตอันมีค่าของเขาไว้ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ แต่หลายครั้ง เรากลับละเลยเช่นกันที่จะนึกถึง พระคุณเอนกอนันต์แห่งการบำบัดรักษาที่เราสามารถได้รับจากพิธีบูชาขอบพระคุณ
                คงจะมีผู้คนมากมายที่คงไม่ต้องลงไปนอนในหลุมฝังศพ และยังดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข ถ้าเขาเหล่านั้นได้รับพระคุณเอนกอนันต์จากการพึ่งพาพระพรที่ได้รับจากพิธีบูชาขอบพระคุณ อย่างที่สตรีผู้นั้นที่กรุงลิสบอนได้รับ
                เคราะห์หามยามร้าย อุบัติภัย มากมายที่แคล้วคลาดได้ ถ้ามนุษย์เรามีความเชื่อและมั่นใจในพระพรอันไม่มีที่สิ้นสุดของพิธีบูชาขอบพระคุณ
                ถ้าเราคาทอลิก เข้าใจถึงพระคุณเอนกอนันต์ของพิธีบูชาขอบพระคุณเช่นนี้อย่างทั่วถึงแล้ว เชื่อได้เลยว่า วัดต่างๆคงไม่มีที่ว่างเพียงพอจะรองรับคริสตชนที่มาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณทุกวันเป็นแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หวังว่า ผู้เป็นแม่บ้าน พ่อบ้านของครอบครัวคริสตชน จะปลูกฝังให้ลูกๆของตน ได้เห็นคุณค่าของการมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบใหญ่เขาจะได้ทำสิ่งนี้เป็นกิจวัตร (ยังมีต่อ)
.........................................................................................................................

  
พี่น้องที่รัก
เมื่อถูกพวกโรมันยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ชาวยิวต่างรอคอยผู้นำทางการเมืองและศาสนาที่เข้มแข็ง เพื่อไถ่กู้และปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ การมาของผู้นำที่เป็นทั้งผู้ไถ่กู้และผู้ปลดปล่อยเช่นว่านี้ ได้รับการกล่าวถึงล่วงหน้าจากบรรดาประกาศก เมื่อยอห์นบัปติสต์เริ่มงานของท่านในถิ่นทุรกันดาร จึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนอย่างรวดเร็ว และถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะส่งคนไปถามท่านว่า ท่านเป็นใครใช่พระผู้ไถ่หรือผู้ปลดปล่อยที่พวกเขากำลังรอคอยหรือเปล่า ท่านเป็นพยานแห่งแสงสว่าง ในพระวรสารวันนี้ ยอห์นบัปติสต์ได้บอกประชาชนว่า ท่านไม่ใช่แสงสว่าง แต่เป็นพยานถึงแสงสว่างที่แท้จริงซึ่งกำลังจะมาสู่โลก ยอห์นยืนยันว่าท่านไม่ใช่พระคริสตเจ้า ไม่ใช่เอลียาห์และไม่ใช่ประกาศก แต่เป็นเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร ที่ชี้บอกคนที่มาหาท่านให้เตรียมต้อนรับการเสด็จมาขององค์พระเจ้า ท่านได้ประกอบพิธีล้างด้วยน้ำ เพื่อเตือนให้ระลึกถึงการกลับใจและการให้อภัยบาปของพระเจ้า
ในเวลาเดียวกันยอห์นได้เป็นพยานด้วยความสุภาพถ่อมตน สำนึกว่าตนเองไม่คู่ควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของพระองค์ซึ่งถือเป็นงานของทาส แม้ท่านจะเป็นผู้เตรียมทางขององค์พระเจ้า แต่ท่านไม่ได้คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่อะไร เป็นแต่เพียงเสียงร้องให้เตรียมทางของพระเจ้าให้ตรง ความปรารถนาเดียวของท่านคือ ต้องการให้ประชาชนได้ยินเสียงร้องของท่าน และเปิดใจของตนต้อนรับผู้ที่มาภายหลังท่าน
ยอห์น ได้ประกาศข่าวสำคัญแก่ชาวยิวซึ่งกำลังรอคอยผู้ไถ่กู้ด้วยความกระวนกระวายว่า แต่มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่พวกท่าน เป็นผู้ที่ท่านไม่รู้จัก” (ยน1:26) เหตุผลที่ทำให้ผู้คนในสมัยพระเยซูเจ้าไม่รู้จักพระองค์ เพราะพวกเขาต่างคิดว่าพระคริสตเจ้าจะเสด็จจากสวรรค์ด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้า และสถาปนาอาณาจักรของพระองค์ด้วยการทำลายศัตรูของชนชาติอิสราแอลให้พินาศ เมื่อพระองค์เสด็จมาบังเกิดจากหญิงชาวยิวธรรมดาคนหนึ่งเหมือนคนอื่นทั้งหลาย พวกเขาจึงไม่รู้จักพระองค์ การเป็นพยานของยอห์นบัปติสต์ ช่วยปลุกเร้าจิตใจเราให้เตรียมฉลองการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในหนทางที่ถูกต้อง จงเป็นพยานแห่งแสงสว่าง เมื่อถูกถามว่าท่านเป็นใคร ยอห์นสำนึกว่าท่านเป็นพยานแห่งแสงสว่าง ผู้เตรียมทางสำหรับองค์พระเจ้า แล้วเราละเป็นใคร เราจะต้องเป็นพยานแห่งแสงสว่างของพระเจ้าที่เราเชื่อและติดตามพระองค์เช่นเดียวกัน เราจะต้องรักในกระแสเรียกในการเป็นผู้นำสารของพระคริสตเจ้าไปสู่ผู้อื่นในโลก นี่คือ พันธกิจของพระศาสนจักรและหน้าที่ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยาน ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีแก่กัน เป็นต้นในครอบครัว สังคมและหมู่คณะของเราและเสมอไป
            จงชี้ไปที่พระคริสตเจ้า ยอห์นไม่พูดถึงตัวท่านเองเลย แต่ชี้ไปที่พระคริสตเจ้าผู้ซึ่งเสด็จมาภายหลังท่าน ท่านตระหนักในความต่ำต้อยของตน พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้วยลง”(ยน3:30) ท่านได้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่โดยไม่หวังประโยชน์อะไร นอกจากพระคริสตเจ้า เราจะต้องไม่ชี้ไปที่ตัวเองหรือสำคัญผิดว่าเราคือความถูกต้องและสำคัญที่สุด แต่จะต้องชี้ไปที่พระคริสตเจ้า เราเป็นแต่เพียงเครื่องมือของพระองค์เท่านั้น ดังนั้นพระองค์จะต้องยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา จงแสวงหาพระคริสตเจ้า และยืนยันว่า พระคริสตเจ้าเสด็จมาแล้ว ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเราและเป็นผู้ที่เราไม่รู้จัก พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ซ่อนเร้น บ่อยครั้งการประทับอยู่ของพระองค์ อยู่เหนือการรับรู้และความเข้าใจของเรา เราจะต้องจำพระองค์ให้ได้ เป็นต้นในผู้ที่ต่ำต้อยและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นั่นคือ พระคริสตเจ้าที่ประทับอยู่ท่ามกลางเรา จึงจะทำให้ชีวิตของเราและหมู่คณะมีคุณค่าและความหมายที่แท้จริง


คพ.พงษ์เกษม

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2014

พี่น้องที่รัก
            เราก้าวเข้ามาสู่สัปดาห์ที่สองของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้ว วันคริสต์มาสใกล้จะมาถึงแล้ว พระเจ้าปรารถนาให้เราเตรียมจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยการรับศีลอภัยบาป เพื่อเราจะพร้อมที่จะต้อนรับการเสด็จมาขององค์พระผู้ไถ่ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว เพื่อให้พระพรที่พระองค์นำมาให้เรานั้น บังเกิดผลในผืนดินที่อุดมในจิตใจของเราอย่างแท้จริง
            วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม จะมีพิธีศีลอภัยบาปรวม เวลา 17.00 . ขอเรียนเชิญพี่น้องทุกท่านรับศีลอภัยบาปเพื่อชำระจิตใจสำหรับเตรียมตัวฉลองคริสต์มาส
            สำหรับอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคมนี้ จะมีพิธีต้อนรับผู้เตรียมเป็นคริสตชน ในระหว่างพิธีมิสซารอบ 17.30 .

พ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
บทที่ 5
คุณประโยชน์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

                นักบุญMechtilde ได้รับนิมิตพระเยซูประจักษ์มาหาเธอและกล่าวกับเธอว่า "ในพิธีบูชาขอบพระคุณ เราเสด็จมาด้วยความถ่อมตนโดยไม่ถือว่ามนุษย์คนใดเป็นคนบาป ไม่ว่าเขาจะได้ทำผิดมามากขนาดไหน ก็ไม่เป็นสาเหตุขัดขวางที่เขาจะเข้ามาหาเราได้ถ้าเขาปรารถนาเช่นนั้น และ แสดงความเสียใจในบาปที่เขาได้กระทำ เราเสด็จมาด้วยความใจกว้าง ไม่มีใครที่มาพบเราแล้วจะกลับไปมือเปล่า โดยไม่ได้รับความรักจากเราอย่างเต็มเปี่ยม เรามาเพื่อประทานอาหารจากสวรรค์ที่จะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้อ่อนแอ ที่จะมอบความสว่างให้กับผู้ที่ตกอยู่ในความมืดมน ที่จะให้พระพรมากมายอย่างสมบูรณ์เพื่อบรรเทาความโศกเศร้า ที่จะเปลี่ยนแปลงจิตใจที่แข็งกระด้างยึดมั่นถือมั่นในทางที่ผิดหลง และขจัดความหวาดเกรงต่างๆ ออกไปเสีย"
                คงไม่มีถ้อยคำใดๆอีกแล้ว ที่ทำให้เราอิ่มเอมเปรมใจเท่ากับ สิ่งที่พระองค์ได้ตรัสสัญญากับเราเช่นนี้ด้วยพระองค์เอง ถ้อยคำนี้แหละที่ช่วยเราให้เข้มแข็งในความเชื่อ และวางไว้ใจในพระธรรมล้ำลึกของพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม
                ในประวัตินักบุญ เกรโกรี่ แห่ง นาซีอันเซน กล่าวเอาไว้ว่า บิดาของท่านป่วยหนักและกำลังจะสิ้นใจ ท่านอ่อนกำลังลงอย่างมาก จนแทบไม่มีแรงขยับตัวเองเลย ลมหายใจของท่านค่อยๆแผ่วลง และไม่สามารถรับประทานอาหารใดๆบำรุงร่างกายให้สดชื่นขึ้นได้ ในที่สุดท่านก็เข้าสู่ภาวะตรีทูต
                ญาติๆของท่าน ต่างตระหนักดีว่าคงไม่มีวิธีใดๆที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นอีกแล้ว เขาได้แต่วางไว้ใจในความเชื่อในองค์พระเจ้า จึงไปที่วัดเพื่อขอให้คุณพ่อถวายพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อผู้ป่วย เมื่อพวกเขากลับไปบ้านก็พบว่าสถานการณ์เลวร้ายนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้ป่วยมีอาการกระเตื้องขึ้นและค่อยฟื้นตัวสู่สุขภาพที่เป็นปกติในที่สุด
..................................................................................................


  
พี่น้องที่รัก
ในปีที่สิบห้าแห่งรัชกาลพระจักรพรรดิทิเบรีอัสปอนทิอัสปีลาต เป็นผู้ว่าราชการแคว้นยูเดีย กษัตริย์เฮโรด ทรงเป็นเจ้าปกครองแคว้นกาลิลี ฟีลิปพระอนุชา ทรงเป็นเจ้าปกครองแคว้นอิทูเรียและตราโคนิติส ลีซาเนีย เป็นเจ้าปกครองแคว้นอาบีเลน อันนาสและคายาฟาส เป็นหัวหน้าสมณะ พระวาจาของพระเจ้า มาถึงยอห์น บุตรของเศคาริยาห์ในถิ่นทุรกันดาร  เขาจึงไปทั่วแม่น้ำจอร์แดน เทศน์สอนเรื่องพิธีล้างซึ่งแสดงการเป็นทุกข์กลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป ตามที่มีเขียนไว้ในหนังสือบันทึกของประกาศกอิสยาห์ว่าคนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด  หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะถูกทำให้ราบเรียบ 
            แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้าดังนั้น ยอห์นพูดกับประชาชนที่มารับพิธีล้างจากเขาว่าสัญชาติงูร้าย ผู้ใดแนะนำท่านให้หนีการลงโทษที่กำลังจะมาถึง  จงประพฤติตนให้สมกับที่ได้กลับใจแล้วเถิด และอย่ามาอ้างว่า เรามีอับราฮัมเป็นบิดา ข้าพเจ้าบอกท่านทั้งหลายว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นลูกของอับราฮัมได้  บัดนี้ ขวานกำลังจ่ออยู่ที่รากของต้นไม้แล้ว ต้นไม้ต้นใดที่ไม่ออกผลดีจะถูกโค่นและโยนใส่ไฟ(ลูกา 3:1-9) ชาวยิวไม่ได้ยินเสียงของประกาศก เป็นเวลานานสี่ร้อยปีแล้ว แต่เมื่อยอห์นปรากฏตัวเทศน์สอน และทำพิธีล้าง ประชาชนกลับเชื่อและยอมรับว่าท่านเป็น ประกาศก  คำเทศน์สอนของท่านมีลักษณะพิเศษท่านติเตียนคนผิดโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์เฮโรด ที่เอานางเฮโรเดียส ภรรยาของฟิลิปพระอนุชา มาเป็นภรรยา ท่านก็ทูลว่า ไม่ถูกต้องที่พระองค์ทรงรับนางมาเป็นมเหสี (มธ14:4)หรือพวกฟาริสีและสะดูสี ซึ่งเป็นถึงผู้นำทางศาสนาไม่วายถูกตำหนิว่าเป็น เจ้าสัญชาติงูร้าย (มธ3:7) เพราะปล่อยให้ประชาชนจมมืด อยู่ในกฎเกณฑ์และจารีตพิธีต่าง ๆ เมื่อประชาชนดำเนินชีวิต ราวกับไม่รู้จักพระเจ้า ท่านก็ไม่ลังเลเลยที่จะเตือนพวกเขา ให้หันกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้อง บ่อยครั้งทีเดียว ที่เราระมัดระวังตัวเกินกว่า จะกล้าตักเตือนผู้กระทำผิดเฉกเช่นที่ยอห์นได้กระทำท่านสั่งสอนประชาชนให้เป็นผู้ชอบธรรม  นอกจากติเตียนความผิดที่พวกเขาได้กระทำแล้ว ท่านยังเชิญชวนและท้าทายพวกเขา ให้กระทำทั้งสิ่งที่ ควรทำ (should) และสิ่งที่ ทำได้ (could) ด้วย  เสมือนเสียงที่กระตุ้นประชาชนให้ทำในสิ่งที่สูงส่งกว่าน่าเสียดายที่หลายครั้ง เรามัวสาละวนอยู่กับ การห้ามประชาชนทำผิด แต่ใส่ใจเพียงนิดเดียว ที่จะทำให้พวกเขาดำเนินชีวิต ตามจิตตารมณ์อันสูงส่งของพระเยซูเจ้าสำหรับพระเยซูเจ้า การไม่ทำความผิดอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอ แต่ต้องทำทุกสิ่ง ให้ดีที่สุดด้วย !

คพ.พงษ์เกษม