วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2018


สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา ปีบี
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งสภาภิบาลวัดเซนต์หลุยส์
รวมบัตรเลือกทั้งหมด จำนวน 1,201 ใบ
แบ่งเป็นรอบเย็นวันเสาร์   218 ใบ   เช้า 06.00 น.จำนวน         90 ใบ
เวลา 08.00 น.จำนวน        210 ใบ   เวลา 10.00 น.จำนวน        302 ใบ
รอบเที่ยงจำนวน 195 ใบ   และเย็นวันอาทิตย์           186 ใบ
หกท่านได้รับการเลือกจากทุกรอบรวมกัน คุณชวลิต ศิริยงวัฒนา คุณสินีนาฎ ยินดีอารมณ์ คุณชาลี ศรีโรจน์จริยา คุณโชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร คุณสมใจ ชลิตังกูร และคุณสมศักดิ์ เฉลิมอิสระชัย จึงขอประกาศให้พี่น้องได้ทราบด้วย
หลังจากนี้พ่อจะได้พูดคุยกับทั้งหกท่านเพื่อปรึกษาหารือการทำงานร่วมกัน ก่อนเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้กับทางสังฆมณฑลต่อไป ซึ่งจะประกอบด้วยตัวแทนองค์กร หมู่คณะ นักบวชชายหญิง และผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าวัด
โอกาสนี้พ่อขอให้แนวทางเพื่อแต่ละเดือนก่อนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2019 ซึ่งจะเป็นปีการเฉลิมฉลอง 350 ปีพระศาสนจักรไทย(มิสซังสยาม) ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ไปบ้างแล้ว
ก.ค.2018            ทำความสะอาดแท่นพระที่บ้านให้เรียบร้อย (แหล่งรวมใจประจำครอบครัว)
ส.ค.2018           ชำระจิตใจ(พระแท่นใหญ่)เพื่อเตรียมฉลองวัดปีที่ 61(เตรียมจิตใจฉลองวัด)
ก.ย.2018            อ่านพระคัมภีร์และหนังสือศรัทธา จัดไว้ให้ติดบ้าน(ทำพระวาจาให้เป็นพลังชีวิต)
ต.ค.2018            นัดกันในบ้านมาสวดสายประคำด้วยกันเวลา 18.00 น.ที่วัด(แม่พระ)
พ.ย.2018           โปรดระลึกถึงผู้ล่วงลับ ภาวนา มิสซา เยี่ยมสุสาน และทำกิจเมตตาที่ศาลาหลุยส์(ผู้ตาย)
ธ.ค.2018            สังสรรค์ครอบครัว ระดับบ้าน(น.หลุยส์)
ม.ค.2019           พบปะครอบครัวใหญ่ชุมชนละแวกบ้านใกล้เรือนเคียง(ชุมชนวัดเซนต์หลุยส์)
ก.พ.2019           ให้เวลายุวชนและเยาวชนเพื่ออนาคตของครอบครัว(สร้างคนรุ่นใหม่)
มี.ค.2019           สังสรรค์ พบปะ คณะองค์กรกลุ่มต่างๆของวัด(ยอแซฟ)
เม.ย.2019           มุทิตาจิตผู้อาวุโส(กตัญญุตาผู้สูงอายุ)
พ.ค.2019           รวมพลังวิถีชุมชนวัดเซนต์หลุยส์ (ทุกกลุ่ม)
มิ.ย.2019            กิจเมตตาเพื่อผู้ยากไร้

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
...................................................................................................

"วิถีของผู้มีความเชื่อ...ในพระเจ้า"
            พระ​เยซู​เจ้า​ทรง​เงย​พระ​พักตร์ ทอดพระเนตร​เห็น​ประชาชน​จำนวน​มาก​ที่มา​เฝ้า จึง​ตรัส​กับฟิ​ลิป​ว่า “​พวก​เรา​จะ​ซื้อ​ขนม​ปัง​ที่​ไหน​ให้​คน​เหล่านี้​กิน”..... พระ​เยซู​เจ้า​ทรง​หยิบ​ขนม​ปัง​ขึ้น ทรง​ขอบพระคุณ​พระ​เจ้า แล้ว​ทรง​แจกจ่าย​ให้แก่​ผู้​ที่​นั่ง​อยู่​ ตามที่​เขา​ต้องการ  พระองค์​ทรง​กระทำ​เช่นเดียวกัน​กับ​ปลา  เมื่อ​คน​ทั้งหลาย​อิ่ม​แล้ว..... บรรดา​ศิษย์​จึง​เก็บ​เศษ​ขนม​ปัง​บาร์เลย์​ห้า​ก้อน​ที่​เหลือ​นั้น​ได้​สิบ​สอง​กระบุง (ยน 6:5,11-13)
          จากพระวรสารเราพบรายละเอียดของเรื่องราวที่ผู้หิวโหยได้รับอาหารได้รับพระเมตตาความช่วยเหลือจากพระเยซูเจ้า. 
          สิ่งแรกเลยเราพบความรักความห่วงใยที่เริ่มจากพระเจ้า ความทุกข์ของเราไม่เคยตกหล่นไปจากสายตาพระองค์
            ประกาศกเอ​ลี​ชา​บอก​ว่า “จง​แจก​ให้​ทุก​คน​กิน​เถิด เพราะ​องค์พระผู้เป็นเจ้า​ตรัส​ดังนี้ “ท่าน​ทั้งหลาย​จะ​ได้​กิน แล้ว​ยัง​จะ​มี​เหลือ​อีก” “ ผู้รับ​ใช้​จึง​จัด​อาหาร​ให้​ทุก​คน ทุก​คน​กิน​และ​ยัง​มี​เหลืออยู่​อีก​ตามที่​พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ไว้. (2พกษ 4:43-44)
          ประการที่สอง เราพบว่าพระองค์ได้รับความร่วมมือร่วมภารกิจกับพระองค์ จากบรรดาศิษย์ที่ออกแรง จากพี่น้องที่มีและแบ่งปัน
          ประการที่สาม ประการสุดท้าย เราพบพระเยซูเจ้ายกทุกอย่างทั้งอาหารที่มีน้อย ทั้งผู้คนที่หิวโหย ทั้งผู้ร่วมงานที่ใจกว้างออกแรงและแบ่งปัน. พระองค์ยกขึ้นมอบให้กับพระบิดา. พระองค์กำลังมอบความเชื่อมั่นวางใจไว้กับพระบิดา ให้พระบิดาได้ทำงานผ่านมือของพระองค์และผู้ร่วมงาน
ท่าน​ทั้งหลาย​ให้​ดำเนิน​ชีวิตในความเชื่อ ให้​สม​กับ​การ​ที่​ท่าน​ได้รับ​เรียก  จง​ถ่อม​ตน​อยู่​เสมอ จง​มี​ความ​อ่อนโยน พากเพียร​อดทน​ต่อ​กัน​ด้วย​ความ​รัก (อฟ 4:1-2)
          เราพบว่าผ่านความเชื่อ วางใจในพระบิดา. พระองค์ประทานพระพร ประทานให้เกินจากที่มนุษย์จะทำได้. และวิถีความเชื่ออย่างที่พระเยซูเจ้าทรงทำเป็นแบบอย่าง. การมองดูกันด้วยรักเมตตา กล้าออกแรงและแบ่งปัน อีกทั้งมอบยกไว้ในความเชื่อต่อพระเจ้า ในความคุ้มครองของพระองค์...จึงกลายเป็น "วิถีของผู้มีความเชื่อ...ในพระเจ้า"

                        นกขุนทอง.

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2018


สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา ปีบี
ยอดเงินเพื่อสังฆมณฑลเชียงราย พ่อได้ดำเนินส่งงวดแรกเมื่อ 5 กรกฎาคมจำนวนเจ็ดแสนบาทถ้วนยังคงมียอดเงินอีกเล็กน้อยจะรวบรวมและนำส่งสมทบให้เรียบร้อยภายในเดือนนี้ ขอขอบคุณทุกท่าน
หลังจากได้ทำพิธีตื่นเฝ้า 4-5-6 และ ขอพรพระเจ้าในวันที่ 7 และ 8 เพื่อชุมชนศิษย์พระคริสต์ในละแวกวัดเซนต์หลุยส์ จะได้เดินก้าวหน้าต่อไปด้วยปริมาณและคุณภาพเพื่อช่วยพระเยซูเจ้าประกาศข่าวดีต่อไปอย่างมีชีวิตชีวา ด้วยบรรยากาศครอบครัว ตามวิถีชุมชนพระคริสต์ สร้างเด็กยุวชนเพื่อให้เขาเติบโตเป็นเยาวชนช่วยประกาศข่าวดี โดยมีบรรดาผู้ใหญ่เป็นประจักษ์พยานด้วยคุณค่าพระวรสาร และทำให้เพื่อนบ้านผู้อ่านเห็นความสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม สัมผัสด้วยกิจการแห่งเมตตา ทั้งพี่น้องคริสตชนและต่างความเชื่อ
สองสัปดาห์นี้ พ่อขอให้พี่น้องที่มาวัดเซนต์หลุยส์ ให้ความสำคัญกับพันธกิจ(mission)ของวัดเซนต์หลุยส์ พ่อได้แทรกประวัติผู้อาสาเข้ามาเป็นผู้แทนของวัดในบทบาทสมาชิกสภาภิบาลขอให้ทุกท่านทำความเข้าใจเพื่อจะได้พิจารณาเลือกเข้ามาทำให้พันธกิจของวัด ให้เป็นสถานที่เพื่อทำวัดให้เป็นชุมชนแห่งความเชื่อพระคริสตเจ้าอย่างแข็งขัน
อาทิตย์หน้าที่ 22 ในมิสซาทุกรอบ รวมทั้งวันเสาร์ที่ 21 ด้วย จะให้เลือกตัวแทนที่ท่านต้องการ 6 ท่านเพื่อเป็นผู้แทนของท่านเองด้วยใจอิสระและในสัปดาห์หน้าพ่อจะแจ้งผลให้ทราบในสัปดาห์หน้าต่อไป รูปแบบการเลือกอาจไม่เคร่งครัดเหมือนการเลือกตั้งบ้านเมือง เพราะผู้แทนสภาภิบาลวัดไม่มีเงินเดือนค่าจ้างใดๆ มาเพื่อรับใช้พระเจ้าในพันธกิจสำคัญของวัด จึงกระทำด้วยใจ ในระหว่างช่วงประชาสัมพันธ์จะกระทำแบบแจกและขีด / เลือก 6 ท่านและส่งคืนทันทีให้กับเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ทำการเลือกได้คือผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
พ่อเห็นประวัติและรูปภาพ น่าสนใจในการทำงานร่วมกัน หวังว่าคงเป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะนำพาชุมชนแห่งความเชื่อของวัดให้มีชีวิตชีวา หลังจากประวัติของวัดอันยาวนาน 60 ปีและ 120 ปีของชุมชนแห่งนี้
พันธกิจสำคัญคือการทำให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้ามีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น กับสังคมรอบตัวเราด้วยกิจกรรมที่สัมผัสด้วยความรักและเมตตา ผ่านการแบ่งปันและรับใช้กันและกัน ในชีวิตประจำวันที่แต่ละคนได้รับพระพรจากพระเจ้า
ในที่สุดเพื่อให้การเตรียมตัวฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม การเริ่มพระศาสนจักรในประเทศไทย ให้ทุกคนทำกิจกรรมทำบ้านพระให้สะอาด โดยเฉพาะแท่นพระประจำบ้าน เพื่อเครื่องหมายของการเริ่มต้น “ขยับ” ปรับเปลี่ยนตนเอง
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
.....................................................................................................................

“ไปเถอะไปทำตามเสียงของพระองค์.”

“เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามาพบและทรงเริ่มส่งเขาเป็นคู่ๆ ประทานอำนาจเหนือปีศาจ.....บรรดาอัครสาวกจึงไปเทศน์สอนคนทั้งหลายให้กลับใจ ขับไล่ปีศาจจำนวนมากเจิมน้ำมันผู้เจ็บป่วยหลายคน และรักษาเขาให้หายจากโรคภัย(มก 6:7,12-13)
            เวลาเราดูหนังผี เห็นเขาไล่ผี เราคิดถึงผีหรือเป็นห่วงถึงคน  หลายครั้งสังเกตว่าเรามัวแต่เป็นห่วงว่าผีตนนั้นที่มันมาสิงและทำร้ายคนมันโหด อาฆาตแค้น และอันตรายเป็นอย่างยิ่ง  แต่เรากลับไม่ได้คิดถึงคนคนนั้นที่ถูกปีศาจสิงและทำร้ายเขาเลยว่า เขาจะเจ็บปวด จะอยู่อย่างไร
พระเจ้าทรงเลือกสรรเราในพระคริสตเจ้าแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเนรมิตสร้างโลก เพื่อให้เราศักดิ์สิทธิ์และปราศจากมลทินเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ด้วยความรัก(อฟ 1:4)
            ประการที่สำคัญสุดที่พระเจ้าทรงเรียกเรา พระองค์ทรงเรียกเราเพื่อให้เรามองดูพี่น้องรอบกายเรา มองให้เห็นถึงความทุกข์ที่เขากำลังเผชิญ ความเจ็บปวดที่พวกเขาต้องแบกรับทั้งน้ำตา
            ชีวิตศักดิ์สิทธิ์ของเราผู้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนของพระเป็นเจ้า ลูกของพระบิดา ไม่ได้อยู่ที่เราสามารถทำอภินิหารได้  แต่สำคัญอยู่ที่เราฟังเสียงของพระ ยอมให้น้ำใจตนเองเป็นเรื่องรอง แต่น้ำพระทัยของพระเป็นเรื่องแรกและสำคัญสุด  เราฟังเสียงของพระองค์ที่เรียกร้องเราให้ดูแลพี่น้องผู้เจ็บปวด ได้รับการเยียวยา รับความบรรเทา และมีสันติสุข มีรอยยิ้ม
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ข้าพเจ้าเลิกต้อนฝูงแพะแกะ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ไปเถอะจงไปประกาศพระวาจาแก่อิสราเอลประชากรของเรา” (อมส 7:15)
            ไปเถอะ ให้เราทำตามเสียงของพระองค์  เราจงออกไปประกาศความรักของพระให้แก่ทุกคน  บอกว่าพระรักเขาด้วยรอยยิ้มของเราที่แบ่งปันให้เขา  บอกว่าพระทรงพระเมตตาด้วยน้ำใจกว้างขวางที่เราแบ่งปันให้กันด้วยใจกว้าง  ไปเถอะไปทำตามเสียงของพระองค์.
                        นกขุนทอง