วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วัดเซนต์หลุยส์ของเราได้มีโอกาสต้อนรับพระธาตุนักบุญพระสันตะปาปา บิดาที่แสนดีทั้งสองพระองค์ ซึ่งได้แก่พระธาตุนักบุญยอห์นที่ 23 พระสันตะปาปา และ นักบุญ ยอห์นปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา พ่อได้เห็นความเชื่อศรัทธาอันงดงามของพี่น้องที่เข้ามาถวายนมัสการสักการะพระธาตุกันอย่างพร้อมหน้า ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ขอท่านนักบุญทั้งสองโปรดวิงวอนพระเมตตาจากพระเจ้า เพื่อพี่น้องทุกท่านด้วยเทอญ
                ในอาทิตย์สัปดาห์นี้เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์เสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ พ่อขอเชิญชวนพี่น้องอีกครั้งหนึ่งให้เรามาร่วมใจกันถวายเกียรติแด่พระนางมารีย์แม่พระของเรา และฝากชีวิต วิญญาณ และ ครอบครัวของเราไว้ในการปกปักษ์พิทักษ์รักษาของพระนาง เราจะร่วมใจกันถวายพระเกียรติแด่พระนางด้วยดอกไม้ช่องามจากใจของเราที่เปี่ยมไปด้วยความยกย่องเทิดทูนในแบบอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เราทุกคนพึงดำเนินตาม

คุณพ่อสุพจน์

ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
ทูตสวรรค์และพิธีบูชาขอบพระคุณ
นักบุญ เกรโกรี
                "ฟ้าสวรรค์เปิดออก บรรดาทูตสวรรค์จำนวนมากมายหลั่งไหลลงมา ช่วยเป็นสักขีพยานในพิธีบูชาขอบพระคุณ"

นักบุญออกัสติน
                "หมู่มวลทูตสวรรค์ลงมาล้อมรอบพระสงฆ์ และ ช่วยเหลือพระสงฆ์ในเวลาที่พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ"

นักบุญ ยอห์น คริสซอสตอม
                "ในเวลาที่พระสงฆ์ประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ มีเหล่าทูตสวรรค์จำนวนมากมายเหลือคณานับมาชุมนุมอยู่ในวัด เพื่อถวายนมัสการแด่เครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ที่นำมามอบถวายแด่พระเจ้า ณ พระแท่นบูชา"

                ประสิทธิผลของพิธีบูชาขอบพระคุณช่างมากมายเสียจริง เพราะพระเมตตาและพระทัยดีของพระเจ้านั้นอเนกอนันต์ คงไม่มีช่วงเวลาใดๆที่มีคุณค่าเทียบเทียมได้ เพราะในเวลานั้นพระเยซูเจ้าทรงมาประสูติอีกครั้งบนพระแท่นบูชา ดังนั้นสิ่งใดๆที่เราทูลขอเราน่าจะได้รับเป็นแน่แท้
                เหล่าทูตสวรรค์ทราบเรื่องเหล่านี้ดี จึงพร้อมใจกันมาพร้อมหน้ากันเพื่อถวายนมัสการแด่พระเจ้า เพื่อถวายคำทูลขอแด่พระองค์ในโมงยามแห่งพระเมตตานี้  
(ยังมีต่อ)
................................................................................................................................................

           
พี่น้องที่รัก
ช่างเป็นเกียรติอันสูงส่งที่หญิงผู้หนึ่งได้รับยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ การฉลองแม่พระในพระศาสนจักรสมัยก่อนสังคายนาสากลที่เมืองเอเฟซัส ปี ค.ศ. 431 กระทำในแบบเดียวกับการฉลองนักบุญมรณสักขีที่พลีชีพเพื่อเห็นแก่ความเชื่อซึ่งบรรดาคริสตชนในสมัยแรกให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังพิธีกรรมของพระศาสนจักรได้พัฒนาไปเป็นวันฉลองการนอนหลับซึ่งเชื่อกันว่าแม่พระไม่ได้ตาย เพียงแต่นอนหลับสนิทและได้รับการยกขึ้นสวรรค์สู่อ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้าในสภาพดังกล่าว (Dormitio) ต่อมาจักรพรรดิ Maurizio 582-620 ได้กำหนดให้ฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ในวันที่ 15 สิงหาคม ทั่วอาณาจักรไบเซนทิน และไม่นานก็ได้กลายเป็นวันที่ฉลองกันทั่วไป รวมถึงพระศาสนจักรตะวันตกด้วย ศตวรรษที่ 18 พระสันตะปาปาอาดรีอาโนที่ 1 ได้เปลี่ยนการฉลองการนอนหลับของแม่พระ เป็นการฉลองการรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ (Assuption) พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ประกาศข้อความเชื่อเรื่องการรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์แก่โลกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1950 ว่า “พระนางมารีย์ มารดาพระเจ้าผู้ปฎิสนธินิรมลและเป็นพรหมจารีเสมอ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ หลังจากบรรลุถึงความสมบูรณ์ของชีวิตในโลกนี้”  เพราะแม่พระได้ร่วมส่วนในชีวิตนิรันดรกับพระเยซูเจ้าในฐานะแม่ของพระบุตร และยังมีส่วนในผลแรกแห่งการกลับคืนชีพของพระบุตรฐานะมารดาของพระเจ้า (Theotokos) คือได้มีส่วนในงานไถ่กู้ของพระผู้ไถ่ตั้งแต่เริ่มแรก บทบาทในการแจกจ่ายพระหรรษทานของพระเจ้าและความหวังของมนุษยชาติ พระคริสตเจ้าจึงไม่ทรงประสงค์ให้ร่างกายของแม่พระที่ปราศจากบาปต้องเน่าเปื่อยหลังความตาย ถือเป็นการยกย่องหญิงคนที่ยากจนและถูกกดขี่ที่พระเจ้าทรงเลือกให้บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยบทเพลงสรรเสริญของแม่พระ(Magnificat)พระเจ้าทรงให้ความสำคัญกับคนยากจน คนเล็กน้อย และคนสิ้นหวังเป็นอันดับแรกเสมอ และพระสิริรุ่งโรจน์แห่งการประทับของพระองค์ในโลกปรากฏชัดในบุคคลเหล่านี้ เราจึงมิอาจปล่อยตัวหลงระเริงไปกับกระแสของโลกได้ ต้องเป็นหนึ่งเดียวที่บริบูรณ์กับพระเจ้า และร่างกายของเราเป็นที่รักของพระเจ้าที่จะต้องมีเป้าหมายว่าจะได้รับเกียรติรุ่งโรจน์ กลายเป็นร่างกายใหม่ที่สดใสสวยงามแม้จะชราหรือประสบความทุกข์ระทมต่างๆ หนทางแห่งความเชื่อของการรับใช้พระเจ้าด้วยการน้อมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตเสมอด้วยความสรรพพร้อมของเรา และการที่แม่พระขึ้นสวรรค์เป็นภาพของพระศาสนจักร ประชากรของพระเจ้าที่ชนะบาปและความตาย พ้นทุกข์จากโลกเพื่อได้ไปเสวยสุขกับพระเจ้า ด้วยการเจริญตามรอยชีวิตของแม่พระด้วยการฟังและปฏิบัติตามจนถึงที่สุด ขอให้ชาวเราได้เดินตามรอยพระแม่  เพื่อสักวันจะได้บรรลุถึงสวรรค์เช่นกันด้วย

คุณพ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น