วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2013

พี่น้องที่รัก
            วันนี้เป็นวันฉลองนักบุญทั้งหลาย พ่ออยากถือโอกาสนี้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยครับ คำว่า “นักบุญ” มีความหมายอย่างไร?  ถ้าจะพูดกว้างๆแล้ว นักบุญ คือบุคคลที่เชื่อและกราบไหว้ในองค์พระเยซูคริสต์ และ ดำเนินชีวิตของเขาตามคำสอนของพระเยซู ในศาสนาคาทอลิกของเรา ใช้คำๆนี้เพื่อหมายถึง บุคคลพิเศษที่เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหญิงและชาย เขาเหล่านี้มีคุณธรรมสูงส่ง และ บัดนี้เขาอยู่ในสวรรค์กับพระเจ้าแล้ว
            คำว่า “นักบุญ” หมายถึง “ผู้เต็มเปี่ยมด้วยบุญ” หรือ “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” ในพระคัมภีร์พระธรรมใหม่ “นักบุญ” ได้แก่ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ และ ถือตามคำสอนของพระองค์ นักบุญเปาโล มักจะใช้คำๆนี้ในคำทักทายเริ่มต้นจดหมายของท่านเสมอ เช่นใน อฟ. 1:1 กล่าวว่า “จากเปาโล อัครสาวกของพระคริสตเยซู ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ถึงบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีความเชื่อในพระนามพระคริสตเยซู”
            ต่อมา ความหมายของคำนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่กลุ่มคริสตชนเริ่มเติบโตขึ้น เป็นเรื่องชัดเจนว่า คริสตชนบางคนดำเนินชีวิตมีคุณธรรมสูงส่ง ในขณะที่คริสตชนบางคนได้พยายามอย่างยิ่งยวดในการถือตามคำสอนของพระคริสตเจ้า บุคคลเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการมีระดับศีลธรรมในขั้นสูง และ เขาสามารถถือปฏิบัติในคุณธรรมความเชื่อ ความหวัง และ การแบ่งปันได้อย่างง่ายดาย
            คำว่า “นักบุญ” จึงค่อยๆมีความหมายถึงบุคคลเหล่านี้  ที่ได้รับการยกย่อง กราบไหว้ ภายหลังจากสิ้นชีวิตลงแล้ว ในฐานะเป็น “นักบุญ” ซึ่งความเคารพยกย่อง และ ความศรัทธานี้เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อยู่ในพระศาสนจักรท้องถิ่นก่อน เพราะเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงขจรขจายในคุณงามความดี ต่อมาภายหลัง พระศาสนจักรคาทอลิก จึงได้กำหนดขั้นตอน และ หลักเกณฑ์ ที่เรียกว่า “พิธีสถาปนานักบุญ” ขึ้น เพื่อที่จะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบ ว่าบุคคลที่น่าเคารพยกย่องเหล่านี้ เป็น “นักบุญ” เพื่อให้คริสตชนในทุกหนทุกแห่งได้ทราบ และ มีโอกาสจะได้แสดงความศรัทธาต่อท่านเหล่านั้นบ้าง
            ด้วยเหตุนี้ นักบุญส่วนใหญ่ที่เรารู้จัก ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาเพื่อสถาปนาเป็นนักบุญมาแล้วทั้งนั้น เช่นนักบุญ เทเรซา นักบุญ อันตน แต่ก็มีบ้างที่เป็นนักบุญโดยการยอมรับนับถือของคนทั่วไปในโลก ที่ถือว่าท่านเหล่านี้บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ขั้นนักบุญแล้ว เช่น นักบุญเปโตร นักบุญเปาโล
            เราคาทอลิกเชื่อว่า นักบุญทั้งสองประเภท ต่างก็อยู่กับพระเจ้าในสวรรค์แล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องมีอัศจรรย์เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการสวดวอนขอผ่านทางท่านนักบุญองค์นั้นเป็นเรื่องราวประกอบ สำหรับการพิจารณาแต่งตั้งใครเป็นนักบุญสักองค์หนึ่ง
            การฉลองนักบุญทั้งหลาย เป็นการฉลองเพื่อให้เราคริสตชนที่ยังคลุกคลีอยู่กับชีวิตในโลกปัจจุบัน ได้เห็นแบบอย่างที่น่าสรรเสริญของเหล่านักบุญ และ ดำเนินชีวิตเลียนแบบอย่างของท่านนั่นเอง

คุณพ่อ สุพจน์
........................................................................................
เราเชื่ออะไร
มนุษย์ได้รับวิญญาณมาจากไหน

วิญญาณ คือสิ่งที่ทำให้บุคคลแต่ละคนมีความเป็นมนุษย์ คือเป็นชีวิตที่มีจิตวิญญาณ หรือชีวิตภายใน มนุษย์จึงเป็นสิ่งสร้างที่สามารถกล่าวถึงตัวเองว่า “ฉัน” ได้ ในฐานะเป็นบุคคลเพื่อจะไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า แม้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่มีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ แต่จิตใจของมนุษย์นี้ก็มิได้เป็นเพียงกลไกหนึ่งของร่างกาย และไม่อาจอธิบายได้ว่าเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของร่างกายมนุษย์เท่านั้น สติปัญญาของเราบอกเราว่า เรามีส่วนของจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย โดยที่มิได้เหมือนร่างกาย ซึ่งเราเรียกส่วนนี้ว่า “วิญญาณ” แม้การมีอยู่ของวิญญาณนี้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม
วิญญาณนี้มิใช่เป็น “ผลผลิต” จากความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด หรือผลผลิตมาจากวิวัฒนาการทางธรรมชาติแต่อย่างใด หากแต่เป็นพระเจ้าที่ทรงสร้างวิญญาณนี้ของมนุษย์เราแต่ละคนโดยตรง พระศาสนจักรกล่าวถึงความเร้นลับนี้โดยอธิบายว่า พระเจ้าประทานวิญญาณที่ไม่รู้จักตายให้แก่มนุษย์แต่ละคน แม้บุคคลผู้นั้นจะสูญเสียสิ่งที่เป็นร่างกายไปเพราะความตาย แต่เขาก็จะพบวิญญาณนั้นอีกเมื่อกลับคืนชีพอีกครั้ง การกล่าวว่า “ฉันมีวิญญาณ” จึงหมายความว่า ฉันมิใช่เป็นเพียงสิ่งสร้างหนึ่งของพระเจ้าเท่านั้น หากแต่พระองค์สร้างให้ฉันเป็นบุคคลที่จะมีความสัมพันธ์ไปกับพระองค์ตลอดกาล
สักวันหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า ร่างกายและวิญญาณของเราจะไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์
“พระองค์ทรงเป็นในสิ่งที่เราเป็น เพื่อว่า พระองค์จะได้ทรงกระทำให้เราเป็น ในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็น”
นักบุญ อาทานาซีอุส (295-373)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น