วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2013

พี่น้องที่รัก
            เราก้าวเข้ามาสู่เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี พ.ศ. 2556 แล้ว ถ้าจะพูดให้มองเรื่องของเวลา เราเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวปี พ.ศ. 2556 ก็จะผ่านพ้นไปแล้ว เดือนนี้จึงเป็นเดือนสำคัญของการปิดโฉมหน้ากิจกรรมต่างๆที่ได้จัดทำตามเป้าหมายของแต่ละหน่วยงาน องค์กร บริษัท ห้างร้าน ฯลฯ ที่ได้วางแผนงานเอาไว้ และ หลังจากนี้คงเป็นเรื่องของการประเมินผลงานและกิจกรรมต่างๆว่าบรรลุผลตามเป้าหมายมากน้อยอย่างไร
            ในส่วนของปีพิธีกรรม วันวันนี้เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า นั่นหมายความว่า วันคริสต์มาสอยู่ไม่ห่างจากเราเท่าไหร่แล้ว กิจกรรมต่างๆในค่ำคืนวันคริสต์มาส ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี ก็คงมีเช่นปีที่ผ่านๆมา ในปีนี้ทางวัดจะพยายามจัดเตรียมเรื่องการตกแต่งสถานที่ และ การจัดไฟความสว่างให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในค่ำคืนวันคริสต์มาสให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ในปีนี้เรามีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่ได้รับบริจาคมาจากผู้มีน้ำใจดี มาติดตั้งบริเวณหน้าวัด และ จะมีการจัดเตรียมเวทีขนาดย่อมๆสำหรับการจัดการประกวดถ้ำพระกุมาร  เพื่อให้ดูงดงามเหมาะสมกับวันฉลองสำคัญนี้ซึ่งปีหนึ่งมีเพียงครั้งเดียว นอกนั้น เรื่องของการสอยดาว การเล่นบิงโก การเล่นเกมส์ และ บ้านลม ก็ยังมีไว้สำหรับความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับทุกๆคนที่มาร่วมงาน ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความชื่นชมยินดี ความรัก และ การแบ่งปัน อันเป็นความหมายสำคัญของวันคริสต์มาสนั่นเอง
            พ่อขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องที่ได้ร่วมกันคนละไม้คนละมือในการบริจาคของรางวัล และ ปัจจัยสำหรับการจัดงานคริสต์มาสในปีนี้ ขอขอบคุณเช่นกันสำหรับพี่น้องอีกหลายๆท่านที่มีส่วนร่วมในการช่วยกันจัดงานนี้ขึ้น โดยมีส่วนร่วมในการเตรียมการต่างๆในทุกๆด้าน พ่อเชื่อมั่นว่าพลังของความร่วมมือกันของเราทุกคน จะยังผลให้เกิดสิ่งที่ดีงามและมีคุณค่าสำหรับทุกคนครับ


คุณพ่อ สุพจน์
......................................................................................................
เราเชื่ออะไร
พระเยซู เป็นทั้งพระเจ้าแท้ และมนุษย์แท้ หมายความว่าอะไร

                พระศาสนจักรต่อสู้มาเป็นเวลานานกับปัญหาการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นพระเจ้า และความเป็นมนุษย์ในพระเยซูคริสตเจ้า ว่าพระองค์ไม่ใช่พระเจ้าเพียงบางส่วน และเป็นมนุษย์บางส่วนอย่างที่มีหลายคนหลายกลุ่มเข้าใจ ในปี ค.ศ.325 สภาสังคายนาที่เมืองนิเซีย ได้ประกาศข้อความเชื่อของพระศาสนจักรว่า “พระเจ้ามีแต่พระองค์เดียว ส่วนพระคริสตเจ้าทรงเป็นพระบุตรแต่พระองค์เดียวของพระเจ้า ซึ่งมีพระธรรมชาติเช่นเดียวกับพระบิดา” (นั่นหมายความว่า ทรงมีพระธรรมชาติเป็นพระเจ้าเหมือนกับพระบิดา  และเท่ากับพระบิดาทุกประการ กล่าวคือ ทรงเป็นพระเจ้าที่สมบูรณ์เช่นเดียวกับพระบิดาด้วย) พระบุตรมิได้ทรงถูกสร้าง  แต่กลับเป็นผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน (คำสอนนี้ลบล้างความคิดของอารีอุสที่สอนว่า พระบุตรทรงถูกสร้างจากความว่างเปล่า และเพื่อยืนยันว่า พระบุตรทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้)
            มาในปี ค.ศ.451 สภาสังคายนาที่คาลเซดอน ได้ยืนยันอีกว่า “พระคริสตเจ้าทรงเป็นพระเจ้าทั้งครบและมนุษย์ทั้งครบ ทรงเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ ประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ พระองค์ทรงร่วมสาระเดียวกับพระบิดาในฐานะที่พระองค์เป็นพระเจ้า และร่วมธรรมชาติเดียวกับเราในฐานะเป็นมนุษย์  จึงทรงเป็นเหมือนเรามนุษย์ทุกอย่าง ยกเว้นบาป ในฐานะที่พระองค์เป็นพระเจ้า จึงทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา  และในฐานะที่พระองค์เป็นมนุษย์ ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์ พระองค์จึงมี 2 ธรรมชาติ ที่ไม่มีการผสมผสานหรือเปลี่ยนแปลง ทั้งสองธรรมชาตินี้ ไม่ได้สูญไป คุณลักษณะของแต่ละธรรมชาติยังคงอยู่ และรวมเป็นหนึ่งในพระบุคคลเดียว
            ด้วยเหตุนี้จึงมี 2 น้ำพระทัย และ 2 การทำงานอยู่ในพระคริสตเจ้า โดยปราศจาก การแบ่งแยก เปลี่ยนแปลง หรือผสมปนเปกัน ยิ่งกว่านั้น ทั้งสองน้ำพระทัยนี้ไม่มีความขัดแย้งกัน กล่าวคือ น้ำใจแบบมนุษย์ จะนอบน้อมและไม่ต่อต้านน้ำพระทัยแบบพระเจ้า ส่วนความเป็นพระเจ้าของพระคริสตเจ้า ก็ไม่ได้จำกัดน้ำใจมนุษย์ของพระองค์ แต่ยังคงรักษา และส่งเสริมความเป็นมนุษย์แท้ของพระองค์ให้สมบูรณ์ขึ้น 
“ไม่มีแห่งใดในโลกที่มีอัศจรรย์ยิ่งใหญ่สุดเท่าที่คอกสัตว์ในเมืองเบธเลเฮม   เพราะที่แห่งนั้น พระเจ้าและมนุษย์ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน”
Thomas Kempis (1380-1471)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น