วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2013

สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน
            สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม เราสมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล วันนี้เป็นวันที่เราจะภาวนาเป็นพิเศษเพื่อพระกระแสเรียก โดยเฉพาะกระแสเรียกในการเป็น พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อนุญาตให้ครอบครัวชาวจีนสามารถมีลูกได้ ครอบครัวละ 2 คนแล้ว ตามที่เราพอทราบกันมาแต่นานแล้วว่า ประเทศจีนมีจำนวนประชากรเยอะที่สุดในโลกถึงประมาณ 1200 ล้านคน ผู้ปกครองประเทศจีนเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน กลัวว่าชาวจีนจะมีจำนวนประชากรมากเกินไป จึงพยายามหาทางควบคุมประชากรเอาไว้ด้วยการออกนโยบายให้ครอบครัวแต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียงครอบครัวละ 1 คน นโยบายนี้มีข้อดีในแง่ที่ว่าสามารถควบคุมอัตราการเจริญเติบโตของจำนวนประชากรชาวจีนไว้ให้อยู่ภายในขีดจำกัดได้ แต่ตอนนี้ผู้ปกครองประเทศจีนเริ่มมองเห็นแล้วว่า ในอนาคตประเทศจีนซึ่งกำลังมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดของโลกในขณะนี้ อาจจะตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนแรงงานในอนาคตได้ จึงเปลี่ยนนโยบายเรื่องการมีบุตรเพื่อให้มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นในอนาคต ที่พ่อนำเรื่องนี้มาพูดก็เพื่อจะนำมาบอกเล่ากับพี่น้อง เพื่อจูงเข้าสู่เรื่องของกระแสเรียกของการสมัครใจเข้ามาเป็นพระสงฆ์ นักบวชชาย หญิง เราทั้งหลายคงไม่ปฏิเสธว่า พระสงฆ์  มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในพระศาสนจักร เพราะมีหน้าที่โดยตรงในการเทศน์สอน โปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ ถวายบูชาขอบพระคุณ อีกทั้งมีบทบาทในการสืบสาน คำสอน ธรรมประเพณีศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร ส่วนนักบวชชาย หญิง ก็มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับพระศาสนจักร ในการเจริญชีวิตด้วยความรักในหมู่คณะอันเป็นคำสอนประการสำคัญของพระเยซูเจ้า และ เป็นผู้ประกอบภารกิจแห่งความรักที่แต่ละคณะมีจิตตารมณ์เฉพาะของตัวเอง ในการเผยแผ่ข่าวดีและเสริมสร้างอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกอย่างเป็นรูปธรรม แนวโน้มที่น่าเป็นห่วงก็คือ จำนวนของผู้สมัครใจตอบรับกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์นักบวชในปัจจุบันมีน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคงมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ แต่สิ่งที่พ่ออยากสื่อความกับพี่น้องในวันนี้ก็คือ ถ้าเราปล่อยให้แนวโน้มนี้เป็นอย่างนี้เรื่อยไปใครจะไปรู้ว่า อีกหน่อยพระศาสนจักรในประเทศไทยของเราคงต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนพระสงฆ์ นักบวช เข้าสักวันก็ได้ ดังนั้นให้เราพยายามอย่างยิ่งในการสนับสนุนด้วยวิธีการต่างๆเพื่อให้มีเยาวชนหญิงชายตัดสินใจตอบรับเสียงเรียกของพระเจ้าเพื่อดำเนินชีวิตใกล้ชิดกับพระองค์ ด้วยการอุทิศตนมาเป็นพระสงฆ์ นักบวช เพื่อพระศาสนจักรจะมีผู้สืบทอดภารกิจอันสำคัญยิ่งนี้ต่อไปในอนาคต  "ข้าวที่จะเกี่ยวมีมากแต่คนงานมีน้อยจงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด


คุณพ่อ สุพจน์
..................................................................................................
เราเชื่ออะไร
ทำไมจึงเรียกพระวรสารว่า “ข่าวดี”

มนุษย์เราทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า อ่อนแอ และหลงผิดอย่างง่ายดาย แต่พระเจ้ามิได้พอพระทัยเฝ้าดูมนุษย์ค่อย ๆ ทำลายตนเอง และโลกรอบตัวเขา อันเนื่องมาจากปฏิกริยาลูกโซ่ของบาป พระองค์ได้ทรงส่งพระเยซูเจ้ามาช่วยเรามนุษย์ ช่วงชิงเราออกจากอำนาจของบาปและความตาย ดังนั้น แม้ว่าผลของบาปคือความตาย แต่ก็ทำให้มีผลอีกประการหนึ่งของบาป คือการที่พระเจ้าได้เสด็จลงมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามนุษย์ด้วย บาปกำเนิดนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็น Felix culpa (ความผิดที่โชคดี)
พระวรสาร หรือการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า จึงถือเป็นข่าวดีที่สุดในโลก ถ้าไม่มีพระวรสาร เราก็จะไม่ทราบได้เลยว่าพระเจ้านั้นรักมนุษย์มาก ถึงขนาดทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ลงมา เพื่อให้มนุษย์รู้ความจริงที่สมบูรณ์ และได้รับความรอดพ้น พระนาม “เยซู” นี้ในหนังสือกิจการอัครสาวกยังกล่าวไว้ด้วยว่า “ใต้ฟ้านี้ พระเจ้ามิได้ประทานนามอื่นแก่มนุษย์ นอกจากนามนี้ที่ช่วยเราให้รอดพ้นได้” (กจ 4: 12) นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดของข่าวสารที่บรรดาธรรมทูตนำไปให้แก่ปวงชน นอกจากนี้ภาษากรีกคำว่า “Christos” และภาษาฮีบรู คำว่า “Messiah” ทั้งสองคำนี้มีความหมายว่า “ผู้ได้รับเจิม” ซึ่งในประเทศอิสราเอลผู้ที่จะได้รับการเจิมคือ กษัตริย์ พระสงฆ์ และประกาศก บรรดาอัครสาวกได้เรียนรู้ว่า พระเยซูเจ้าทรงได้รับการเจิมด้วยพระจิต พระองค์ทรงเป็นมากกว่ามนุษย์คนหนึ่ง และอยู่ในความสัมพันธ์หนึ่งเดียวกับพระเจ้าพระบิดาของพระองค์ เหตุนี้ บรรดาคริสตชนในสมัยแรกจึงเชื่อ และพูดถึงพระเยซูของพวกเขาว่าเป็น “องค์พระเจ้า” และพวกเขาจะไม่ยอมย่อเข่าลงต่ออำนาจอื่นใดอีกต่อไป
“เมื่อพระหัตถ์ของพระคริสตเจ้าถูกตะปูตรึงอยู่บนกางเขน พระองค์ก็ทรงตอกตรึงบาปของเราไว้บนกางเขนนั้นด้วย”
นักบุญ เบอร์นาร์ด แห่งแคลร์โวซ์ (1090-1153)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น