วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม2019
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

พี่น้องที่รัก...
        พ่อขอขอบคุณซิสเตอร์คณะยอแซฟแห่งการประจักษ์ ซึ่งได้ส่งสมาชิกมาช่วยสอนคำสอนตลอดเดือนนี้เพื่อเด็กๆได้เตรียมตัวรับศีลมหาสนิทครั้งแรกผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว  นอกจากนี้ยังได้ให้สมาชิกมาช่วยเรื่องพิธีกรรมทุกเช้า และร่วมสวดภาวนาให้กับผู้ล่วงลับที่ศาลาเป็นประจำ วันอาทิตย์ยังให้มาดูแลห้องประชาสัมพันธ์ของวัดเพื่อรับการติดต่อและสอบถามจากสัตบุรุษเพื่อการประสานงานประจำและเรื่องเร่งรีบ
        วัดเซนต์หลุยส์ยังได้รับความช่วยเหลือจากบรรดานักบวชชายหญิงอย่างสม่ำเสมอ เซอร์คาโรลีน จากคณะเซนต์ปอล ดูแลกิจการโรงเรียนของวัด ยังมีมาเซอร์จากโรงพยาบาลและวิทยาลัยมาสนับสนุนอย่างดี
        บราเดอร์หลุยส์ ที่ยังคงคิดถึงชุมชนวัดเซนต์หลุยส์ มอบรถเข็นผู้สูงอายุ 2 คัน อย่างดีเพื่องานอภิบาลผู้ไม่สะดวกในเรื่องการเดินแต่ชอบนั่ง
        ขอได้รับคำขอบคุณด้วย “พระเจ้าสถิตกับท่าน”
        เดือนสิงหาคม จะเป็นเดือนล้อมรอบพระแท่นใหญ่ หมายถึงวัด โอกาสฉลองวัดในช่วงเวลาพิเศษ 350 ปีของพระศาสนจักรในประเทศไทย(มิสซังสยาม) วันเสาร์อาทิตย์ 3 สัปดาห์ ทีมฉลองวัดในปีนี้คือการระลึกนึกถึงบรรดามิชชันนารี่ ทั้งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และได้ล่วงลับไปแล้ว และมีความเกี่ยวข้องกับวัดเซนต์หลุยส์ บรรดาพระสังฆราชนับตั้งแต่พระสังฆราชหลุยส์เวย์ พระสังฆราชหลุยส์โชแลง พระสังฆราชลังเยร์ บรรดาพระคุณเจ้าทั้งสามได้สร้างชุมชนวัดเซนต์หลุยส์จนเติบโตกลายเป็นชุมชนยิ่งใหญ่และสร้างความเจริญก้าวหน้าดังที่ปรากฎให้เราเห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ คุณพ่อลาร์บอรี่สงฆ์มิชชันนารี่ยังคงเป็นบรรพชนที่มีชีวิตและยังคงรับใช้พระศาสนจักรไทยที่สังฆมณฑลนครสวรรค์ และจะมาเป็นประธานฉลองวัดในปีนี้ วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม มิสซาฉลองเวลา 10.00 น.และร่วมกันแห่รูปนักบุญรอบวัดเพื่อขอบพระคุณพระเจ้าพร้อมกัน
        อนึ่งในการเตรียมฉลอง สมควรให้เห็นถึงรอยต่อว่าเป็นพระสงฆ์ไทยที่ได้รับพระกระแสเรียก คุณพ่อปิยะชาติ มกรครรภ์ ลูกวัดจะมาเป็นประธานมิสซาเตรียมฉลองในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม เวลา 17.30 น. และจบลงด้วยมิสซาในวันอาทิตย์ที่ 25 มิสซาเวลา 17.30 น.คุณพ่อบริส พระสงฆ์มิชชันนารีชาวฝรั่งเศสจะถวายมิสซาขอบพระคุณพระเจ้าปิดการฉลองวัด ปีนี้น่าจะมีความหมายร่วมฉลองวัดอย่างรำลึกนึกถึงพระคุณบรรดาผู้อุทิศตนรับใช้พระเจ้าให้กับชุมชนของวัดเราอย่างสมพระเกียรติ
        จึงเชิญชวนทุกท่านเตรียมตัวและเตรียมใจสำหรับการฉลองวัดตั้งแต่บัดนี้

คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม

                                   
"จงมั่นใจในหัวใจรักของพระเยซู...จงเคาะเถิดแล้วท่านจะได้พบ ได้รับ"
พระองค์​ทรง​ยกเลิก​หนี้สิน​ที่​เรา​มี​ต่อ​บทบัญญัติ​ซึ่ง​กล่าวหา​เรา​โดย​ทรง​ยก​หนี้สิน​นั้น​ไป​จาก​เรา และ​ตรึง​ไว้​กับ​ไม้​กางเขน (คส 2:14)
          พระยกหนี้สินหนี้บาปในชีวิตเรา พระคืนชีวิตพระชีวิตที่เปี่ยมสันติสุขให้กับเรา  พระไม่ได้ใช้อำนาจพระเจ้า ที่เพียงแค่ดีดนิ้ว ชี้นิ้วแล้วสั่ง แล้วทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่องราวก็ถูกเปลี่ยนปรับไปเป็นอย่างที่พระองค์ประสงค์
          ไม่เลย... พระเจ้าไม่ได้ใช้วิธี หรือวิถีแบบบ้าอำนาจเช่นนั้น  ตรงข้าม พระเยซูเจ้าทรงยอมเอาชีวิตของพระองค์เข้าไปแลก เข้าไปรับโทษแทนเรา  ไม้กางเขนจึงถูกปรับเปลี่ยนไปเป็น พยานและบทพิสูจน์ความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อเราทุกคน
พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่คนชอบธรรมที่เหลือเพียงสิบคน (เทียบ ปฐก 18:32)
          ในพันธสัญญาเดิม, ผู้คนมากมายหลายชีวิต ได้รับความรอดพ้นจากความตาย โดยมีอับราฮัมได้ช่วยพูดวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้า
          ในพันธสัญญาใหม่ และในทุกๆวัน ในสมัยปัจจุบันของเรา, พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ยอมมอบชีวิตทั้งหมดของพระองค์ เพื่อเป็นบูชาถวายพระเจ้า เพื่อวอนขอพระเมตตาของพระบิดา เพื่อความรอดพ้นของเราทุกคน รอดพ้นจากความตายที่เราควรจะได้รับ
"เรา​บอก​ท่าน​ทั้งหลาย​ว่า จง​ขอ​เถิด แล้ว​ท่าน​จะ​ได้รับ จง​แสวงหา​เถิด แล้ว​ท่าน​จะ​พบ จง​เคาะ​ประตู​เถิด แล้ว​เขา​จะ​เปิด​ประตู​รับ​ท่าน.... แม้แต่​ท่าน​ทั้งหลาย​ที่​เป็น​คน​ชั่ว​ยัง​รู้จัก​ให้​ของ​ดีๆ แก่​ลูก แล้ว​พระ​บิดา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​จะ​ไม่​ประทาน​พระ​จิต​เจ้า แก่​ผู้​ที่​ทูล​ขอ​พระองค์​มากกว่า​นั้น​หรือ” (ลก 11:9,13)
          เมื่อเราได้มองเห็น ได้เรียนรู้ ได้รู้จักและยอมรับมั่นใจในหัวใจเปี่ยมรักของพระเยซูเจ้า  เรา, พี่น้องคริสตชนจึงมั่นใจที่จะวางใจเรียกหาพระเจ้า ภาวนาต่อพระบิดาโดยมั่นใจพึ่งพิงในพระเยซู พระบุตรพระเจ้า ผู้ที่รักเราและมอบชีวิตทั้งหมดเพื่อเราเสมอ.
                                                                                                                                    นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น