วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2017

พี่น้องที่รัก
            วันนี้ขอนำเรื่องเล่าน่าอ่าน มาฝากพี่น้องอีกสักเรื่องนะครับ เรื่องนี้มีชื่อว่า "คุณค่า" เรื่องมีอยู่ว่า.....
            ชายหนุ่มคนหนึ่งรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยและแทบไม่มีค่าอะไร เขาได้รับเสียงวิจารณ์และคำตำหนิในทุกสิ่งที่เขากระทำ ไม่ว่าเขาจะทำกิจการต่างๆ ด้วยคามตั้งใจดีเพียงใด ก็ยังคงมีจุดอ่อนให้ถูกตำหนิจากคนรอบข้างอยู่เสมอ
            วันหนึ่งเขาทราบว่ามีอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์มาที่หมู่บ้านของเขา เขารีบเดินทางไปยังที่พักของอาจารย์ เพื่อขอคำแนะนำจากท่านว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำให้ชีวิตของเขามีคุณค่า อาจารย์นั่งฟังเขาด้วยความตั้งใจ และมองดูเขาด้วยสายตาแห่งความเมตตาพลางกล่าวกับเขาว่า
            "ก่อนที่อาจารย์จะช่วยเจ้า อาจารย์อยากวานให้เจ้าทำอะไรบางอย่างให้อาจารย์"
            พลางถอดแหวนวงหนึ่งออกจากนิ้วนางข้างขวาของอาจารย์มอบให้กับชายหนุ่มนำแหวนวงนี้ไปขายให้ได้ราคาหนึ่งเหรียญทองคำ แล้วกลับมาหาอาจารย์ อาจารย์จะบอกถึงเคล็ดลับของชีวิตที่มีคุณค่าให้เขา ชายหนุ่มรับแหวนจากอาจารย์แล้วรีบเดินทางไปในเมืองทันที เมื่อพบชาวเมืองเขาเสนอขายแหวนของอาจารย์ทันที ชาวเมืองส่วนใหญ่ที่เห็นแหวนต่างก็บอกว่าแหวนวงนี้ไม่มีค่าอะไร น่าจะเป็นของปลอม บางคนบอกว่าในสายตาของเขา ราคามันต่ำมาก แค่ 100 เบี้ยน่าจะเป็นราคาที่เหมาะสม บางคนบอกว่าราคาแค่หนึ่งเหรียญทองแดงก็มากเกินไปแล้ว มีเพียงชายชราท่าทางใจดีคนหนึ่ง เสนอราคาแหวนให้เขาถึงหนึ่งเหรียญเงิน เขาพยายามขายแหวนของอาจารย์จนถึงเวลาเย็น แต่ก็ไม่ได้ตามราคาที่อาจารย์ต้องการ เขาจึงเดินทางกลับไปหาอาจารย์ด้วยความผิดหวัง เขาขอโทษอาจารย์ที่เขาทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้ไม่สำเร็จ หรือว่าคุณค่าของแหวนวงนั้นมันมีราคาไม่ถึงหนึ่งเหรียญทองคำ อาจารย์ยิ้มและกล่าวกับเขาว่า
            "จะมีใครที่รู้คุณค่าที่แท้จริงของแหวนวงนี้ดีเท่ากับช่างเพชร เจ้าจงไปหาช่างเพชรของหมู่บ้านนี้ และให้เขาลองประเมินราคาแหวนวงนี้ดู แล้วกลับมาบอกอาจารย์"
            ชายหนุ่มรีบไปหาช่างเพชรประจำหมู่บ้าน ช่างเพชรเมื่อเห็นแหวนวงนั้น สายตาของเขาเป็นประกายด้วยความชื่นชม
            “แม้ตัวแหวนจะทำจากวัสดุไม่มีค่าอะไร แต่เพชรเม็ดที่อยู่บนแหวนมีค่าอย่างน้อยถึง 60 เหรียญทองคำ แหวนวงนี้มีค่ามากๆ พ่อหนุ่ม"
            เมื่อเขานำแหวนกลับมาคืนอาจารย์ และเล่าเรื่องที่ช่างเพชรประจำหมู่บ้านบอกกับเขา ให้อาจารย์ฟัง อาจารย์ยิ้มให้เขาและกล่าวกับเขาว่า
            “ชีวิตของพ่อหนุ่มเปรียบเหมือนแหวนเพชรวงนี้ ดูภายนอกอาจจะดูไร้ค่า แต่จริงๆแล้ว มันมีคุณค่าสูงยิ่ง มีเพียงผู้เชี่ยวชาญจึงสามารถตัดสินและมองเห็นถึงคุณค่าของมัน แล้วทำไมพ่อหนุ่มจึงต้องพยายามให้ทุกคนมองเห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของพ่อหนุ่มเล่า"
           
            ข้อคิด
            ถ้าทำอะไรแล้ว จงทำให้ดีที่สุด และจงมั่นใจในสิ่งที่คุณทำ ความบกพร่องเล็กๆน้อยๆ และคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่ได้ลดคุณค่าของคุณ ถ้าคุณไม่ลดคุณค่าของตนเอง คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นคนมีคุณค่ามากเพียงไหน เพราะพระเยซูเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงเสด็จมาบังเกิดอย่างยากจน รับทุกข์ทรมาน สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ก็เพื่อไถ่บาปของคุณ
            เราจงมองเห็นคุณค่าของตนเอง มองเห็นคุณค่าของกันและกัน ด้วยความคิด วาจา และกิจการ เหมือนดังที่พระเยซูเจ้าทรงเห็นคุณค่าของชีวิตของพวกเราทุกคนเถิด

พ่อสุพจน์
............................................................................

อาทิตย์ที่ 5 ก.พ 60
            ภาพของเกลือและแสงสว่างที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงใช้นี้ มีความหมายและเสริมให้สมบูรณ์ซึ่งกันและกัน ในสมัยโบราณเกลือและแสงสว่างถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตมนุษย์ ท่านเป็นเกลือดองแผ่นดินหน้าที่สำคัญของเกลือเป็นเครื่องปรุงให้รสชาติแก่อาหาร ภาพเปรียบเทียบนี้เตือนเราว่า โดยทางศีลล้างบาปนั้น ตัวเราได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง เพราะได้รับการ ปรุงด้วยชีวิตใหม่ที่มาจากพระคริสตเจ้า (เทียบ รม. 6,4) เกลือคือพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป ซึ่งรักษาความเป็นคริสตชนให้มีรสชาติไว้ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ฝักใฝ่ทางโลกอย่างมาก พระหรรษทานนี้ทำให้เรามีชีวิตในพระคริสตเจ้าและสามารถตอบรับการเรียกของพระองค์ เพื่อ ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า” (เทียบ รม. 12,1) นักบุญเปาโลได้เขียนจดหมายถึงชาวโรม กระตุ้นให้พวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าวิธีการดำเนินชีวิตและวิธีการคิดของพวกเขานั้นแตกต่างจากผู้คนในสมัยนั้น อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดีและสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยอย่างสมบูรณ์” (รม. 12,2) นานมาแล้วที่เกลือเป็นสิ่งที่ใช้ถนอมอาหาร ในฐานะที่เราเป็นเกลือดองแผ่นดิน เราได้รับเรียกให้รักษาความเชื่อที่เราได้รับมาเพื่อส่งต่อให้คนอื่นในสภาพที่สมบูรณ์ คนรุ่นเดียวกับเราได้รับการท้าทายอย่างจริงจังให้ดำรงรักษามรดกแห่งความเชื่อที่สมบูรณ์ไว้ (เทียบ 2ธส. 2,15; 1ทธ. 1,14)
            จงค้นหารากแห่งการเป็นคริสตชนของเรา  เรียนรู้ประวัติศาสตร์พระศาสนจักร ทำให้ความรู้ของเราเรื่องมรดกฝ่ายจิตที่เราได้รับถ่ายทอดมานั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น จงตามรอยบรรดาประจักษ์พยานชีวิตและครูอาจารย์ที่ได้ล่วงหน้าเราไปก่อนแล้ว โดยอาศัยความซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าและพันธสัญญาที่พระคริสต์ได้ประทับตราด้วยพระโลหิตของพระองค์บนกางเขนเท่านั้น ที่จะทำให้เราเป็นสานุศิษย์และเป็นพยานแห่งสหัสวรรษใหม่ได้แสวงหาสิ่งสูงสุด ความหมายและความบริบูรณ์ของชีวิต จงอย่าพอใจอยู่แค่สิ่งไร้ค่าที่ด้อยกว่าอุดมการณ์อันสูงส่งนี้ อย่าปล่อยตัวของเราให้จมอยู่ในความสิ้นหวังที่มาจากคนที่สิ้นหวังในชีวิตแล้ว พวกเขากลายเป็นคนที่ไม่ได้ยินความปรารถนาอันลึกซึ้งและแท้จริงที่สุดของหัวใจ เราทำถูกแล้วที่ไม่หลงระเริงไปกับความสนุกสนานที่ว่างเปล่า ไม่ตามแฟชั่นชั่วครู่ชั่วยาม และเป้าหมายที่ไร้คุณค่า ถ้าเรารักษาความปรารถนาอันยิ่งใหญ่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ได้ เราจะรู้จักหลีกเลี่ยงความไร้สาระและการเลียนแบบที่ไม่เหมาะสมซึ่งแพร่หลายมากในสังคมของเรา สัญลักษณ์แห่งความสว่างทำให้ความปรารถนาในความจริงและความกระหายที่จะบรรลุถึงความสมบูรณ์ในความรู้ที่ได้ ถูกจารึกไว้ในส่วนลึกที่สุดของมนุษย์ปรากฎในหัวใจที่ซื่อสัตย์ของเราที่มีต่อพระเจ้า ประดุจเกลือที่รักษาพระวาจาของพระเจ้าไว้ ดองโลกให้มั่นคงในความดีและความสว่างของพระเจ้าตลอดไป

     พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น