วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2017

พี่น้องที่รัก
                วันนี้ขอนำเอาบทความภาษาอังกฤษมาฝากให้พี่น้องอ่านกันครับ
                Awsome Conversation between God And a Man.

                Man: God, can I ask you a question?
                God: Sure
                Man: Promise You won't get mad ...
                God: I promise
                Man: Why did you let so much stuff happen to me today?
                God: What do you mean?
                Man: Well, I woke up late.
                God: Yes
                Man: My car took forever to start.
                God: Okay
                Man: At lunch they made my sandwich wrong & I had to wait.
                God: Huummm
                Man: On the way home, my phone went DEAD, just as I picked up a call.
                God: All right
                Man: And on top of it all off, when I got home, I just want to soak my feet in my new foot massager and relax. But it wouldn't work!!! Nothing went right today! Why did You do that?
                God: Let me see, the death angel was at your bed this morning & I had to send one of My Angels to battle him for your life. I let you sleep through that.
                Man: OH
                God: I didn't let your car start because there was a drunk driver on your route that would have hit you if you were on the road.
                Man: (ashamed)
                God: The first person who made your sandwich today was sick & I didn't want you to catch what they have, I knew you couldn't afford to miss work.
                Man: (embarrassed) Okay
                God: Your phone went dead bcuz the person that was calling was going to give false witness about what you said on that call, I didn't even let you talk to them so you would be covered.
                Man: (softly) I see God.
                God: Oh and that foot massager, it had a shortage that was going to throw out all of the power in your house tonight. I didn't think you wanted to be in the dark.
                Man: I'm sorry God.
                God: Don't be sorry, just learn to Trust Me... in All things, the Good & the bad.
                Man: I will trust You.
                God: And don't doubt that My plan for your day is Always Better than your plan.
                Man: I won't God. And let me just tell you God, Thank you for Everything today.
                God: You're welcome child. It was just another day being your God and I Love looking after my children.

พ่อสุพจน์
...........................................................................................................
อาทิตย์ที่ 26 ก.พ.60
            พระยาพิชัยดาบหัก ผู้ไม่ยอมเป็น "ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย" พระยาพิชัย(ดาบหัก) เดิมชื่อ จ้อย  บิดามารดาทำไร่ไถนาอยู่บริเวณบ้านห้วยคา หลังเมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์  ท่านมีพี่น้อง 4 คน แต่เสียชีวิตด้วยโรคไข้ทรพิษเสียทีเดียว ๓ คน  นิสัยส่วนตัว นั้นองอาจ กล้าหาญ ชอบการชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ บิดาได้นำไปฝากกับพระครูวัดมหาธาตุ (เมืองพิชัย) จนอ่านออกเขียนได้ แต่ในระหว่างนั้น ท่านก็หมั่นฝึกฝนมวยอยู่เสมอจนมีฝีมือ ต่อมาได้เกิดทะเลาะวิวาท กับ ลูกท่านเจ้าเมืองพิชัย ถึงขั้นชกต่อยกัน จนลูกท่านเจ้าเมืองเสียชีวิต  ด้วยความกลัว จึงหนีออกจากวัด และไม่ยอมกลับไปที่บ้านของตน  และเดินทางพเนจรเรื่อยมาจนถึงวัดบ้านเเก่ง จ้อย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ทองดี และเข้ามาฝึกมวยอยู่กับครูเที่ยง จนคล่องแคล่วทุกท่าทาง แล้วจึงเดินทางมาฝึกมวยที่บ้านท่าเสา  และที่นี่เองทองดีจึงได้ สมญานามว่า นายทองดีฟันขาว เนื่องจากไม่กินหมาก ต่อมานายทองดีมีโอกาสขึ้นไปนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์   และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ครูมวยแห่งบ้านท่าเสา ฝึกมวย และ เรียนรู้ท่าทางมวยจีนจากการดูงิ้วผสมผสานกันจนมีฝีมือเลอเลิศ ต่อมาในงานฉลองพระแท่นศิลาอาสน์  นายทองดีมีโอกาสได้ขึ้นเปรียบมวยเพื่อลองวิชาเป็นครั้งแรกกับนักมวยที่มีฝีมือเป็นเยี่ยมและชนะมามากที่สุด แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่นายทองดี  นับจากนั้นเป็นต้นมาก็มิมีนักมวยผู้ใดชนะอีกเลย ไปเรียนฟันดาบที่เมืองสวรรคโลก และพักอยู่ที่วัดพระปรางค์ริมแม่น้ำยม ฝึกฝนวิชาดาบกับครูดาบชื่อดังจนเก่งกาจภายในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากฝึกฝนวิชาดาบจนเชี่ยวชาญ จึงเดินทางจากสุโขทัยไปเมืองตาก แต่ในระหว่างทางเกิดเหตุการณ์ให้ต้องฆ่าเสือด้วยมีดเพียงเล่มเดียว 
            ต่อมานายทองดีได้แสดงฝีมือมวยคาดเชือกเป็นที่โจษขานกันไปทั่ว จนกิตติศัพท์ได้ยินไปถึงเจ้าเมืองตาก ท่านจึงชักชวนให้เข้ามารับใช้ใกล้ชิดจนเมื่ออายุครบ 21 ปี เมื่อศึกออกมา เจ้าเมืองตากก็ประทานหญิงสาวให้เป็นภรรยา ความสัมพันธ์นี้เป็นไปด้วยความเคารพเทิดทูลดุจเจ้าเมืองตากเป็นบิดาคนที่สอง  ต่อมานายทองดี ได้ติดตามเจ้าเมืองตากตีฝ่าทหารพม่าออกมาตั้งทัพอยู่ที่วัดพิชัย นอกกรุง หลังจากนั้นไม่กี่เพลาก็เสียกรุงโดยเด็ดขาดแก่พม่าเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2310  ต่อมาทัพเจ้าเมืองตาก ที่มาตั้งมั่นอยู่ที่เมืองจันทบูรได้ยกทัพจากเมืองจันทบูรโดยทางน้ำเข้าทางปากน้ำสมุทรปราการขึ้นไปตีเมืองธนบุรีและโพธิ์สามต้นที่มั่นสุดท้ายของพม่าจนได้ชัยชำนะ  เจ้าเมืองตากซึ่งต่อมา ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงสร้างพระนครที่เมืองธนบุรี เมื่อปลายปี ๒๓๑๐ รวมเวลากว่า ๗ เดือนหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียกรุง และทรงทำพระราชพิธีราชาภิเษกในพ.ศ.๒๓๑๑ ต่อมาพระยาพิชัยได้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดเข้าร่วมปราบปรามหัวเมืองเหนือในปีพ.ศ.๒๓๑๓  สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นพระยาศรีหราชเดโช ผู้รั้งเมืองพิชัย หรือเรียกอีกนามหนึ่งคือ ออกญาศรีสุริยะราชาไชย ศักดินา ๕๐๐๐  และต่อมาพระยาพิชัยได้เข้าร่วมรบในเหตุพิพาทระหว่างไทยกับพม่าด้วยกัน 9 ครั้ง คือ ครั้งที่1 รบกับพม่าที่บางกุ้ง พ.ศ.๒๓๑๐ ครั้งที่ 2 พม่าตีสวรรคโลก พ.ศ.๒๓๑๓ ครั้งที่3 ทัพไทยตีเมืองเชียงใหม่ครั้งที่ 1 พ.ศ.๒๓๑๓ ครั้งที่ 4 พม่าตีเมืองพิชัยครั้งที่1 พ.ศ.๒๓๑๕ ครั้งที่ 5 พม่าตีเมืองพิชัยครั้งที่ 2 พ.ศ.๒๕๑๖ และในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ โปสุพลาแม่ทัพใหญ่ของพม่านำทัพลงมาตีเมืองพิชัยเอง แต่ท่านพระยาพิชัยรู้ตัวก่อนจึงนัดกับพระยาสุรสีห์  ยกกองทัพไปดักซุ่มรอพม่าอยู่กลางทาง ในขณะที่กำลังสู้รบกันชุลมุน ท่านพระยาพิชัยเหยียบดินลื่นเสียหลักจะล้ม จึงเอาดาบยันดินไว้เพื่อไม่ให้ล้มจนดาบหัก  แต่กระนั้นก็ยังเข้าไล่ฟันทหารพม่าเป็นสามารถ สร้างความประทับใจแก่ทหารที่ร่วมรบด้วยกัน จนโจษขานร่ำลือกันไปทั่ว และพร้อมใจกันขนานนามท่าน ว่า"พระยาพิชัย (ดาบหัก)"  ชีวิตเราที่เป็นคริสตชน เราได้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของเราเช่นไร?


     พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น