วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2015

พี่น้องที่รัก
                เราก้าวมาถึงวันสมโภชพระจิตเจ้าแล้ว  การสมโภชนี้ทำให้เราได้มองเห็นความจริงประการสำคัญนั่นคือ พระจิตเจ้าเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ พระจิตเจ้านี้มีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับ พระบิดา และ พระบุตร และ พระองค์ถูกส่งลงมายังโลก ในฐานะเป็น องค์พระผู้ช่วย พระผู้บรรเทา ผู้ประทานความสว่าง และ การบันดาลให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ สืบต่องานการสร้างของพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา เมื่อพระจิตเจ้าลงมาประทับอยู่กับชาวเรา ยังผลให้โลกได้รับการประจุพลังใหม่โดยทางองค์พระจิตเจ้านี้เอง
                ในวันฉลองพระจิตเจ้า พระเยซูทรงส่งพระจิตมายังโลกด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้า พลังเหนือธรรมชาติของพระเจ้าจึงโปรยปรายลงมายังโลกของเราจนเอ่อล้น ความมีชีวิตชีวาจึงเกิดขึ้นในลักษณะพิเศษ นั่นคือ คำสรรเสริญหลั่งไหลพรั่งพรูจากลิ้นที่เคยติดขัด พระพรพิเศษของพระจิตหลั่งไหลท่วมท้นหุบเขาที่พำนักของมวลมนุษย์ ประตูที่เคยปิดตายบัดนี้พังทลายลง และ หัวใจของมนุษย์ที่เคยหวั่นไหวหวาดกลัว กลับสุขุมเยือกเย็นเข้มแข็ง
                องค์พระจิตเจ้าที่ได้รับการขนานนามว่า องค์พระผู้ช่วย ซึ่งเป็นความหมายที่เราพบได้จากหนังสือพระวรสารนักบุญยอห์น คำขนานนามนี้มาจากภาษากรีกที่มีความหมายถึงการบรรเทาใจ (paraklesis) จึงเป็นที่มาของ "พระผู้ช่วย" หรือ "ผู้บรรเทาความทุกข์ร้อน"
                ความหมายที่สำคัญสองประการของ "องค์พระผู้ช่วย" ที่ปรากฏในพระวรสารนั้น ในใจความแรกหมายถึง ความสัมพันธ์ภายใน ระหว่าง พระเยซู พระจิตเจ้า และ พระบิดา และในใจความที่สองที่หมายถึงบทบาทของการเป็นผู้เสนอแทนนั้นมีหน้าที่ค้นหาเพื่อเข้าถึงความจริง  ตรงนี้เองที่ทำให้เราเข้าถึงความเข้าใจที่ปรากฏชัดขึ้นขององค์พระตรีเอกภาพ นั่นคือ องค์พระผู้ช่วย นั้นมาจากพระบิดา ซึ่งทำให้เห็นว่าพระบิดาเป็นประดุจศูนย์กลางของธารน้ำหลั่งไหลภายในพระตรีเอกภาพ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง องค์พระผู้ช่วยกับพระเยซูนั้นแตกต่างออกไป แม้ว่าพระบิดาเป็นแหล่งกำเนิดขององค์พระผู้ช่วย แต่เป็นพระเยซูที่เป็นผู้ส่งองค์พระผู้ช่วยลงมา แล้วนั้นองค์พระผู้ช่วยจึงลงมาประทับอยู่ในบรรดอัครสาวก เพื่อจะเป็นพยานถึงองค์พระเยซู ยิ่งไปกว่านั้น องค์พระผู้ช่วยยังได้รับการขนานนามว่า พระจิตแห่งความจริง ผู้ซึ่งจะนำพระสิริมงคลมาสู่พระเยซู และ จะส่องสว่างบรรดาอัครสาวกให้เข้าใจถึงสิ่งที่ได้รับการเผยแสดงแจ่มชัดยิ่งขึ้น
                ส่วนความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระบิดานั้นก็มีเอกลักษณ์พิเศษ ประการแรกเพื่อพระองค์จะส่งพระจิตที่เนื่องมาจากพระบิดาได้นั้น พระเยซูจะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลึกซึ้งกับพระบิดา ยิ่งไปกว่านั้น พระเยซูเคยกล่าวเอาไว้ว่า สิ่งใดที่เป็นของพระบิดาก็เป็นของพระองค์ นั่นหมายความว่า พระจิตแห่งความจริงที่มีกำเนิดมาจากพระบิดานั้นก็เป็นของพระเยซูด้วย  ดังนั้นบทบาทของพระจิตในการแสวงหาความจริงนั้น อยู่ที่หน้าที่สามประการสำคัญคือ การเป็นพยานยืนยันด้วยชีวิต การถวายเกียรติแด่พระเจ้า และ การสืบทอดคำสอนด้วยการสั่งสอน
                พี่น้องที่รักให้เราเปิดใจเราต้อนรับองค์พระจิตเจ้าเถิด ขอพระพรของพระจิตเจ้า ที่เราได้รับมาทางศีลกำลัง ได้มีบทบาทในชีวิตของเราแจ่มชัดยิ่งขึ้น เพื่อเราจะดำเนินชีวิตอยู่เคียงข้างความจริงแห่งคำสอนของพระเจ้าเสมอไป
พ่อสุพจน์
...............................................................................................................


สมโภชพระจิตเจ้า

“พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว
มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว
เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน”


        อาทิตย์นี่เป็นวันอาทิตย์สมโภชพระจิตเจ้า  พระจิตเจ้าซึ่งเป็นพระเจ้าที่ประทับอยู่กับเรามนุษย์   และประทับอยู่กับเราในพระศาสนจักร  พระองค์ทรงนำทางเรามนุษย์ทุกคนให้อยู่ในหนทางแห่งความดีและความรัก.

ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิตเจ้า

พระจิตเจ้าเป็นพระบุคคลที่ 3 ในพระตรีเอกภาพ ซึ่งเราเชื่อว่าพระองค์ทรงเสด็จลงมาอยู่กับมนุษย์ ทรงช่วยเหลือมนุษย์ด้วยการประทานพระพรพิเศษต่างๆ ให้มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตในโลกนี้ได้อย่างดี มีกำลัง มีความเข้มแข็งในการต่อสู้กับอุปสรรคกับปัญหา   โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการประจญล่อลวงต่างๆ ที่จะนำมนุษย์ไปสู่ความผิด บาป และความตายฝ่ายวิญญาณ

เหตุผลของการเสด็จมาประทับอยู่กับมนุษย์และทรงคอยดูแลช่วยเหลือเราทั้งหลายนั้น   ก็ด้วยเหตุผลแห่งความรักของพระเป็นเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ เราจะพบว่าพระเป็นเจ้าทรงกระทำทุกวิถีทางที่จะช่วยมนุษย์ให้ได้รับความรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ต่อบาปและความตายฝ่ายวิญญาณ
หลายคนสงสัยว่า ทำไมพระองค์ทรงต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก ทำไมไม่ทรงบันดาลให้มนุษย์ไปสวรรค์เลยก็หมดเรื่อง... คำตอบ ก็คือ เพราะพระองค์ทรงรักและยังทรงให้มนุษย์สูงส่งกว่าสิ่งสร้างทั้งหลายด้วยการให้มีเสรีภาพ มีอิสรภาพในการเลือกกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ตนเลือก
(ที่มา : หนังสือ หลักธรรมคำสอนคาทอลิก)


คพ.วิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น