วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2015

พี่น้องที่รัก
                สุขสันต์วันปัสกา แด่พี่น้องทุกๆท่าน
                สุขสันต์วันแห่งความชื่นชมยินดีสูงสุดของเราคริสตชนทุกคน
                สุขสันต์วันพระเยซูกลับฟื้นคืนชีพชนม์
                สุขสันต์วันแห่งชีวิตใหม่ที่พระเจ้าพระบิดาทรงประทานให้กับพระบุตรของพระองค์
                สุขสันต์วันที่พระเยซูมีชัยชนะเหนือความตาย
                สุขสันต์วันแห่งแสงสว่าง ที่เข้ามาขับไล่ความมืดมน

                พี่น้องครับวันนี้คือวันเฉลิมฉลองที่สำคัญที่สุดของชาวเรา เพราะ
                วันนี้เป็นวันแห่งชัยชนะ
                วันแห่งความยินดี
                วันแห่งความหวัง
                วันแห่งการหลุดพ้นจากความมืดมนที่ครอบคลุมเราอยู่
                วันแห่งชีวิตของเรามนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีแห่งการเป็นบุตรของพระเจ้า
               
                เราคริสตชนจึงมีความยินดีอย่างบริบูรณ์ เพราะพระเจ้าทรงมีแผนการณ์แห่งความรอดเพื่อช่วยเรา และบัดนี้แผนการณ์แห่งความรอดของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ตามพระประสงค์ของพระองค์โดยทางองค์พระเยซูคริสต์พระเจ้าของชาวเราแล้ว
                ให้เราดำเนินชีวิตอย่างผู้ที่ดำรงอยู่ในความสว่างเถิด
                ให้เรายึดมั่นในครรลองแห่งความดีงามเสมอไปเถิด
                ให้เราครองตนอยู่ในธรรมะที่พระเจ้าประทานให้เถิด
                ให้เราพบสันติสุขที่เที่ยงแท้ในการเป็นบุตรของพระเจ้าเถิด
                โอกาสนี้พ่อขอต้อนรับคริสตชนใหม่ทุกท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกท่านได้รับศักดิ์ศรีแห่งการเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้าแล้ว ขอให้ท่านได้รักษาศักดิ์ศรีนี้ไว้มิให้ด่างพร้อย จนกว่าจะถึงวันที่องค์พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมา ขอให้พี่น้องได้โอบอุ้ม อุปถัมภ์ค้ำชูผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ความเชื่อของเขาเจริญเติบโต เข้มแข็ง และ หยั่งรากลึกลงในจิตใจของพวกเขาทุกคน เพื่อพวกเขาจะมีความมั่นคงในแนวทางชีวิตที่อาศัยพระวรสารของพระเยซูเป็นแสงสว่างส่องนำทางเสมอไป
                ขอพระเจ้าโปรดประทานพระพรอันอุดมบริบูรณ์แด่พี่น้องทุกท่านในโอกาสสมโภชปัสกาอีกครั้งในปีนี้
                สุขสันต์วันปัสกาแด่พี่น้องทุกท่านอีกครั้งครับ

พ่อสุพจน์
..........................................................................................................................

พี่น้องที่รัก
เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร เขาเห็นและได้เชื่อแต่ยังไม่เข้าใจว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นหมายความว่าอย่างไร วันนี้ชาวโลกต่างประกาศพร้อมหน้ากันว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ชนะจากปัญหาทุกอย่าง ความยุ่งยาก สถานการณ์ร้ายๆแม้กระทั่งความตาย และบาปชั่วร้ายทั้งสิ้น ในโลกนี้มีอะไรที่เราไม่เข้าใจอีกเยอะแยะแต่ก็เป็นความจริงถ้าเราไม่มัวไปปิดหูปิดตา หรือปิดใจเสีย มีสิ่งหนึ่งคือปิรามิดแห่งอียิปต์ถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ทุกคนรู้จักดี แต่ในความเป็นจริง ปิรามิดคือสุสานขนาดใหญ่ที่ใช้ฝังร่างของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ในลักษณะแบบมัมมี่ เช่นเดียวกับสุสานเวสมินเตอร์แห่งอังกฤษ ที่ใช้ฝังร่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างนักเขียน นักปรัชญาและนักการเมือง มีผู้คนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากไปเยี่ยมชม เพื่อคารวะหลุมศพของบุคคลที่พวกเขาเคารพนับถือต่างจากสักการสถานสุสานศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม ซึ่งผู้แสวงบุญจากทั่วโลกพากันไปคารวะหลุมศพที่ว่างเปล่า ที่มีเพียงข้อความสั้นๆ ตรงทางเข้าว่า พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่สิ่งที่ทำให้สุสานแห่งนี้มีชื่อเสียงเพราะเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งสุสานแห่งนี้เคยฝังพระศพของพระเยซูเจ้า เมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพคูหาจึงว่างเปล่า พระองค์ได้กระทำอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงฝืนกฎธรรมชาติและพิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง ปัสกาคือการสมโภชการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก ถือเป็นการฉลองที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเราคริสตชน ด้วยเหตุผลที่ว่า การกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าคือความเชื่อพื้นฐานของเราคริสตชน ถือเป็นศูนย์กลางของพิธีกรรมและการฉลองทั้งหลายตลอดปี ความเชื่อ ความหวังและความหมายแห่งชีวิตคริสตชนของเราอยู่ที่การกลับคืนชีพนี้ ดังที่นักบุญเปาโลเขียนเอาไว้ว่า ถ้าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ การเทศน์สอนของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน” (1 คร 15:14) ปัสกาคือหลักประกันแห่งการกลับคืนชีพของเรา พระเยซูเจ้าได้ให้ความมั่นใจกับมาร์ธา ณ ที่ฝังศพของลาซารัสว่า เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้วก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิตและเชื่อในเราจะไม่มีวันตายเลย...” (ยน 11:25-26)  อีกทั้งเป็นการฉลองที่ทำให้เรามีความหวังและกำลังใจในโลกที่เจ็บปวดและความโศกเศร้า เพราะพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพและประทับท่ามกลางเรา นี่คือ ข่าวดีแห่งปัสกาที่เราเฉลิมฉลองในวันนี้ ซึ่งมีแง่มุมที่น่าสนใจหลายประการเช่นเครื่องหมายที่บ่งบอกให้เราได้ทราบถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ จงทำลายพระวิหารนี้แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” (ยน 2:19)การทำให้พระสัญญาของพระองค์บรรลุถึงความสมบูรณ์บนกางเขนและคูหาที่ว่างเปล่า ทูตสวรรค์ได้บอกกับพวกผู้หญิงที่หน้าคูหาว่า ทำไมท่านมองหาผู้เป็นในหมู่ผู้ตายเล่า พระองค์มิได้ประทับอยู่ที่นี่ พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” (ลก 24:5-6)การไม่เชื่อของบรรดาศิษย์และพระเยซูเจ้าได้ปรากฏมาให้พวกเขาได้เห็นหลายครั้ง เพื่อพิสูจน์เรื่องการกลับคืนชีพ  พวกเขาได้เห็น เป็นพยานและประกาศการกลับคืนชีพของพระองค์ ด้วยชีวิตของพวกเขา การประกาศข่าวดีและการเป็นพยานเรื่องการกลับคืนชีพ จึงเป็นหัวใจสำคัญถึงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า ฉันได้เห็นองค์พระเจ้าเราจะไม่สามารถเข้าใจธรรมล้ำลึกเรื่องการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าได้ จนกว่าเราจะรักพระองค์อย่างแท้จริง ความรักคือกุญแจสำหรับที่ทำให้เกิดความเข้าใจ เราต้องไม่ฝังตัวเองในหลุมศพแห่งบาป นิสัยไม่ดีและความประพฤติที่ไม่ถูกต้อง เราถูกเรียกร้องให้ตายต่อบาปและความเห็นแก่ตัว เจริญชีวิตใหม่ในสันติมีความชื่นชมยินดี ตระหนักถึงการประทับอยู่ขององค์พระเจ้าผู้กลับคืนชีพในทุกเหตุการณ์แห่งชีวิต  ทุกวันต้องเป็นวันปัสกาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ด้วยการกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง ละทิ้งชีวิตเก่าและตายต่อตัวเองพร้อมกับพระองค์ เพื่อเราจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดำเนินชีวิตในแสงสว่างและความถูกต้องชอบธรรม ความรักในพระองค์และความรักต่อเพื่อนพี่น้อง ควรเป็นเหมือนไฟปัสกาที่ส่องสว่างและนำบุคคลอื่นให้มาพบกับพระเยซูเจ้าในชีวิตจริง ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกๆท่าน

พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น