วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2013


สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
            "องค์พระจิตแห่งความจริงจะนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล" วันนี้เป็นวันสมโภชพระตรีเอกภาพ วันนี้เป็นวันฉลององค์พระเจ้าเอง การฉลองนี้เป็นการฉลองพระเจ้าหนึ่งเดียว ที่พระองค์ทรงเผยแสดงพระองค์เป็นสามพระบุคคล พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร และ พระจิตเจ้า
            สัจธรรมแห่งความเชื่อประการนี้ เป็นความเชื่อยิ่งใหญ่สูงสุดของเราคริสตชน เพราะเป็นการเฉลิมฉลองธรรมล้ำลึกแห่งการดำรงอยู่ขององค์พระเจ้า ซึ่งถ้าพระองค์ไม่ทรงเผยแสดงความจริงประการนี้ให้เรามนุษย์ได้ทราบ เราก็จะไม่มีวันเข้าถึงความจริงข้อนี้ได้ พระวรสารวันนี้เผยแสดงองค์พระเจ้าพระตรีเอกภาพกับเรา พระเยซูเจ้าพระบุตรของพระเจ้า ทรงเผยแสดงองค์พระจิตเจ้า ในเวลาเดียวกัน พระเยซูก็เคยตรัสกับเราว่า ทุกสิ่งที่พระบิดามีก็เป็นของพระองค์ พระจิตเจ้า พระจิตแห่งความจริง ทรงเป็นผู้นำพระศาสนจักรให้เข้าถึงความจริงแห่งพระตรีเอกภาพ ซึ่งพระศาสนจักรน้อมรับความจริงข้อนี้ ภายหลังจากที่ได้ศึกษา สวดภาวนา และ ไตร่ตรอง มานานหลายศตวรรษ
            ความเข้าใจที่ดีที่สุดในการศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพนี้ ไม่ใช่ได้มาด้วยการเรียนรู้ แต่ได้มาด้วยการปฏิบัติต่างหาก เราจะรู้จักพระตรีเอกภาพได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเราถือปฏิบัติความรัก เพราะเมื่อเรารัก เราก็จะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพระเจ้าคือองค์ความรัก พระเจ้าสามพระบุคคลเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยความรักที่ไม่รู้แหนงหน่าย หรือความรักที่ไม่มีหมดสิ้น
            การให้อรรถาธิบายพระตรีเอกภาพที่ดีที่สุดนั้น ไม่ใช่การอธิบายในเชิงเทววิทยา เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งเราก็ยากจะหาเหตุผลใดๆมาสนับสนุนคำอธิบายของเรา แต่คำอธิบายที่ดีที่สุดนั้นอยู่ในการครองชีวิตด้วยความรักเสมอ ความรักนี้เองที่ทำให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน
            ถ้าท่านอยากเป็นคนที่เข้าถึงพระตรีเอกภาพได้ดีที่สุด จงครองชีวิตของท่านในความรักเถิด !
            ถ้าท่านอยากสร้างสังคมที่เข้าถึงพระตรีเอกภาพได้ดีที่สุด จงธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันเถิด !

คุณพ่อสุพจน์
...................................................................................................................

เราเชื่ออะไร


เชื่อในพระตรีเอกภาพ (พระเจ้าหนึ่งเดียวในสามพระบุคคล) หมายความว่าอย่างไร
คริสตชนมิได้นมัสการพระเจ้าสามพระองค์ที่แตกต่างกัน แต่เป็นพระเจ้าพระองค์เดียว มีสามพระบุคคล แต่ยังคงเป็นหนึ่งเดียว เราทราบว่าพระเจ้าทรงมีสามพระบุคคลในพระเจ้าหนึ่งเดียว จากพระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ผู้ทรงเป็นพระบุตร ตรัสถึงพระบิดาของพระองค์ในสวรรค์ว่า “เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน” (ยน 10: 30) พระองค์ทรงอธิษฐานภาวนาถึงพระบิดา และทรงส่งพระจิตเจ้า ผู้ทรงเป็นความรักของพระบิดา และพระบุตร มายังเรา ด้วยเหตุนี้เราจึงรับศีลล้างบาป “เดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต”
ที่เราทราบว่าพระเจ้าทรงเป็นพระตรีเอกภาพก็โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น เนื่องจากสติปัญญาของมนุษย์ไม่มีทางสามารถสรุป หรือเข้าใจเรื่องของพระตรีเอกภาพได้เลยอาศัยวิธีการต่างๆ ตามเหตุผลของตนเอง อย่างไรก็ตาม ธรรมล้ำลึกนี้ก็มีเหตุผล เพราะถ้าพระเจ้าทรงอยู่พระองค์เดียวอย่างโดดเดี่ยว พระองค์ก็จะไม่สามารถเป็นองค์ความรัก และรักตั้งแต่นิรันดรกาลได้
แม้พระเยซูเจ้าอาจจะไม่ได้ทรงเปิดเผยตั้งแต่ทีแรกว่า พระเจ้าทรงเป็นสามพระบุคคล แต่ก็ทรงเปิดเผยว่า พระเจ้าเพียงพระองค์เดียวนั้นไม่ทรงอยู่โดดเดี่ยว  ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระบิดา และพระจิตเจ้านั้นเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้นนับตั้งแต่แรกเริ่ม     ความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อมนุษย์นั้นไม่มีขีดจำกัดเลย  เพราะจมอยู่ภายในความรักซึ่งกันและกันอย่างไม่มีขอบเขตของพระบุคคลทั้งสาม   เป็นความรักที่แสดงออกในความสัมพันธ์ระหว่างพระบุคคลที่แยกออกจากกันไม่ได้ ไม่ปะปนกันและมีเอกลักษณ์ของตน
 ความรักของทั้งสามพระบุคคลนี้หาใช่สิ่งใดอื่นนอกจาก การให้ซึ่งกันและกัน และอาศัยการให้ นี้ทำให้ทั้งสามเป็นหนึ่งเดียวและแตกต่างกันด้วย ภายในพระตรีเอกภาพนั้น แต่ละพระบุคคลไม่ได้มุ่งรวมศูนย์อยู่ที่ตนเอง แต่ทรงเป็นอยู่ และทรงชีวิตเพื่ออีกพระบุคคลหนึ่ง และร่วมกับอีกพระบุคคลหนึ่งโดยสิ้นเชิง   นี่คือความพยายามอธิบายแบบง่าย ๆ ในสิ่งที่นักเทววิทยาเรียกว่า ที่มาแห่งความเป็นหนึ่งเดียวในพระตรีเอกภาพ
ในเรื่องของพระตรีเอกภาพ คงไม่ได้จำเป็นต้องไปพยายามทำความเข้าใจอะไรมากมายเพื่อมาสนับสนุนความเชื่อของเรา แต่ขอให้เราเชื่อเพื่อจะได้เข้าใจก็พอ และแสดงออกมาในภาคปฏิบัติให้เป็น รู้จักอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างสันติ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อองค์พระตรีเอกภาพจะได้ประทับอยู่และทำงานในตัวของเราแต่ละคน

“เราเชื่ออะไรนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีกคือ เราเชื่อใคร”
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น