วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2013


พี่น้องที่รัก
            อัลเลลูยา
            พระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์ชีพจากความตาย
            ให้เรามาเฉลิมฉลองด้วยความชื่นชมยินดีกันเถิด
            อัลเลลูยา
            และแล้ววันสมโภชที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของพระศาสนจักรก็เวียนบรรจบมาอีกครั้งหนึ่ง การสมโภชปัสกา คือ การสมโภชพระธรรมล้ำลึกแห่งการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ชีพขององค์พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าที่ทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และ ถวายองค์เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เพื่อชำระมลทินบาปของเรามนุษย์ วันฉลองสมโภชวันนี้เองจึงเป็นวันที่เราคริสตชนเฉลิมฉลองความจริงที่ว่า พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าทรงไถ่เรามนุษย์ให้พ้นจากบาป และ มลทินต่างๆอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากบาปที่เรามนุษย์ได้กระทำ
            เมื่อเราทราบว่าเราคริสตชนได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงนำพาเราทุกคนไปสู่ความรอดพ้น พระองค์นำพาเราไปสู่ความสันติสุข ทำให้เรามีความชื่นชมยินดีในความหวังอันสว่างสุกใส รุ่งเรืองที่รอคอยเราอยู่ในภายภาคหน้า พระเจ้าทรงรอคอยเราอยู่เพื่อสวมกอดต้อนรับเราเข้าสู่พระอาณาจักรอันรุ่งเรืองสุกใสของพระองค์
            การฉลองสมโภชปัสกาด้วยความชื่นชมยินดีในโลกนี้ เป็นภาพเลาๆที่พอจะทำให้เราเข้าใจ ถึงการฉลองปัสกาแห่งการกลับคืนชีพที่น่าชื่นชมยินดีสูงสุดในชีวิตหน้าของเราแต่ละคนเมื่อเราผ่านชีวิตปัจจุบันของเราไปสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดรที่จะมาถึง
            บาปและความตายอันเป็นผลมาจากบาปที่เรามนุษย์ได้กระทำนั้น ไม่มีอำนาจที่จะผูกมัด กุมขัง เราได้อีกต่อไป เพราะพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า ทรงมีชัยชนะเหนือบาปและความตาย ด้วยการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์แล้ว เราคริสตชนจึงได้รับความรุ่งเรือง โดยอาศัยความรุ่งเรืองของพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพนี้
            ขอวิงวอนพระเจ้า โปรดโปรยปรายพระพรอันอุดมของพระองค์มาสู่พี่น้องทุกๆท่าน
                                                                                                                           สุขสันต์วันปัสกา
                                                                                                                               คุณพ่อสุพจน์
.............................................................................................
                                                                                                                       
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ อัลเลลูยา
สวัสดีครับพี่น้อง
เสียงร้องอัลเลลูยาในอาทิตย์นี้ดูจะดังกึกก้องเป็นพิเศษ เนื่องมาจากตลอดเทศกาลมหาพรตนั้น ทางพิธีกรรมได้งดการเอ่ยคำ “อัลเลลูยา” ไป
“อัลเลลูยา” มาจากภาษาฮีบรู (הללו יה) ซึ่งมีความหมายว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์” (นี่เป็นการตอบคำถามสัตบุรุษผู้หนึ่งที่มาถามพ่อไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย) ซึ่งเชื่อกันว่าเหล่าทูตสวรรค์ขับร้องด้วยคำนี้ เพื่อสรรเสริญพระเจ้าที่รอบๆ พระบัลลังก์ในสวรรค์ ด้วยความชื่นชมยินดี และเรามนุษย์นำมาใช้ในพิธีมิสซา เพื่อร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์ในการสรรเสริญพระองค์ และเป็นการย้ำเตือนกับเราด้วยว่าอาณาจักรสวรรค์อยู่บนโลกนี้แล้ว ในการร่วมบูชามิสซานั่นเอง
คำถามต่อไปคือว่า “แล้วทำไมจึงไม่ขับร้องอัลเลลูยาในเทศกาลมหาพรต?”
เหตุว่าจุดเน้นของเทศกาลมหาพรตคือการที่พระอาณาจักรจะมาถึง ไม่ใช่พระอาณาจักรที่มาถึงแล้ว ทั้งบทอ่านและบททำวัตร (การสวดภาวนาของพระสงฆ์นักบวช) ต่างก็เน้นไปที่การเดินทางฝ่ายจิตของชาวอิสราเอลในพันธสัญญาเดิมเพื่อรอคอยการเสด็จมาของพระแมสสิยาห์ผู้นำความรอดพ้นมาให้มวลมนุษย์ ดังนั้นพระศาสนจักรจึงได้งดคำ “อัลเลลูยา” ในเทศกาลนี้ เพื่อสำนึกผิดบาป กลับใจ เพื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้รับสิทธิ์เข้าไปขับร้องสรรเสริญพระเจ้าร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์
เมื่อวันแห่งชัยชนะของพระเยซูคริสตเจ้ามาถึง ในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนอ่านพระวรสารพระสงฆ์จะขับเพลงอัลเลลูยา 3 ครั้ง และทุกคนร้องตาม ก็เท่ากับว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระอาณาจักรมาถึงแล้ว ให้เราร้องตะโกนด้วยความชื่นชมยินดีนะครับว่า “อัลเลลูยา”
เรื่องจริงเกี่ยวกับความเชื่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่งในเรื่องชีวิตนิรันดรมีว่า “ระหว่างทานอาหารเย็นด้วยกันในครอบครัว มีผู้ขอร้องให้ จิมมี่ โรเจอร์ อายุ 7 ขวบ บอกเล่าความเชื่อของเขาเรื่องชีวิตนิรันดร เขากล่าวว่า “วันหนึ่งที่พวกเราทุกคนไปอยู่ในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะเรียกขานชื่อของพวกเราจากในหนังสือแห่งชีวิตเล่มใหญ่ อันดับแรก ทูตสวรรค์จะเรียกชื่อ “พ่อโรเจอร์” และพ่อก็จะตอบว่า “อยู่ครับ” และก็เรียก “แม่โรเจอร์” และแม่ก็ตอบว่า “อยู่ค่ะ” จากนั้นก็เรียก “ซูซี่กับมาวิส โรเจอร์” และทั้งคู่ก็ตอบว่า “อยู่ครับ/ค่ะ)
จิมมี่หยุดเล็กน้อย สูดหายใจลึกแล้วกล่าวต่อว่า “สุดท้าย ทูตสวรรค์ก็เรียกชื่อของผม “จิมมี่ โรเจอร์” และเพราะว่าผมตัวเล็ก เกรงว่าทูตสวรรค์จะมองไม่เห็น เลยกระโดดขึ้นและตะโกนว่า “อยู่ครับ”
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เด็กน้อยจิมมี่ก็ประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทุกคนในครอบครัวมาอยู่ล้อมรอบเตียงของเขา โดยที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว บางทีเขาอาจต้องจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น
ทุกคนจึงได้ภาวนาอยู่ข้างเตียงของเขาด้วยกัน พอดึกๆ เด็กน้อยจึงเริ่มขยับตัว ทุกคนจึงได้เข้ามาใกล้เตียง แล้วเขาก็พูดเพียงคำเดียวก่อนจะจากโลกนี้ไป ซึ่งเป็นคำที่ปลอบประโลมใจ ด้วยเสียงที่ชัดเจนและดังพอที่ทุกคนจะได้ยินและเข้าใจได้ จิมมี่น้อย กล่าวว่า “อยู่ครับ” แล้วเขาก็ได้ไปมีชีวิตในอีกโลกหนึ่งที่ทูตสวรรค์ได้เรียกชื่อของผู้ที่มีเขียนไว้ในหนังสือแห่งชีวิตเล่มนั้น
พี่น้องครับ เราฉลองปัสกาขององค์พระเยซูเจ้าในวันนี้ ตอบกับตัวเองให้ได้นะครับว่า “ปัสกามีความหมายอะไรสำหรับฉัน?” แล้วเมื่อนั้น เราจะตะโกนร้องอัลเลลูยาได้อย่างดังและชัดเจนที่สุด สุขสันต์วันปัสกาครับ!!!
                                                                                    คุณพ่อปลัดองค์เล็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น