วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2013


สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
            ในระหว่างเทศกาลมหาพรตนี้ เราภาวนาและทำกิจศรัทธาพิเศษด้วยการเดินรูป 14 ภาค เพื่อรำลึกถึงพระธรรมล้ำลึกแห่งการรับทรมาน สิ้นพระชนม์บนกางเขนของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเรามนุษย์ พ่อขอนำเอาประวัติ "การเดินรูป 14 ภาค" มาให้พี่น้องได้อ่านเพื่อจะทราบความเป็นมาดั้งเดิมของกิจศรัทธาประการนี้ครับ
พ่อสุพจน์

เดินรูป 14 ภาค
เทศกาลมหาพรต เป็นเทศกาลที่พวกเราคริสตชนจะต้องเอาใจใส่พระวาจาของพระเป็นเจ้า และอุทิศตนเองเพื่อการอธิษฐานภาวนาบำเพ็ญกิจเมตตาปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อเตรียมสมโภชปัสกาที่พระเยซูเจ้าผู้ทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ
            พูดถึงการอุทิศตนเพื่อการรำพึงภาวนา คริสตชนสามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เป็นต้น ทางกางเขน (Way of the Cross) ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ”เดินรูป 14 ภาค” หรือ “มรรคาศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเรากระทำกันในวันศุกร์ระหว่างเทศกาลมหาพรต
            คริสตชนสมัยแรกๆ นิยมการเดินรูป 14 ภาค เข้าใจว่าธรรมเนียมนี้เกิดจากการพยายามเลียนแบบแม่พระที่เดินทางไปเยี่ยมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บ่อยๆ หลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ (ตามคำบอกเล่าของนักบุญบริจิต ที่ได้รับการไขแสดง) คริสตชนพวกนี้นิยมจาริกแสวงบุญไปตามสถานที่สำคัญต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ในชีวิตของพระเยซูเจ้า เช่น สวนเกทเสมนี สถานที่ตัดสินพระเยซูเจ้า ฯลฯ
            เมื่อคริสตชนจำนวนมากได้ไปเยี่ยมนครศักดิ์สิทธิ์ (กรุงเยรูซาเล็ม) และเดินตามสถานที่ต่างๆ ก็ได้มีการเขียนบันทึกประสบการณ์ และไม่ช้าก็กลายเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง ต่อมามีการกำหนดเส้นทางการเดินตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์ นอกจากนี้ พวกเขาปรารถนาที่จะระลึกถึงชีวิตทั้งครบของพระเยซูเจ้ารวมทั้งคำสั่งสอนของพระองค์
            ในระหว่างสงครามครูเสด (Crusade) การเดินทางไปแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งอันตราย ทั้งนี้เนื่องมาจากภาวะสงครามในสมัยกลางระหว่างศตวรรษที่ 12-13 คริสตชนในยุโรปมีความศรัทธาต่อพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้ามาก โดยเฉพาะพวกทหารผ่านศึกในสงครามครูเสดได้สร้างแบบจำลองสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตนได้เคยเห็นมาไว้ในบ้านของตน ในปี 1342 คณะฟรังซิสกันได้รับหน้าที่ให้ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งพวกท่านถือเป็นเกียรติและหน้าที่ที่จะเผยแพร่ความศรัทธาต่อพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า โดยเริ่มครั้งแรกในอารามก่อน และคริสตชนก็สามารถเข้าร่วมพิธีเดินรูป 14 ภาคโดยไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางการเมืองในขณะนั้น
            การแพร่หลายของพิธีเดินรูป 14 ภาคเกิดจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ นักบุญเลียวนาร์ดแห่งปอร์ตมอริส ได้อุทิศชีวิตของตนเพื่อการสอนและการเดินรูป 14 ภาค ประการที่สอง สมเด็จพระสันตะปาปาได้ประกาศประทานพระคุณการุณย์แก่ผู้เข้าในพิธีเดินรูป 14 ภาค เป็นต้นปี 1731 พระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 12 ทรงประกาศสนับสนุนมรรคาศักดิ์สิทธิ์ หรือ การเดินรูป 14 ภาค จึงเป็นกิจศรัทธาที่ได้รับพระคุณการุณย์อย่างมากมาย เป็นที่สังเกตว่า การเดินรูปนี้เป็นการรำพึงไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งต่อมาก็มีการใช้รูปภาพหรือรูปปั้น และที่สำคัญทุกรูปจะมีกางเขนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งอาจะสันนิษฐานได้ว่า ในกรุงเยรูซาเล็ม สถานที่สำคัญต่างๆ มีกางเขนเป็นเครื่องหมาย อีกประการหนึ่ง “มรรคาศักดิ์สิทธิ์” หรือ “ทางกางเขน” ปัจจุบันมักเพิ่มสถานที่ 15 พระเยซูทรงกลับคืนพระชนม์เข้าไปด้วย เพื่อทำให้เราเข้าใจปัสกาของพระเยซูเจ้าสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางกางเขน คือ การเดินจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง มิใช่การนั่งและรำพึงอยู่กับที่ ยกเว้นผู้ที่ไม่สบายหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ หรือ มีผู้เข้าร่วมมากจนไม่อาจเคลื่อนที่ได้โดยสะดวก อาศัยการรำพึงภาวนา “ทางกางเขน” หรือ พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในระหว่างเทศกาลมหาพรตนี้ น่าจะช่วยให้เราเข้าใจ “ความจริงแห่งชีวิต” ของเรามากขึ้น
จงละทิ้งบาปทั้งปวงที่เจ้าได้กระทำต่อเราเสีย จงเปลี่ยนแปลงนิสัยและแก้ไขจิตใจเสียใหม่”
(จากหนังสือ ปัสกากับคริสตชนบาทหลวง มิเกล กาไรซาบาล, SJ.)

 ..............................................................................................................................................

  การอธิษฐานภาวนา คืออ๊อกซิเจนของจิตวิญญาณ
“Prayer is the oxygen of soul” (Saint Padre Pio)
สวัสดีพี่น้องที่รัก
เราได้เดินทางมหาพรตมาสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว ระยะเวลาแห่งการชำระจิตใจด้วยการภาวนา การอดอาหาร และการทำบุญทำทาน เป็นอย่างไรกันบ้าง
“ก่อนการตัดสินใจครั้งสำคัญ พระองค์ทรงแยกตัวออกไปอธิษฐานภาวนา” พี่น้องครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวกรุงเทพฯ และต่อประเทศไทย ส่วนในพระศาสนจักรเอง ในยุคสมัยของเรานี้นับว่าได้มีโอกาสเห็นการเลือกตั้งพระสันตะปาปาถึง 2 องค์ ไม่ห่างกันนัก (ส่วนบางคนอาจ 3-4 องค์ ตามแต่วัย) ซึ่งการเลือกตั้งพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จะเริ่มอีกไม่นานนี้ มีการเลือกตั้งหรือพิจารณาอะไรที่สำคัญอีก พ่อนึกถึงพระศาสนจักรไทยของเราเช่นกัน เมื่อมีการเลือกพระสังฆราชใหม่เป็นต้น หรือแม้แต่เมื่อคณะกรรมการสงฆ์ทำการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์ในโอกาสที่จะมาถึง คือเดือนเมษายนนี้ เพราะพ่อก็รอคอยคำสั่งจากการเลือกอันสำคัญครั้งนี้อยู่เหมือนกัน
ยังมีการพิจารณาเช่นนี้อยู่ในบ้านเณรด้วย เมื่อผู้ใหญ่ในบ้านเณรจะอนุมัติให้ใครผ่านเกณฑ์และสามารถก้าวเข้าไปรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ได้นั้น ก็ต้องมีการคิดพิจารณาอย่างหนักเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่เหมือนกันในทุกการเลือกหรือพิจารณาก็คือ “การอธิษฐานภาวนา”
ดังนั้นเมื่อมีการประชุมลับเพื่อเลือกตั้งพระสันตะปาปานั้น เหล่าพระคาร์ดินัลจะสวดภาวนา เฝ้าศีลมหาสนิท ขอการส่องสว่างของพระจิตเจ้านำทาง เช่นเดียวกับการเลือกให้เณรคนหนึ่งผ่านหรือไม่ผ่านนั้นก็ต้องเริ่มต้นด้วยการภาวนาทั้งนั้น
พระเยซูเจ้าเองทรงอธิษฐานภาวนาเสมอ ตั้งแต่มหาพรตสัปดาห์แรกเราก็ได้ยินเรื่องที่พระองค์ทรงเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร 40 วัน 40 คืน ก่อนจะทรงถูกผจญและเริ่มงานเทศน์สอนของพระองค์ มหาพรตสัปดาห์ที่ 2 พระเยซูเจ้าก็ขึ้นภูเขาไปภาวนาพูดคุยกับพระบิดาอีก ก่อนจะเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระบิดาสำเร็จไปด้วยการสิ้นพระชนม์ที่เขากัลวารีโอ มหาพรตสัปดาห์ที่สาม พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราอภัยกัน ให้โอกาสกับคนอื่นเหมือนที่พระให้โอกาสเรา ยิ่งต้องการคำภาวนาอย่างมากเพื่อจะทำสิ่งกล้าหาญเช่นนั้นได้ สัปดาห์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรตนี้ คงเป็นชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่เลยล่ะ ที่แม้ลูกจะทำผิด เดินหลงทางไป แต่ก็เฝ้าคอยสวดภาวนาทุกวี่วันให้ลูกได้กลับบ้าน สวดให้เกิดความเข้าใจอันดีในครอบครัวของตนด้วย (ลูกคนไหนที่รู้ตัวว่าทำให้พ่อแม่หนักใจ หันกลับมาคิดได้แล้วนะครับ ว่าถึงเวลาที่เราต้องกลับใจแล้ว)
พี่น้องครับ ชีวิตของเรามีเรื่องราวให้ต้องเลือกต้องตัดสินใจอยู่เสมอ บางคนอาจต้องตัดสินใจแทบทุกวินาที คำโปรยหัวเรื่องข้างต้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเราคริสตชนเลย หากเราจะมีการภาวนาเป็นประดุจลมหายใจเข้า-ออก
ไม่ทราบเหมือนกันว่าก่อนไปเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ ครั้งที่ผ่านมานั้น พี่น้องได้ภาวนาขอพระจิตเจ้าก่อนไปเลือกหรือเปล่า?
อยากให้พี่น้องทุกคนมีการอธิษฐานภาวนาเป็นออกซิเจนของจิตวิญญาณอย่างแท้จริงครับ
                                                                                    คุณพ่อปลัดองค์เล็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น