วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2013


สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน
เด็กหนุ่มชาวอินเดียนแดง มีธรรมเนียมในการออกไปฝึกความกล้าหาญด้วยการเดินทางไกลไปยังที่เงียบสงัดตามลำพังเพื่อเตรียมตัวเติบโตสู่การเป็นผู้ใหญ่  หนุ่มน้อยอินเดียนแดงคนหนึ่งตัดสินใจที่จะเข้าสู่บททดสอบนี้ด้วยการเดินทางไปยังยอดเขาสูง เขาเอาผ้าห่มผืนหนึ่งคลุมกายแล้วออกเริ่มต้นปีนป่ายไปสู่ยอดเขา เมื่อเขาไปถึงยอดเขาสูงแห่งนั้น เขายืดกายเหยียดตรงบนหน้าผาสูงชัน หัวใจของเขาพองโตด้วยความภาคภูมิใจ  แล้วเขาก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบที่เท้าของเขา เขาเลยก้มลงมามองเห็นงูหางกระดิ่งตัวหนึ่งที่เลื้อยอยู่ ก่อนที่ชายหนุ่มผู้นี้จะเดินหลีกไป เจ้างูตัวนั้นก็พูดกับเขาว่า "ฉันหนาวมาก และ กำลังจะอดอาหารตายอยู่ที่นี่แล้ว ช่วยสงเคราะห์ฉันหน่อยเถิด ช่วยเอาตัวฉันไว้ในเสื้อของคุณ และพาฉันลงไปยังหุบเขาข้างล่างด้วยกันกับคุณ"
            “ไม่มีทาง" ชายหนุ่มผู้นั้นตอบ "มีคนเตือนฉันแล้ว เกี่ยวกับเรื่องงูหางกระดิ่งว่า ถ้าฉันจับตัวมัน มันจะกัด และ พิษของมันจะทำให้ฉันถึงแก่ความตาย
            “ไม่จริง!” เจ้างูตอบ "ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับคุณ ถ้าคุณยอมช่วยฉัน ฉันจะไม่ทำร้ายคุณ"
            หนุ่มน้อยผู้นั้นลังเลชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง แต่เจ้างูตัวนั้นพยายามจูงใจหนุ่มผู้นี้ด้วยการทำให้ตัวของมันมีสีสวยสด ที่สุดหนุ่มน้อยผู้นั้นก็อุ้มงูขึ้นมา แล้วเอามาให้ไออุ่นภายใต้เสื้อคลุมของเขา แล้วปีนกลับลงมายังหุบเขาเบื้องล่าง เมื่อมาถึงที่ราบในหุบเขา เขานำงูตัวนั้นออกมาจากเสื้อคลุมแล้วค่อยบรรจงวางงูลงบนพื้นหญ้า ทันใดนั้นเจ้างูตัวนั้นก็ม้วนขดตัว แล้วพุ่งมาฉกกัดที่ขาของหนุ่มน้อยน่าสงสารผู้นั้นอย่างรวดเร็ว "แต่เจ้าสัญญากับฉันไว้แล้วนี่" หนุ่มน้อยผู้นั้นร้องโอดครวญ
            คุณก็รู้ชัดเจนอยู่ก่อนแล้วว่าฉันมีสันดานยังไง ตั้งแต่ตอนคุณอุ้มฉันมา" เจ้างูตัวนั้นตอบ แล้วมันก็เลื้อยจากไปอย่างรวดเร็ว
            ทุกวันนี้ ชาวอินเดียนแดง ยังคงเล่าขานเรื่องนี้ให้กับเหล่าเยาวชน ที่ถูกล่อลวงให้ทดลองยาเสพติด ด้วยการกล่าวซ้ำถ้อยคำที่เจ้างูหางกระดิ่งตัวนั้นพูดเอาไว้ว่า "คุณก็รู้ชัดเจนอยู่ก่อนแล้วว่า ฉันมีสันดานยังไง ตั้งแต่ตอนที่คุณอุ้มฉันขึ้นมา"
            พ่ออ่านเรื่องเล่าเรื่องนี้แล้วทำให้ได้ข้อคิดเกี่ยวกับ การประจญล่อลวงของปีศาจ และ บาปหลายประการที่ยั่วยวนมนุษย์จำนวนมาก ด้วยเปลือกนอกที่มีสีสันสดใส แต่ภายในเต็มไปด้วยพิษร้าย ไม่ต่างกับยาเสพติดประเภทร้ายแรง ที่เกาะกุมทำร้ายชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก

พ่อสุพจน์
...........................................................................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
                ต่อแต่นี้ไปเราจะได้รับฟังพระวาจาของพระเจ้าผ่านทางพระวรสารของนักบุญลูกา ซึ่งลักษณะที่เด่นชัดของลูกาที่เราสังเกตเห็นได้คือ ท่านเน้นเรื่องการภาวนา ความเมตตาของพระเจ้า การเอาใจใส่คนยากจน การเทศน์สอนในระดับประชาชน และการเลี้ยงฉลองที่โต๊ะอาหาร ซึ่งทำให้ท่านได้รับการขนานนามว่าเป็นคาทอลิกคนแรก ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคริสตชนจึงสามารถเข้าใจในคำสอนของท่านได้ง่าย
            คำสอนเรื่องการภาวนา เช่นว่า บทเพลงสรรเสริญของพระนางมารีย์ บทเพลงสรรเสริญของเศคาริยาห์ บทเพลงของสิเมโอน ที่พระศาสนจักรนำมาใช้ในบทภาวนาประจำวัน มีบทข้าแต่พระบิดา บทวันทามารีย์ มีธรรมล้ำลึกภาคชื่นชมยินดีห้าข้อสำหรับใช้รำพึงระหว่างสวดสายประคำ และมีบทภาวนาสั้นๆ อีกมากมาย เช่น บทภาวนาของคนเก็บภาษีในพระวิหาร และของโจรกลับใจบนเขากัลป์วารีโอ
            คำสอนเรื่องพระเมตตาของพระเจ้า เช่นว่า เรื่องหญิงที่กลับใจและล้างพระบาทของพระเยซูเจ้าด้วยน้ำตาของนาง เรื่องของบุตรล้างผลาญ เรื่องโจรกลับใจ เรื่องคนเก็บภาษีผู้ถ่อมตน
            คำสอนเรื่องการเอาใจใส่ต่อคนยากจนและคนนอกสังคม เช่นว่า เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเริ่มต้นพันธกิจของพระองค์ พระองค์ทรงยืนขึ้นอ่านหนังสือพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า นี่คือปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงนำข่าวดีมาประกาศแก่คนยากจน ประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด และปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ พระเอกในเรื่องนี้คือ คนโรคเรื้อน คนเลี้ยงแกะ คนเก็บภาษี คนบาปสาธารณะ ชาวสะมาเรีย และคนต่างชาติ ทุกคนเป็นบุคคลที่อยู่นอกระบบสังคม ลูกาเน้นบทบาทสำคัญที่มอบให้แก่สตรี โดยเฉพาะพระนางมารีย์ นางเอลีซาเบท มาร์ธา และมารีย์ กลุ่มสตรีที่ช่วยเหลือพระเยซูเจ้าและอัครสาวก และกลุ่มสตรีที่แสดงความสงสารพระองค์ระหว่างทางไปสู่ที่ประหารบนเขากัลวารีโอ
                สิ่งที่เราสังเกตเห็นได้คือ ท่านเริ่มต้นอารัมภบทในพระวรสารด้วยคำกล่าวทักทายว่า เธโอฟีลัส ซึ่งแปลว่า “ผู้ที่รักพระเจ้า” ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่ได้เจาะจงอาจจะหมายถึงใครก็ได้ ที่เริ่มแสวงหาพระเจ้าด้วยความรักเพราะต้องการรู้จักพระเจ้าให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากเรามีความปรารถนาที่จะรู้จักพระเจ้าให้มากขึ้นแล้ว ขอให้เราได้ฟังและรำพึงพระวาจาของพระเจ้าผ่านทางพระวารสารของนักบุญลูกาที่เราได้รับฟังดีๆ และเราจะพบกับความรักของพระเจ้าและรู้จักพระองค์มากขึ้นอย่างแน่นอน
คุณพ่อศวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น