วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2563

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2020


การไม่รู้จักพระคัมภีร์ คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม)
พี่น้องที่รัก
       พ่อได้พิมพ์แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า COVID-19กับการร่วมพิธีกรรมที่วัดเซนต์หลุยส์และศาลาหลุยส์มารีย์ กรุงเทพฯแปะไว้ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อยกระดับกันก่อนแก้ไว้ดังนี้:
 1. ผู้ที่มีอาการคล้ายหวัด เป็นไข้ ไอ จาม เจ็บคอฯลฯ ให้สวดภาวนาอยู่กับบ้านแทนจนกว่าหายเป็นปกติ และควรไปหาหมอ เมื่อมีอาการไม่ดีขึ้น
 2. สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันผู้อื่นและเข้าใจกันด้วยดี อยู่ให้เป็นเพราะอยู่ด้วยกัน
 3. กำหนดพื้นที่พิเศษสำหรับผู้ที่มีอาการหวัด ให้นั่งแยกที่นั่งนอกวัด
4. รับศีลมหาสนิทด้วยมือในช่วงนี้ หากอยู่บ้านรับด้วยความปรารถนา พระเจ้ารักเราเสมอ
 5. ด้านนอกวัดมีการถ่ายทอดเสียงออกมาและโปรดร่วมมิสซาอย่างสำรวมมีพระสงฆ์เชิญศีลด้านสนามหญ้า
 6. เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดวัดด้วยน้ำยาและเช็ดด้วยALCOHOL70 % ทุกรอบมิสซา
 7. ทำความสะอาดมือก่อนเข้าวัด ด้วยเจลล้างมือ (เว้นจุ่มน้ำเสกระยะนี้) บางคนมีพกพาส่วนตัวมา
 8. ในห้องน้ำสาธารณะของวัด โปรดรักษาความสะอาดก่อนและหลังเจ้าหน้าที่ของวัดทำอย่างสมำเสมอ
 9. ควรแนะนำความรู้ด้วยข่าวที่สร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงข่าวเท็จทุกประเภทและควรเสนอข่าวที่ดีต่อกัน
10. ขอให้ติดตามการประชาสัมพันธ์ข่าวจากทางวัดและสังฆมณฑลอย่าติดกับข่าวไลน์มากเกินไป
        ขอขอบคุณข้อเสนอทางวิชาการจากชมรมเวชบุคคลคาทอลิกแห่งประเทศไทยและแผนกสุขภาพอนามัยในกรรมาธิการฝ่ายสังคม(คาริตัสไทยแลนด์) ที่ช่วยทำให้เราพร้อมอยู่เสมอ
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


"การกลับใจ, กลับมาหาพระ และกลับออกไปส่งต่อพระเมตตาพระองค์"

            พระเจ้าทรงช่วย​เรา​ให้​รอด​พ้น และ​ทรง​เรียก​เรา​ให้​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์  ไม่ใช่​เพราะ​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ แต่​เพราะ​พระ​ประสงค์​และ​พระ​หรรษ​ทาน​ของ​พระองค์ พระองค์​ประทาน​พระ​หรรษ​ทาน​นี้​แก่​เรา​แล้ว​ใน​พระคริสต​เยซู​.....ผู้​ทรง​ทำลาย​ความ​ตาย และ​ทรง​นำ​ชีวิต​และ​ความ​ไม่​รู้จัก​ตาย​ให้​ปรากฏ​อย่าง​ชัด​แจ้ง​โดย​ทาง​ข่าว​ดี   (2ทธ 1:9-10)
          พระทำเช่นนี้กับเราเสมอ ไม่ว่ากับเราที่เป็นลูกที่ดีน่ารัก หรือลูกล้างผลาญก็ตาม  พระเริ่มด้วยรักต่อเราเสมอ แทนที่จะดุว่าให้ร้ายเรา ทั้งที่เราก็เป็นลูกล้างผลาญจริงจริง
          พระทรงช่วยเราให้รอดพ้น และทรงเรียกเราให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เราทำ แต่เพราะรักเราจริงจริง อย่างที่นักบุญเปาโลบอกเราเตือนใจเรานั้นแน่นอน  นี่เอง เป็นการยืนยันให้เราได้พบหัวใจเปี่ยมรักที่พระทรงมีให้เราเสมอ

            พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า “จงออกจาก.....จงไปยัง.....เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น" .....อับรามจึงออกเดินทางตามที่พระยาห์เวห์ตรัส  (เทียบปฐก 12:1-4ก)
          หากเรายอมรับฟังเสียงเรียกของพระ หากแม้เราพลาดหรือผิดพลั้งไป แต่ยอมกลับมาฟังเสียงของพระอีกครั้ง  เราจะพบว่า หัวใจรักของพระมีให้เราเสมอ มีพระพรสำหรับเราเสมอ  และยังพบอีกว่า พระ ปรารถนาใช้เราเป็นสะพานนำรักของพระองค์ส่งต่อให้กับพี่น้องรอบข้าง "เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น"
            พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายไปบนภูเขาสูงที่ปราศจากผู้คน  แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา ..... ขณะที่เปโตรกำลังพูดอยู่นั้น มีเมฆสว่างจ้าก้อนหนึ่งปกคลุมพวกเขาไว้ เสียงหนึ่งดังจากเมฆนั้นว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เราพึงพอใจยิ่งนัก จงฟังท่านเถิด”  เมื่อได้ยินดังนั้น ศิษย์ทั้งสามคนซบหน้าลงกับพื้นดิน มีความกลัวอย่างยิ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ทรงสัมผัสเขา ตรัสว่า “จงลุกขึ้นเถิด อย่ากลัวเลย”  (มธ 17:1-2,5-9)
           จงมั่นใจในพระเมตตารักของพระเสมอ จงมั่นใจในบ้านของเรา พระเตรียมความรักและการอภัยไว้เพื่อต้อนรับเราเสมอ
           กลับมาหาพระเถิด ฟังเสียงพร่ำเรียกของพระ ซึมซับความรักเมตตาที่เต็มเปี่ยมในหัวใจพระองค์  และกลับออกไปส่งต่อพระเมตตารักนี้ให้แก่กันและกันต่อไป
                                                      นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น