วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2020


การไม่รู้จักพระคัมภีร์ คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” (นักบุญเยโรม)
พี่น้องที่รัก
       ขอเชิญให้อ่านสารมหาพรตปี 2020 ของพระสันตะปาปาฟรังซิส
        ทางวัดได้ติดตั้งไว้ที่ข้างวัดและสนามหญ้าเทียม  ตัวหนังสือใหญ่ดี ค่อยๆอ่านและอยู่เงียบๆคิดไตร่ตรองบ้างว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง หรือจะใช้เอกสารคู่มือมหาพรตปี 2020 นำไปอ่านที่บ้านเพื่อทำ action plan แผนปฏิบัติงานมหาพรตของตนเองก็จะช่วยให้เรามีส่วนร่วมในเส้นทางไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์กับองค์พระเป็นเจ้าอย่างดี พ่อขอแย้มสารไว้เล็กน้อยดังนี้...
          “...พระสันตะปาปากล่าวตรัสสอนมหาพรตปีนี้เรื่องอะไรเป็นสำคัญ เหตุที่มาของเรื่องดังกล่าวเป็นเพราะอะไร พระองค์ชี้ให้เห็นความจำเป็นที่ต้องทำอะไรเพื่อตอบสนองเรื่องดังกล่าว รวมทั้งมีวิธีการอย่างไรในการทำตามนั้น และสรุปสุดท้ายของสารมหาพรตพระองค์ขอให้ช่วยเพื่อผู้อื่นอย่างไรบ้าง...”
          ใครยังไม่ได้รับการโปรยเถ้าเชิญรับได้หลังมิสซา...
          ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต จะมีเดินรูปสิบสี่ภาคหลังมิสซา 17.30 น. และเดินรูปภาคภาษาจีนเวลา 14.00 น.การเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 09.15 น.และ 17.00 น.(เว้นวันอาทิตย์ใบลาน)  เดินรูปส่งท้ายมหาพรตในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ 10 เมษายน เวลา 18.15 น.
          วันศุกร์ที่ 20 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึงเสาร์ที่ 21 มีนาคมเวลา 17.00 น. 24 ชั่วโมงเพื่อพระเป็นเจ้ามีพิธีตื่นเฝ้า(ศีลมหาสนิท)ที่วัดพระจิตเจ้า และคืนวันศุกร์ตั้งเวลา 19.00-21.00 น.ที่วัดเซนต์หลุยส์มีพระสงฆ์ 10 องค์โปรดศีลอภัยบาป
          วันอาทิตย์ใบลาน วันที่ 5 เมษายน  มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลานหน้าโถงศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด(มีบริการใบลานฟรีแบบไม่ถัก)  และบ้านผู้สูงอายุนำใบลานถักสวยงามมาจำหน่ายเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับศูนย์ลำไทร
          เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
          วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ 9 เมษายน มิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและมีเฝ้าศีลที่วัดน้อยพระจิตเจ้า
          วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 10 เมษายน พิธีนมัสการไม้กางเขน (เริ่มเดินรูปเวลา 18.15 น.)
          วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ 11 เมษายน พิธีเสกไฟ (ที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์)เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์ และล้างบาปผู้ใหญ่และมิสซาค่ำคืนปัสกา รับน้ำเสกที่สนามหญ้า และหน้าลานศาลาหลุยส์มารีย์
          ตลอดเทศกาลมหาพรต ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ได้แบ่งปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่างสม่ำเสมอ
          วันอาทิตย์ปัสกา 12 เมษายน สมโภชปัสกามิสซาทุกรอบตามปกติรับไข่ปัสกา ที่ศาลาและลานศาลาฯ
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม



"เริ่มต้นกันตั้งแต่ สัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรตนี่แหละ"

พระ​เจ้า​ทรง​เอา​ฝุ่น​จาก​พื้นดิน มา​ปั้น​มนุษย์​และ​ทรง​เป่า​ลม​แห่ง​ชีวิต​เข้า​ใน​จมูก​ของ​เขา มนุษย์​จึง​เป็น​ผู้​มี​ชีวิต.....แม้ว่า พระเจ้าตรัสห้ามว่า “อย่ากินหรือแตะต้องเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องตาย” แต่หญิง​เห็น​ว่า​ต้นไม้​นั้น​มี​ผล​น่า​กิน งดงาม​ชวน​มอง ทั้ง​ยัง​น่า​ปรารถนา​เพราะ​ให้​ปัญญา  นาง​จึง​เด็ด​ผลไม้​มา​กิน แล้ว​ยังให้​สามี​ซึ่ง​อยู่​กับ​นาง​กิน​ด้วย เขา​ก็​กิน
(เทียบ ปฐก 2:7, 3:3,7)
          สัปดาห์แรกเทศกาลมหาพรต สัปดาห์นี้ว่าด้วยเรื่องอาหารการกินทั้งนั้น เขาว่ากันว่า "ลิ้นสำคัญที่สุด" ลิ้นหรือว่าปาก เป็นได้ทั้งมอบความสุขหรือมอบความทุกข์ยากให้กับคนอื่น ลิ้นหรือปาก ทำให้เราอดกลั้นยอมที่จะไม่ทาน หรือปล่อยตัวปล่อยใจ กินมันทุกอย่าง  แต่​พระเยซูเจ้า​ตรัส​ตอบ​ว่า “​มี​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า มนุษย์​มิได้​ดำรงชีวิต​ด้วย​อาหาร​เท่านั้น แต่​ดำรงชีวิต​ด้วย​พระ​วาจา​ทุก​คำ​ที่​ออก​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เจ้า..... จง​กราบ​นมัสการ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้าของ​ท่าน และ​รับ​ใช้​พระองค์​แต่​ผู้​เดียว​เท่านั้น”  (เทียบ มธ 4:4,10)
          เหมือนกับเรื่องของอาดัมเอวาที่ตัดสินใจไม่ฟังเสียงของพระเจ้า ตัดสินใจเลือกที่จะกินผลไม้ที่พระเป็นเจ้าทรงห้าม จริง ๆ แล้ว ลิ้นหรือว่าปาก ก็ไม่ใช่ตัวการสำคัญ แต่กลับกลายเป็นว่าจิตใจของเรา ที่อยากจะปรนเปรอตอบสนองต่อความต้องการของตัวเราคนเดียวเท่านั้น ทำให้เราตัดสินใจเลือกปฏิเสธพระเจ้า, เลือกปฏิเสธเพื่อนพี่น้องคนอื่น, เลือกตามใจตัวเอง, เลือกตามใจปากและลิ้นของตนเอง
          สัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรตนี้ จึงขอปรับเปลี่ยน, เปลี่ยนว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับลิ้นหรือปาก  แต่เราให้ความสำคัญกับ "หัวใจของเราที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า" พระเยซูคริสต์เจ้าจึงย้ำเตือนเราว่า "จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านและรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น".
.......เดชะพระเยซูคริสตเจ้าพระองค์เดียว ทุกคนที่ได้รับพระหรรษทานอย่างสมบูรณ์และความชอบธรรมเป็นของประทาน ก็ยิ่งจะมีชีวิตและมีอำนาจปกครองมากขึ้น..... มวลมนุษย์กลายเป็นคนบาปเพราะความไม่เชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันใด มวลมนุษย์ก็จะเป็นผู้ชอบธรรม เพราะความเชื่อฟังของมนุษย์คนเดียวฉันนั้น  (รม 5:17,19)
          ดังนั้นในสัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรตนี้ ไม่ว่าเราจะพยายามสวดภาวนาเป็นพิเศษ, พยายามที่จะทำกิจเมตตาดีกันเป็นพิเศษ, และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พยายามที่จะอดอาหาร  ขอให้เรา ใช้คุณค่าที่ดีที่เหมาะสม กับอาหารที่เราจะทาน
          ด้วยการที่เราเริ่มต้น ให้หัวใจของเรานั้นรักพระเยซู, รักพระเจ้า, รักเพื่อนพี่น้องของเรา  โดย อดใจ อดกลั้น อดอาหาร มีส่วนที่เหลือจากการตั้งใจนี้ เราสะสมรวบรวมและนำไปแบ่งปัน ให้กับเพื่อนพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือ เริ่มต้นกันตั้งแต่ สัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรตนี่แหละ

                                นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น