วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม2019

สัปดาห์ที่หกเทศกาลปัสกา

พี่น้องที่รัก...

        นับแต่นี้ไป เราคงมีงานสำคัญเพื่อให้ชีวิตคริสตชนของเรากระชุ่มกระชวยกระฉับกระเฉงเพิ่มขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา  ถึงแม้ว่าวันแต่ละวันเราก็เต้นไปกับหน้าที่การงานและความรับผิดชอบ แต่ 350 ปีมิสซังสยามจะช่วยกระตุ้นเตือนใจให้เห็นถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่เพื่อใคร
        บรรดามิชชั่นนารี่จากต่างประเทศ สละบ้านช่องมาเพื่อนำพระเจ้าแห่งความรักมาเผยแผ่ความรอดพ้นสู่บ้านแท้นิรันดรสวรรค์บ้านเรา เพื่อทำให้ทุกคนติดตามคำสอนของพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตคือนำพระธรรมความรู้ช่วยกันและกัน กลับสู่บ้านของพระให้ได้
        หลายคนคงแปลกใจ พวกเขาเหล่านี้อยู่ที่บ้านของเขาก็สบายอยู่แล้ว ทำไมต้องข้ามทะเลข้ามฟ้ามายังดินแดนไกลโพ้นโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก  อันที่จริงก่อนมาพวกเขาก็ลา “ตาย”จากพ่อแม่ญาติพี่น้องมาแล้ว เพราะเขารู้ดีว่ายากลำบากอันอาจถึงแก่ชีวิตคือต้องตาย สภาพความเป็นอยู่ที่ต่างกันกัน การเดินทางที่หฤโหด และการเบียดเบียนจากความเข้าใจไม่เหมือนกัน เหมือนเป็นศัตรูตรงกันข้ามกัน
        พระเยซูเจ้าบอกกับศิษย์ของพระองค์ ใครเป็นศิษย์ของพระองค์ก็ต้องติดตามพระองค์มา และเสียสละ แบกไม้กางเขน เพราะนี่เป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ใครต้องกลับไปหาพระบิดาเจ้า ก็ต้องผ่านทางพระองค์
        350 ปีของการนำพระธรรมคำสอนของพระเยซูประกาศให้คนไทยได้รู้จัก และ 120 ปีที่กลุ่มคริสตชนเซนต์หลุยส์เริ่มเกิดขึ้นมา กับ 63 ปีที่มีวิหารบ้านของพระเจ้าให้เรามาพักพิงพึ่งพา สมควรแล้วที่ต้องจัดใหญ่ จัดหนัก จัดเต็มเพื่อร่วมมือร่วมใจกันแบกไม้กางเขนนี้ให้เด่นตระหง่านชัดเจนในพื้นที่เซนต์หลุยส์ ใจกลางกรุงเทพมหานคร และปักลงในใจของเราแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความรักและเมตตาของพระองค์ผ่านทางชีวิตของตัวเรา
        โมทนาคุณพระเป็นเจ้าสำหรับมิชชันนารี่ พระสังฆราชหลุยส์เวย์ พระสังฆราชหลุยส์โชแรง ที่สร้างดินแดนและวิหารแห่งนี้จนกลายเป็น เซนต์หลุยส์ สาธร สายธารแห่งพระเมตตาของพระเจ้า โดยอาศัยบ้านของพระแห่งนี้เพื่อขอบพระคุณพระเจ้า และสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
      
คุณพ่อชาญชัย  ทิวไผ่งาม


"ชีวิตที่ยอมให้พระเป็นตะเกียงส่องนำทาง"
พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “​ผู้ใด​รัก​เรา ผู้​นั้น​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​วาจา​ของ​เรา  พระ​บิดา​ของ​เรา​จะ​ทรง​รัก​เขา พระ​บิดา​จะ​เสด็จ​พร้อม​กับ​เรา​มา​หา​เขา จะ​ทรง​พำนัก​อยู่​กับ​เขา.....  เรา​มอบ​สันติ​สุขไว้​ให้​ท่าน​ทั้งหลาย เรา​ให้​สันติ​สุข​ของ​เรา​แก่​ท่าน เรา​ให้​สันติ​สุข​แก่​ท่าน ไม่​เหมือน​ที่​โลก​ให้ ใจ​ของ​ท่าน​อย่า​หวั่นไหว หรือ​มี​ความ​กลัว​เลย (ยน14:23,27)

          สันติสุขของพระที่มอบให้เรา ต่างจากที่โลกให้  สันติสุขของพระเพียงพอให้เรามีสุข  แน่นอน เราย่อมต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยาก ความท้าทาย  ที่สำคัญพระเยซูย้ำว่า...เราต้องกล้าเผชิญหน้า และจงอย่าหวั่นไหว
          ที่เป็นได้เช่นนี้สำหรับเราคริสตชน เราผู้มีความเชื่อและติดตามพระเยซูเจ้า เพราะเราวางชีวิตพิงอิงไว้กับชีวิตและสันติสุขของพระเยซู

"ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารใดในนครนี้ เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพและลูกแกะทรงเป็นพระวิหารของนครนี้  นครนี้ไม่ต้องการดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์เพื่อส่องสว่าง เพราะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนคร และลูกแกะทรงเป็นตะเกียงของนคร” (วว 21:22-23)

          ชีวิตที่ยอมวางไว้ในพระบิดา ยอมกล้าเผชิญหน้ากับความทุกข์ยาก ยอมมอบและแบ่งปัน ยอมตัดสละน้ำใจตน  เมื่อยอมตัดสละน้ำใจเช่นนี้ ย่อมมีสิ่งที่เหลือเพียงพอ  จึงสามารถนำมาแบ่งปันให้เกิดรอยยิ้มและสันติสุข  นี่แหละเป็น "ชีวิตที่ยอมให้พระเป็นตะเกียงส่องนำทาง".

  นกขุนทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น