วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2017

พี่น้องที่รัก
                ลมหนาวเริ่ม ฝนอำลา เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว สุขภาพต้องแข็งแรงและเอาใจใส่ให้สดชื่นเสมอๆ
                สัปดาห์ภาวนาเพื่อการทำพระคุณการุณย์เพื่อผู้ล่วงลับจบไปเมื่อวันที่ 8 นี้ แต่คำภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระยังคงทำต่อไปได้ทั้งเดือนนี้ โปรดภาวนาอุทิศแก่เขาเถิด
                เราเข้าสู่โค้งท้ายๆของพิธีกรรมพระศาสนจักร สัปดาห์ที่ จบลงในต้นเดือนธันวาคมและเริ่มเข้าสู่การเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พ่อได้เกริ่นนำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในงานของพระศาสนจักร งานของฝ่ายและแผนก ทั้งหมดจำเป็นต้องใช้งบประมาณจากการทำบุญและการสนับสนุนจากองค์กรการกุศลของต่างประเทศ  จึงใช้ซองทำบุญจะสะดวกและติดตามได้ง่ายกว่าจึงขออนุญาตใช้สารวัดหน้านี้บอกบุญให้กับทุกท่านทราบเพื่อจะได้ช่วยกันเต็มกำลังความสามารถ        
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้ประกาศรณรงค์ กองทุนน้ำใจคาทอลิก ในระหว่างเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพ 4 สัปดาห์ ก่อนสมโภชพระคริสตสมภพ เพื่อเชิญชวนคริสตชนให้ร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนจักร เพื่อช่วยโครงการและกิจการต่างๆ ของทุกแผนกในสภาฯ ในแต่ละปี
               สภาพระสังฆราชฯ มีสำนักงานสภากรรมาธิการ 4 ฝ่าย (27 แผนก) คือ
1. กรรมมาธิการฝ่ายอภิบาลคริสตชน  มี 11 แผนก
พิธีกรรม ดนตรีศักดิ์สิทธิ์ ศิลปะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์พระคัมภีร์คริสตศาสนธรรม พระสงฆ์และผู้ถวายตัวสามเณราลัย  ฆราวาส  ครอบครัว  เยาวชน
2. กรรมาธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก มี 4 แผนก
                การธรรมทูต  ศาสนสัมพันธ์-คริสตสัมพันธ์   การศึกษาคาทอลิก  มรดกและวัฒนธรรม
3. กรรมาธิการฝ่ายสังคม  มี 8 แผนก
                พัฒนาสังคม  ความยุติธรรมและสันติ  สุขภาพอนามัย  กลุ่มชาติพันธ์  สตรี  ผู้อพยพย้ายถิ่นและผู้ถูกคุมขัง  ผู้ท่องเที่ยวและเดินทะเล  ผู้ประสบภัยและผู้ลี้ภัย
4. กรรมาธิการฝ่ายสื่อสารสังคม  มี 4 แผนก
การพิมพ์  วิทยุและโทรทัศน์  การแปลและบัญญัติศัพท์  เทคโนโลยีสารสนเทศ
สภาพระสังฆราชจึงได้บอกบุญเพื่อให้สัตบุรุษแต่ละคนมีส่วนร่วม ในการทำงาน “ประกาศข่าวดี” ของพระเยซูเจ้าตามจิตตารมย์ “รักและรับใช้”ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรณรงค์ “ทุนน้ำใจคาทอลิก” คือการเตรียมฉลองพระทรงบังเกิดประจำปี  นับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าถึงสัปดาห์ที่สี่ ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมฉลองดังกล่าว
                ดังนั้น พี่น้องแต่ละคน สามารถเป็นส่วนหนึ่งของ “น้ำใจคาทอลิก” ที่ยิ่งใหญ่  เพื่อช่วยพระเยซูเจ้าประกาศข่าวดีได้  โดยช่วยกันทำบุญตามพันธะกิจดังปรากฏในงานของแต่ละฝ่ายและแผนกของสภาพระสังฆราช
                โปรดทำบุญใส่ซองนี้คืนกลับที่พระสงฆ์ของวัดหรือในถุงทานมิสซา ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
........................................................................................................................                    

สวัสดีครับพี่น้อง
                หญิงโง่นำตะเกียงไป แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย น้ำมันคืออะไร พระเมตตาของพระเจ้าที่เราจะต้องรีบตักตวงและเก็บรักษาไว้เมื่อยังมีโอกาส ก่อนจะถึงเวลาแห่งการพิพากษา น้ำมันคือความรอด หรือ พระคำจากพระเจ้า น้ำมันคือการเฝ้าวอนอธิษฐาน อย่าให้มารมีโอกาส จงเตรียมและระวัง จงฟังคำจากพระคัมภีร์ แผ่นดินสวรรค์เปรียบหญิงพรหมจรรย์ คนมีปัญญาห้าคนที่มีน้ำมัน คนโง่ห้าคน มีตะเกียงบ่มีน้ำมัน ในใจพร้อมแต่กายอ่อนแอ อย่ายอมแพ้การทดลอง จงมองพระเยซู อธิษฐานอ้อนวอนพระองค์ จงเฝ้าวอนอธิษฐาน จนมารซาตานยืนตัวสั่น จงเตรียมและระวัง อธิษฐานอ้อนวอนพระองค์อย่างสม่ำเสมอ พระเยซูเจ้าเป็นดังเจ้าบ่าว ทรงเสเด็จมาเพื่อพบปะกับประชากรของพระองค์ ทรงต้องการนำเราเข้าไปในบ้านแท้นิรันดร คืออาณาจักรสวรรค์ เพื่ออยู่กับพระองค์ผู้เป็นเจ้าบ่าวตลอดไปอันแสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติ และปรารถนาให้ทุกคนได้เป็นหนึ่งเดียวและอยู่กับพระองค์ แต่การมาของพระองค์มิได้กำหนดเวลาล่วงหน้า ทุกคนต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอและรอคอยด้วยความรอบคอบ
            น้ำมันที่พระเยซูเจ้าตรัสถึง ได้แก่ ความรัก ความดีงาม หรือบุญกุศล ที่ทุกคนต้องมีและเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ ประการสำคัญ น้ำมันแห่งความรักและความดีงามเป็นสิ่งที่ขอกันไม่ได้ เข้าทำนอง ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเองต้องลงมือกระทำ ต้องออกแรงด้วยตนเอง ต้องสั่งสมตลอดชีวิต เพื่อมีน้ำมันเพียงพอจุดตะเกียงแห่งชีวิตของเราให้ลุกโชนด้วยความเชื่ออยู่เสมอ จนถึงเวลาที่พระคริสตเจ้าเสด็จมา เราจะได้พบและอยู่กับพระองค์ตลอดไป
            ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นตะเกียงที่มีน้ำมัน เป็นตะเกียงที่จุดอยู่เสมอและตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างแก่ทุกคน เราต้องหมั่นเตรียมน้ำมันให้พร้อมและเพียงพอ ด้วยการกระทำแต่สิ่งดีงาม ดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง เป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและแบบอย่างที่ดีงามสำหรับผู้อื่น มีแต่ความรักและความดีงามเท่านั้น ที่จะทำให้ตะเกียงของเราลุกอยู่เสมอ และพร้อมที่จะต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าในวาระสุดท้าย
            ชีวิตที่ต้องตายกระทันหันอะไรก็ฉุดไว้ไม่ได้ ทรัพย์สมบัติมากมาย ร่ำรวยสะสมไว้เพียงใด ที่ดินกี่ร้อยแปลง เงินทองกี่ร้อยพันล้าน ฉุดชีวิตเราไว้ไม่ได้เลย และเมื่อเวลามาถึง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เลยยามเจ็บป่วย คนเราจะอยากได้อะไรเมื่อไข้ขึ้นสูง ทรมาน นอนไม่ได้คนเราจะมีความสุขไหมเมื่อป่วยยิ่งวาระสุดท้ายมาถึงแล้ว ต่อให้ห้องนอนเป็นทองคำก็ต้องกรีดร้องดิ้นจนสิ้นใจคว้าอะไรไปไม่ได้ เตียงนอนทองคำล้อมเพชรหรือจะสู้ที่นอนบางๆหรือที่นอนเสื่อผืนเดียวที่ล้อมด้วยลูกหลานที่รักมาร่วมกันสวดภาวนา ห่วงใย และบรรเทาใจ ไม่หวังอะไรนอกจากรักถ้าเตียงทองล้อมเพชร คงมีคนล้อมเหมือนกัน รอให้ตายไปจะได้แย่งชิงเตียงนอนนั้นกันต่อไป แต่คุณความดีที่เราหมั่นสะสมในชีวิตไม่มีใครจะมาแย่งชิงไปได้เลย


คพ. พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น