วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2017

พี่น้องที่รัก
                เริ่มอะไรใหม่ๆบ้างได้แล้ว
                หลังจากช่วงซ่อมแซมปรับปรุงศาลาวัด ทำโถงเอนกประสงค์หน้าศาลา ทางเชื่อมระหว่างศาลากับวัด พร้อมกับทำถนนรอบวัดและที่จอดรถ เข้ารูปเข้ารอยแล้ว ต่อแต่นี้ไป ถึงเวลาของสวนต้นไม้หรือต้นไม้ที่ตัดออกไป พร้อมกับเสริมต้นไม้ใหญ่เข้ามาแทนที่ สวนรอบวัดที่ปรับปรุงแต่งให้วัดเด่นขึ้นตามศิลปะที่ควรเน้น บริเวณต้นไม้ริมทางในรั้วรอบวัดกับทางเดิน จะพยายามรีบคืนสีเขียวให้ร่มรื่นและเย็นตา มีทั้งต้นไม้ที่ดูแลง่ายๆกับหญ้าเทียมบริเวณข้างวัด  คงช่วยสัตบุรุษผู้สูงอายุ เด็กมีที่เดินเล่นอย่างปลอดภัย และสมาชิกในครอบครัวที่นั่งรอนอกวัดจะได้มีสถานที่อันเหมาะสมเพื่อนั่งพักพิง กับศาลากาแฟและของว่างระหว่าง 8.00-12.00 น.
                ห้องน้ำ ถึงแม้ว่ามีพอเพียง แต่ก็ยังไม่ดีพอ ใครมีข้อเสนอแนะก็บอกกับพ่อได้นะ โดยเฉพาะห้องน้ำของสตรีที่ต้องสะอาดและสว่างถูกสุขลักษณะ
            ม้านั่งของประธาน และข้างประธานในวัดได้ปรับใหม่ให้เด่นขึ้น ที่อ่านเล็กของประธานเปลี่ยนเป็นไม้สัก ส่วนของเดิมนำไปใช้ในศาลาหลุยส์มารีย์ และที่อ่านเดิมในศาลาฯก็นำเข้ามาใช้กับพระแท่นเล็กในวัด สลับเปลี่ยนให้เหมาะสมกัน
                สิ่งที่พี่น้องบางท่านยังไม่ได้เห็น เพราะอยู่หลังวัด เป็นห้องเก็บศาสนาภัณฑ์ แต่งตัวพระสงฆ์ และผู้ช่วยพิธี ตู้เสื้อผ้ามีทั้งร่วมสมัยและของโบราณ บัดนี้ได้นำออกไปเพื่อซ่อมแซมให้คงสภาพใช้งานต่อ และได้ปรับปรุงให้เป็นถาวรวัตถุเข้ากับวัดและพอดีกับพื้นที่ของห้อง (น่าจะเสร็จเรียบร้อย)และอีกไม่ช้าคงมีการปรับที่นั่งในวัดบริเวณข้างพระแท่นใหญ่ และม้านั่งประตูด้านข้าง เพื่อใช้เป็นที่นั่งเพิ่มเติม กับทำห้องแก้บาปให้ใหญ่ขึ้นและพอเพียงเมื่อมีสัตบุรุษมาร่วมพิธีมากๆ
                ทั้งหมดนี้ จะทำให้ทุกอย่างมุ่งตรงมาที่กางเขนพระแท่นใหญ่อย่างสง่างามและสวยงามมากขึ้น
                ส่วนเรื่องปฏิทินพิธีกรรมต่อจากนี้มีรายการใหญ่ๆรอคอยมากมาย จะประชุมสภาวัดเพราะตุลาคมมีสวดสายประคำ พฤศจิกายนสวดภาวนาให้ผู้ล่วงลับ ธันวาคมเป็นคริสต์มาส มกราคมปีใหม่ 2018 พุธรับเถ้าปีนี้อยู่กลางกุมภาพันธ์ใกล้กับวันตรุษจีน สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ในช่วงปลายมีนาคม ต้นเมษายนก็ฉลองปาสกา
                บางครั้งทำอะไรที่เราคิดว่าดีแล้ว แต่ขาดความรอบคอบ ก็ทำให้งานหยุดชะงักและทำให้งานการไม่ราบรื่นได้
พ่อเจ้าวัด
................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
            มนุษย์มีความพยายามเป็นคนดี เพราะในแก่นแห่งความเป็นคน พระเจ้าทรงใส่ความดีของพระองค์ไว้  หากเชื่อว่าพระเจ้าคือผู้สร้างมนุษย์แต่ละคน ให้แต่ละคนมีฉายาของพระองค์  มนุษย์จึงเกิดจากองค์ความดี ดำเนินชีวิตโดยมีความดีเป็นที่ตั้ง เป็นทุกอย่างและทำทุกอย่างเพื่อความดี
       กระนั้นก็ดี ในตัวมนุษย์ นอกจากมีความอ่อนแอแล้ว ยังมีความโน้มเอียงไปทางไม่ดีอยู่ในธรรมชาติอันเนื่องมาจากบาปกำเนิด ในตัวมนุษย์จึงมีความขัดแย้ง ในขณะที่ทุกอย่างมุ่งสู่ความดี ก็มีแรงต้านและความโน้มเอียงไปสู่ความไม่ดี ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่พลังแห่งความดีพ่ายแพ้แก่พลังแห่งความชั่ว พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรายอมรับความจริงนี้ในตัวเราและในเพื่อนพี่น้องทุกคน แต่ละครั้งที่เราผิดไป เราให้โอกาสตัวเองแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความถูกต้อง แต่ละครั้งที่เพื่อนพี่น้องรอบตัวเราผิดไป นอกจากพวกเขาต้องให้โอกาสตนเองแก้ไขแล้ว ความรักฉันท์พี่น้องก็เรียกร้องให้เราให้โอกาสพวกเขาแต่ละคนในการแก้ไขด้วยเช่นกัน
       พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรา ตักเตือนฉันท์พี่น้องด้วยความรักและความหวังดี  จึงไม่ใช่ตำหนิตักเตือนด้วยแรงบันดาลใจอื่น ด้วยวิธีการที่ผิดคือ โกรธแค้น ดูถูก แก้แค้น หรือเพื่อแสดงว่าเรามีอำนาจเหนือ เป็นใหญ่กว่า ดีกว่าพี่น้องที่ทำผิด ในใจของเราต้องมีความดีของพี่น้องเป็นหลัก เมื่อตั้งความดีของพี่น้องเป็นหลัก เราก็ตักเตือนเขาด้วยความรักและความจริงมิใช่ข้อมูลเท็จ หรือการบอกเล่าเป่าหูของใคร หรือจากอคติที่เคยมีมาก่อน
       พระเยซูเจ้าทรงแนะวิธีการตักเตือน ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อยการนำคนอื่นไปช่วยตักเตือนพี่น้องที่ทำผิด จะช่วยให้เกิดพลัง เพราะเป็นการรวมพลังแห่งความรักและความดีเข้าสู่จิตใจของพี่น้องที่ทำผิด ให้พี่น้องที่ทำผิดเห็นผิดเห็นถูก เห็นความรักที่สองหรือสามคนอุตส่าห์ไปให้คำแนะนำ
       ในกรณีที่พี่น้องที่ทำผิดแคลงใจกับคนใดคนหนึ่งที่ไปตักเตือน การจะให้เกิดการยอมรับย่อมยาก ดีไม่ดีอาจมองเป็นเรื่องส่วนตัวไป  การที่มีมากกว่าสองคนจึงทำให้เห็นชัดเจนในเจตนาและความรักที่ไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝง
       พระเยซูเจ้าตรัสว่า ที่ใดสองหรือสามคนรวมกันสวดขอในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นด้วย หากผู้ที่ไปตักเตือนมีจำนวนสองหรือสามคนและกำลังทำกิจการแห่งความรักอยู่ พระเยซูเจ้าก็ทรงอยู่ที่นั่น ในขณะที่คำพูดของสองหรือสามคนกระทบหู ชวนให้คิด ชวนให้ทบทวน ไตร่ตรอง พระเยซูเจ้าทรงเข้าถึงใจของพี่น้องที่ทำผิด และจากภายในใจนั่นเอง พระองค์จะช่วยให้เขาเกิดความสำนึกและความพร้อมที่จะรับสิ่งดีๆ อีกทั้งพลังใจการจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ถูกต้อง
       การจะตัดพี่น้องที่ทำผิดออกจากสังคมหรือหมู่คณะ น่าจะเป็นวิธีการสุดท้าย หลังจากที่ได้ลองใช้วิธีการทุกอย่างตามที่ความรักและความหวังดีชี้บอกแล้ว เพราะนั่นคืออิสรภาพของพี่น้องที่ทำผิด หากเขาเลือกเช่นนั้น แต่ตราบใดที่ยังมีหวัง ยังมีแนวทาง เรายังต้องทำทุกอย่างเพื่อความดีของพี่น้องที่ทำผิดต่อไปจนสุดความสามารถ
       นั่นคือความรักที่ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์แห่งตน อย่างที่พระเยซูเจ้าทรงสอนและทรงปฏิบัติต่อเราทุกคนและแต่ละคน และเราได้เริ่มทำแล้วหรือยัง

คพ. พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น