พี่น้องที่รัก
เริ่มอะไรใหม่ๆบ้างได้แล้ว
หลังจากช่วงซ่อมแซมปรับปรุงศาลาวัด
ทำโถงเอนกประสงค์หน้าศาลา ทางเชื่อมระหว่างศาลากับวัด
พร้อมกับทำถนนรอบวัดและที่จอดรถ เข้ารูปเข้ารอยแล้ว ต่อแต่นี้ไป
ถึงเวลาของสวนต้นไม้หรือต้นไม้ที่ตัดออกไป พร้อมกับเสริมต้นไม้ใหญ่เข้ามาแทนที่
สวนรอบวัดที่ปรับปรุงแต่งให้วัดเด่นขึ้นตามศิลปะที่ควรเน้น
บริเวณต้นไม้ริมทางในรั้วรอบวัดกับทางเดิน
จะพยายามรีบคืนสีเขียวให้ร่มรื่นและเย็นตา
มีทั้งต้นไม้ที่ดูแลง่ายๆกับหญ้าเทียมบริเวณข้างวัด คงช่วยสัตบุรุษผู้สูงอายุ
เด็กมีที่เดินเล่นอย่างปลอดภัย และสมาชิกในครอบครัวที่นั่งรอนอกวัดจะได้มีสถานที่อันเหมาะสมเพื่อนั่งพักพิง
กับศาลากาแฟและของว่างระหว่าง 8.00-12.00 น.
ห้องน้ำ
ถึงแม้ว่ามีพอเพียง แต่ก็ยังไม่ดีพอ ใครมีข้อเสนอแนะก็บอกกับพ่อได้นะ
โดยเฉพาะห้องน้ำของสตรีที่ต้องสะอาดและสว่างถูกสุขลักษณะ
ม้านั่งของประธาน และข้างประธานในวัดได้ปรับใหม่ให้เด่นขึ้น
ที่อ่านเล็กของประธานเปลี่ยนเป็นไม้สัก ส่วนของเดิมนำไปใช้ในศาลาหลุยส์มารีย์
และที่อ่านเดิมในศาลาฯก็นำเข้ามาใช้กับพระแท่นเล็กในวัด สลับเปลี่ยนให้เหมาะสมกัน
สิ่งที่พี่น้องบางท่านยังไม่ได้เห็น
เพราะอยู่หลังวัด เป็นห้องเก็บศาสนาภัณฑ์ แต่งตัวพระสงฆ์ และผู้ช่วยพิธี
ตู้เสื้อผ้ามีทั้งร่วมสมัยและของโบราณ
บัดนี้ได้นำออกไปเพื่อซ่อมแซมให้คงสภาพใช้งานต่อ
และได้ปรับปรุงให้เป็นถาวรวัตถุเข้ากับวัดและพอดีกับพื้นที่ของห้อง
(น่าจะเสร็จเรียบร้อย)และอีกไม่ช้าคงมีการปรับที่นั่งในวัดบริเวณข้างพระแท่นใหญ่
และม้านั่งประตูด้านข้าง เพื่อใช้เป็นที่นั่งเพิ่มเติม
กับทำห้องแก้บาปให้ใหญ่ขึ้นและพอเพียงเมื่อมีสัตบุรุษมาร่วมพิธีมากๆ
ทั้งหมดนี้
จะทำให้ทุกอย่างมุ่งตรงมาที่กางเขนพระแท่นใหญ่อย่างสง่างามและสวยงามมากขึ้น
ส่วนเรื่องปฏิทินพิธีกรรมต่อจากนี้มีรายการใหญ่ๆรอคอยมากมาย
จะประชุมสภาวัดเพราะตุลาคมมีสวดสายประคำ พฤศจิกายนสวดภาวนาให้ผู้ล่วงลับ
ธันวาคมเป็นคริสต์มาส มกราคมปีใหม่ 2018
พุธรับเถ้าปีนี้อยู่กลางกุมภาพันธ์ใกล้กับวันตรุษจีน
สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ในช่วงปลายมีนาคม ต้นเมษายนก็ฉลองปาสกา
บางครั้งทำอะไรที่เราคิดว่าดีแล้ว
แต่ขาดความรอบคอบ ก็ทำให้งานหยุดชะงักและทำให้งานการไม่ราบรื่นได้
พ่อเจ้าวัด
................................................................................................
สวัสดีครับพี่น้อง
มนุษย์มีความพยายามเป็นคนดี เพราะในแก่นแห่งความเป็นคน
พระเจ้าทรงใส่ความดีของพระองค์ไว้
หากเชื่อว่าพระเจ้าคือผู้สร้างมนุษย์แต่ละคน
ให้แต่ละคนมีฉายาของพระองค์
มนุษย์จึงเกิดจากองค์ความดี ดำเนินชีวิตโดยมีความดีเป็นที่ตั้ง
เป็นทุกอย่างและทำทุกอย่างเพื่อความดี
กระนั้นก็ดี ในตัวมนุษย์
นอกจากมีความอ่อนแอแล้ว
ยังมีความโน้มเอียงไปทางไม่ดีอยู่ในธรรมชาติอันเนื่องมาจากบาปกำเนิด
ในตัวมนุษย์จึงมีความขัดแย้ง ในขณะที่ทุกอย่างมุ่งสู่ความดี
ก็มีแรงต้านและความโน้มเอียงไปสู่ความไม่ดี
ความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่พลังแห่งความดีพ่ายแพ้แก่พลังแห่งความชั่ว
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรายอมรับความจริงนี้ในตัวเราและในเพื่อนพี่น้องทุกคน
แต่ละครั้งที่เราผิดไป เราให้โอกาสตัวเองแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความถูกต้อง
แต่ละครั้งที่เพื่อนพี่น้องรอบตัวเราผิดไป นอกจากพวกเขาต้องให้โอกาสตนเองแก้ไขแล้ว
ความรักฉันท์พี่น้องก็เรียกร้องให้เราให้โอกาสพวกเขาแต่ละคนในการแก้ไขด้วยเช่นกัน
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรา “ตักเตือนฉันท์พี่น้อง”
ด้วยความรักและความหวังดี จึงไม่ใช่ตำหนิตักเตือนด้วยแรงบันดาลใจอื่น ด้วยวิธีการที่ผิดคือ
โกรธแค้น ดูถูก แก้แค้น หรือเพื่อแสดงว่าเรามีอำนาจเหนือ เป็นใหญ่กว่า ดีกว่าพี่น้องที่ทำผิด
ในใจของเราต้องมีความดีของพี่น้องเป็นหลัก เมื่อตั้งความดีของพี่น้องเป็นหลัก
เราก็ตักเตือนเขาด้วยความรักและความจริงมิใช่ข้อมูลเท็จ
หรือการบอกเล่าเป่าหูของใคร หรือจากอคติที่เคยมีมาก่อน
พระเยซูเจ้าทรงแนะวิธีการตักเตือน “ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง
จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย
คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย” การนำคนอื่นไปช่วยตักเตือนพี่น้องที่ทำผิด
จะช่วยให้เกิดพลัง
เพราะเป็นการรวมพลังแห่งความรักและความดีเข้าสู่จิตใจของพี่น้องที่ทำผิด
ให้พี่น้องที่ทำผิดเห็นผิดเห็นถูก เห็นความรักที่สองหรือสามคนอุตส่าห์ไปให้คำแนะนำ
ในกรณีที่พี่น้องที่ทำผิดแคลงใจกับคนใดคนหนึ่งที่ไปตักเตือน การจะให้เกิดการยอมรับย่อมยาก
ดีไม่ดีอาจมองเป็นเรื่องส่วนตัวไป
การที่มีมากกว่าสองคนจึงทำให้เห็นชัดเจนในเจตนาและความรักที่ไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝง
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ที่ใดสองหรือสามคนรวมกันสวดขอในนามของเรา
เราอยู่ที่นั่นด้วย” หากผู้ที่ไปตักเตือนมีจำนวนสองหรือสามคนและกำลังทำกิจการแห่งความรักอยู่
พระเยซูเจ้าก็ทรงอยู่ที่นั่น ในขณะที่คำพูดของสองหรือสามคนกระทบหู ชวนให้คิด
ชวนให้ทบทวน ไตร่ตรอง พระเยซูเจ้าทรงเข้าถึงใจของพี่น้องที่ทำผิด
และจากภายในใจนั่นเอง
พระองค์จะช่วยให้เขาเกิดความสำนึกและความพร้อมที่จะรับสิ่งดีๆ อีกทั้งพลังใจการจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ถูกต้อง
การจะตัดพี่น้องที่ทำผิดออกจากสังคมหรือหมู่คณะ น่าจะเป็นวิธีการสุดท้าย
หลังจากที่ได้ลองใช้วิธีการทุกอย่างตามที่ความรักและความหวังดีชี้บอกแล้ว
เพราะนั่นคืออิสรภาพของพี่น้องที่ทำผิด หากเขาเลือกเช่นนั้น แต่ตราบใดที่ยังมีหวัง
ยังมีแนวทาง เรายังต้องทำทุกอย่างเพื่อความดีของพี่น้องที่ทำผิดต่อไปจนสุดความสามารถ
นั่นคือความรักที่ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์แห่งตน
อย่างที่พระเยซูเจ้าทรงสอนและทรงปฏิบัติต่อเราทุกคนและแต่ละคน และเราได้เริ่มทำแล้วหรือยัง
คพ. พงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น