วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สารวัดวันอาทิตย์ 28 พฤษภาคม 2017

พี่น้องที่รัก
            เราเข้าช่วงเวลาท้ายๆของเทศกาลปัสกาแล้ว หลังจากการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ในวันนี้แล้ว อาทิตย์หน้า วันที่ 4 มิถุนายน จะเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าวันที่สำคัญเพื่อให้ชีวิตจิตใจของเราแต่ละคนเบิกบานสำราญใจกับสันติสุขของพระองค์ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพตามคำสัญญาว่าจะส่งพระจิตเจ้ามาประทับอยู่กับพระศาสนจักรคือพวกเราทุกคน และยังให้คำมั่นสัญญาว่าพระองค์จะอยู่กับเราจนถึงวันสุดท้ายของโลกและไม่มีอำนาจใดๆจะมาชนะอำนาจของพระองค์ได้
            มีบ้านนักบวชหลายๆบ้านมักจะพับนกและแนบบัตรพระวาจาให้เราอ่านเกี่ยวกับพระคุณของพระจิต 7 ประการ เพื่อมอบเป็นของขวัญกำลังใจในวันเกิดของพระศาสนจักรซึ่งก็หมายถึงชีวิตคริสตชนของเราแต่ละคน  ใครได้ก็อ่านและมักจะพูดต่อว่าปีนี้ได้พระพรของพระจิตเจ้าตรงเลย ดูจะเป็นความหมายที่เสริมพลังชีวิตพระในวันที่มีความหมายของทุกคน
            สัปดาห์ที่แล้วมีประชาสัมพันธ์ในมิสซาให้พี่น้องทราบเรื่องเริ่มใช้ศาลาของวัดว่าจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนเพื่อการใช้อภิบาลเกี่ยวกับผู้ล่วงลับคริสตชน  นอกจากนี้พื้นที่ของศาลายังสามารถใช้กับผู้เป็น(ยังไม่ตาย)ได้อีกทั้งในงานสำคัญของวัดและเพื่ออำนวยความสะดวกใช้กับองค์กรต่างๆของพระศาสนจักร  และเพื่อให้ศาลาของวัดและบริเวณหน้าศาลาเป็นการใช้เพื่อกิจการของวัด ทางวัดจึงขอจัดระเบียบใหม่และเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป คือมีอนุญาตให้คณะวินเซนต์เดอปอล และเครดิตของวัดได้ใช้วางโต๊ะชั่วคราว ซึ่งเมื่อมีสถานที่อย่างชัดเจนเสร็จแล้วจะได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ในสถานที่นั้นๆต่อไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งโต๊ะกาแฟของวัดเพื่อสนับสนุนส่งเสริมพระกระแสเรียกของบ้านเณรเล็ก  องค์กรใดๆให้ขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร  เจ้าอาวาสวัดจะเป็นผู้อนุญาตหรือไม่
ดังนั้นจึงขอยกเลิกกับการวางของเพื่อจำหน่ายหรือวางโต๊ะใดๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจการของวัด ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป  จึงขออภัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับผลกระทบมาในที่นี้ด้วยและขอขอบคุณในความร่วมมือ
การประชุมสภาภิบาลของวัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีมติให้งานฉลองวัด 60 ปี มีการจัดนิทรรศการบอกเล่าเรื่องของวัดโดยภาพและคำอธิบาย  จึงขอรบกวนพี่น้องสัตบุรุษที่มีภาพประวัติศาสตร์ของวัดเซนต์หลุยส์ที่อยากบอกให้คนอื่นๆทราบมากขึ้น โปรดส่งภาพเป็นไฟล์มาที่สำนักงานวัด หรือนำสำเนารูปภาพ  เพื่อไม่ให้สูญหายหรือเสียหาย  หรือจะให้ทางวัดหรือโรงเรียนสแกนภาพให้โปรดติดต่อได้ได้ที่สำนักงานวัดหรือธุรการที่โรงเรียน  จะได้นำภาพจริงกลับบ้านได้เลย นอกจากนี้ยังขอเชิญชวนบอกบุญสำหรับการเตรียมฉลองวัดในโอกาสพิเศษนี้ได้กับคุณพ่อเจ้าวัดโดยตรง
คำทักทายครั้งนี้ดูจะเป็นงานการหน่อย แต่เพื่อให้กิจการของวัดได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเรียบร้อย


คพ.ชาญชัย
.............................................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
            นักบุญออกัสติน ได้เทศน์สอนเกี่ยวกับการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระเยซูเจ้าไว้ว่าพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเราเสด็จขึ้นสวรรค์ ให้เรายกจิตใจของเราขึ้นไปกับพระองค์ จงฟังคำของท่านอัครสาวกเปาโล ท่านกล่าวว่า "พระเจ้าให้ท่านกลับมีชีวิตขึ้นมากับพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว ดังนั้น จงปักใจอยู่กับสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระคริสตเจ้าประทับบนบัลลังก์ ณ เบื้องขวาพระเจ้า จงฝังใจกับสิ่งที่อยู่ที่นั่น ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ด้วยเหตุที่พระองค์ได้สถิตอยู่กับเรา แม้หลังจากเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว ดังนั้นเราก็อยู่ในสวรรค์กับพระองค์แล้วด้วย แม้ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญากับเรายังไม่สำเร็จในกายของเรา บัดนี้พระคริสตเจ้าทรงได้รับการเทิดทูนไว้เหนือฟ้าสวรรค์ แต่พระองค์ก็ยังทรงรับทรมานในโลก ด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเราที่เป็นอวัยวะแห่งพระกายของพระองค์ต้องรับทน พระองค์ทรงแสดงให้เห็นเมื่อพระองค์ตรัสจากเบื้องบนว่า "เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?" และเมื่อพระองค์ตรัสว่า "เมื่อเราหิว ท่านได้ให้อาหารแก่เรา"
            ทำไมเราที่อยู่ในโลก จึงไม่พยายามที่จะแสวงหาการพักผ่อนกับพระองค์ในสวรรค์เสียแต่บัดนี้ โดยทางความเชื่อ ความไว้ใจและความรักซึ่งรวมเราเข้ากับพระองค์ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในสวรรค์ พระองค์ก็ประทับอยู่กับเราด้วย และเราขณะที่อยู่ในโลก เราก็อยู่กับพระองค์ด้วย พระองค์ประทับอยู่กับเราที่นี่ โดยพระเทวภาพฤทธานุภาพและความรักของพระองค์ เราไม่สามารถอยู่ในสวรรค์ ดังที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกโดยพระเทวภาพ แต่ในพระองค์เราสามารถอยู่ในสวรรค์โดยความรักพระองค์มิได้ทรงละจากสวรรค์ เมื่อพระองค์เสด็จลงมายังเรา และพระองค์ก็ไม่ได้ทรงละจากเรา เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ ความจริงที่พระองค์สถิตอยู่ในสวรรค์ แม้ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกนั้นเป็นขึ้นโดยสภาพจากพระองค์เอง "ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระองค์ผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์ คือบุตรแห่งมนุษย์ผู้ประทับในสวรรค์" ถ้อยคำเหล่านี้ เราเข้าใจได้ โดยการที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า เหตุว่า พระองค์ทรงเป็นศีรษะของเรา และเราเป็นร่างกายของพระองค์ ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระคริสตเจ้า เราทุกคนเป็นพระคริสตเจ้าด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็นบุตรมนุษย์ โดยการรวมพระองค์เองกับเรา และโดยการรวมตัวเรากับพระองค์ เราก็เป็นบุตรของพระเจ้า ดังที่ท่านอัครสาวกกล่าวว่า "เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ซึ่งมีอวัยวะหลายส่วน แต่เป็นร่างกายเดียวเพราะอวัยวะทุกส่วนต่างกัน รวมเป็นกายเดียว ในพระคริสตเจ้าก็เช่นเดียวกัน" พระองค์ทรงมีอวัยวะหลายส่วน แต่ทรงมีเพียงพระกายเดียวด้วยความเวทนาต่อเรามนุษย์ พระองค์ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ และแม้ว่าพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์แต่ผู้เดียว เราก็ขึ้นไปกับพระองค์ด้วย เพราะว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์โดยพระหรรษทาน ดังนั้นมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จลงมา และมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จขึ้นไป ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างศีรษะและร่างกาย แต่เพราะเป็นร่างกายเดียวจึงแยกจากศีรษะไม่ได้"(นักบุญออกัสติน) ถ้าเราเข้าใจปรัชญาชีวิตของพระเยซูเจ้าดีและพยายามเข้าใจการเทิดทูนสภาวะมนุษย์ของพระองค์อย่างที่เราฉลองในวันนี้เราควรจะพยายามทดลองดู เราอาจดำเนินชีวิต รวมทั้งเรื่องเพศและความรักในชีวิตสมรส ในฐานะเป็นความจริงทางโลก เราอาจจะพัฒนาศักยภาพของเราทางโลกจนถึงความสมบูรณ์ เราอาจจะใช้วิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา ฯลฯ เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าในโลกนี้ เราอาจจะขอคำแนะนำจากผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านชีวิตแต่งงาน และจิตแพทย์ หายาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาที่หาได้ ถึงกระนั้น ในช่วงเวลาที่เราค้นพบแล้ว เรารู้ดีว่าจะต้องมีอะไรมากกว่าทั้งหมดนี้ คือมี "ความเป็นจริงที่อยู่เลยโพ้นธรรมชาติมนุษย์"

คพ. พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น