วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ 28 สิงหาคม 2016

พี่น้องที่รัก
            วันฉลองนามของนักบุญหลุยส์ กษัตริย์ ซึ่งเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของวัดของเราได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งแล้วครับ วันนี้จึงเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในรอบปีของชาวเราสัตบุรุษวัดเซนต์หลุยส์ เพราะเป็นวันฉลองวัดของเรานั่นเอง สิ่งที่น่าชื่นชมยินดีประการหนึ่งในโอกาสฉลองวัดปีนี้ก็คือว่า ปีนี้เราได้มีโอกาสต้อนรับ พระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ซึ่งมาเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณวัดของเรา นับตั้งแต่พระคุณเจ้าเกรียงศักดิ์ ได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเมื่อปีก่อน วัดของเรายังไม่มีโอกาสได้ต้อนรับพระคาร์ดินัลองค์ใหม่ของคริสตชนชาวไทยอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง โอกาสนี้จึงเป็นโอกาสที่เรารอคอย และบัดนี้ได้มาถึงแล้ว พ่อเชื่อแน่ว่าพี่น้องสัตบุรุษวัดเซนต์หลุยส์คงมีความปลาบปลื้มยินดีกันทั่วหน้า นอกจากนี้เรายังชื่นชมยินดีที่ได้มีโอกาสต้อนรับพระสงฆ์จากวัดต่างๆที่มาร่วมฉลองวัดกับเราอีกครั้งหนึ่ง ในยามที่เราเห็นภาพของพระสงฆ์จำนวนมากร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันรอบๆพระแท่นบูชา เราเห็นภาพของความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักรที่มีองค์พระเยซูคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลาง ภาพของพระศาสนจักรน้อยๆ ก็ปรากฏเด่นชัด ณ ที่แห่งนั้น ดังนั้นความยินดีนี้จึงเป็นความยินดีของสมาชิกของพระศาสนจักรที่สัมผัสได้ถึงอาณาจักรของพระเจ้าที่มาถึงตัวเราแล้วอย่างแท้จริง ความยินดีอีกประการหนึ่งคือ เรายินดีที่ได้ต้อนรับพี่น้องสัตบุรุษจากวัดใกล้วัดไกล ที่เดินทางมาร่วมฉลองนามนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์วัดของเรา การมาถึงของท่านนำความปลื้มปีติมาสู่จิตใจของเราทุกคน เพราะแสดงให้เห็นว่า ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า เราทุกคนเป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริง ภราดรภาพที่เกิดขึ้นในหัวใจของเรา แสดงให้เห็นว่าทุกคนยินดีที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในทุกโอกาส ดังนั้นพ่อจึงถือโอกาสนี้กล่าวคำว่า ยินดีต้อนรับ กับทุกๆท่านที่เดินทางมาร่วมฉลองวัดของเราในปีนี้ครับ
            หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนฉันใด วันเวลาที่ผ่านมายาวนาน เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความคงเส้นคงวา และ ความเจริญก้าวหน้าขององค์กรได้ฉันนั้น วัดของเราได้รับการเสกเมื่อปีพ.. 2500 โดยพระสังฆราชหลุยส์ โชแรง ดังนั้นปีนี้จึงเป็นการฉลองวัดครั้งที่ 59 ของวัดเซนต์หลุยส์ หมายความว่า ปีหน้าจะเป็นการฉลองวัดครั้งที่ 60 ของวัดเซนต์หลุยส์ หรือ อีกนัยหนึ่งวัดเซนต์หลุยส์เป็นศูนย์กลางฝ่ายจิตของคริสตชนในละแวกนี้กำลังจะถึง 60 ปีแล้ว แม้ว่าตามปกติการฉลองครบรอบสำคัญมักจะมีการฉลองใหญ่ในทุกๆรอบ 25 ปี ก็ตาม อย่างไรก็ดี เลข 60 ก็เป็นเสมือน หลักบอกระยะทางที่มีนัยสำคัญเช่นกันว่า 60 ปีที่ผ่านมาชุมชนแห่งความเชื่อแห่งนี้ได้เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งแค่ไหน ปีหน้าจึงเป็นปีที่ลูกวัดเซนต์หลุยส์คงจะต้องหันมามองและพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ
            เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปีวัดเซนต์หลุยส์ของเราในปีหน้าที่จะมาถึงนี้ ในแง่ของสถานที่ภายนอกทางสังฆมณฑลก็ได้เห็นชอบอนุมัติให้มีการปรับปรุงในหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างที่พี่น้องเห็น ว่ากำลังมีการก่อสร้างหลังคาคลุมลานเอนกประสงค์ และ มีการปรับปรุงศาลาหลุยส์มารี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังมีแผนการสร้างหลังคาคลุมทางเดินเชื่อมระหว่างถนนสาทรมาถึงหน้าโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา และหลังคาคลุมทางเดินเชื่อมระหว่างวัดกับศาลาหลุยส์มารี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง พี่น้องสัตบุรุษ และท้ายสุดก็มีแผนปรับปรุงพื้นผิวถนนที่ใช้สัญจรรอบบริเวณ และ ระบบไฟส่องสว่างทั่วบริเวณอีกด้วย พ่อถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณเป็นอย่างสูงมายังผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ได้ร่วมใจกันบริจาคเพื่อสมทบทุนการก่อสร้างตามจุดประสงค์ดังกล่าว
            ขอนักบุญหลุยส์กษัตริย์ ได้วิงวอนพระเจ้าเพื่อทุกท่านเป็นพิเศษในโอกาสที่มาร่วมฉลองวัดเซนต์หลุยส์ในปีนี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพครับ

พ่อสุพจน์
.................................................................................

           
อาทิตย์ที่ 28 ส.ค. 2559
            นักบุญหลุยส์ กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ( ค.ศ. 1214-1270) นักบุญหลุยส์ หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 กษัตริย์แห่งประเทศฝรั่งเศส ได้รับการอบรมเยี่ยงคริสตชนที่แกร่งกล้าจากพระมารดาบลังซ์เอดคาสตีญ บุตรีของพระนางที่มีนามว่า อีซาแบลลา ก็ได้เป็นนักบุญด้วย
     หลุยส์ ได้ทำให้กษัตริย์แห่งอุดมคติได้เกิดขึ้นจริงๆในตัวพระองค์ โดยพระองค์ได้พยายามเจริญชีวิตด้วยความเชื่อแบบคริสตชน พระองค์เป็นแบบอย่างแห่งคุณธรรมชีวิตครอบครัว แบบอย่างแท้จริงของฆราวาสคริสตชนอีกด้วย พระองค์ได้ทำให้ประเทศฝรั่งเศสได้มีความยุติธรรมขึ้นเสียใหม่ ทรงสร้างโรงพยาบาลและได้มอบที่ดินผืนใหญ่สำหรับการกุศล พระองค์เป็นตัวอย่างในเรื่องความรักต่อคนจนและคนป่วย ได้เข้าอยู่ในคณะนักบวชฟรังซิสกันขั้นที่ 3 พระองค์ได้รับการหล่อหลอมด้วยจิตตารมณ์ของนักบุญฟรังซิสในชีวิตประจำวัน พระองค์ได้ยกฐานะความรู้ของมหาวิทยาลัยซอร์บอนให้สูงขึ้น และได้เป็นคนไกล่เกลี่ยช่วยกู้แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกจับตัวไปเป็นเชลย พระองค์ได้พยายามทำตัวให้เป็นทั้งแม่ทัพที่ดี และคนพยาบาลที่ดีด้วย
            พระเยซูเจ้าทรงขับไล่วิญญาณชั่ว "ข้าแต่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด   พระองค์มายุ่งกับข้าพระองค์ทำไม   ข้าพระองค์ขอให้พระองค์สาบานในพระนามของพระเจ้าว่า   จะไม่ทรมานข้าพระองค์" พระคัมภีร์บอกเราว่า (อฟ.6.12) เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด   แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง   ศักดิเทพ   เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้   ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ ปีศาจมันรู้จักเวลาและโอกาส ผีมันทักพระเยซูว่า มายุ่งก่อนเวลาหรือยังไม่ใช่เวลาที่พระเจ้าทรงบอกไว้ ผีมันรู้ว่า ทุกวันนี้ มันมีเวลา ทุกวันนี้เป็นเวลาของมัน (วว.12.12) "แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล   เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าด้วยความโกรธยิ่งนัก   เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย "ผีมันรู้เวลาและโอกาสของมัน เพราะปัจจุบันนี้คือ "เวลาและโอกาสอันน้อยของมันที่จะล่อลวงมนุษย์ ให้พินาศไปกับพวกมัน" มันจึง "เร่งทำการ" ผีมันเร่งทำงาน, ผีมันรู้จักเวลา, กาลเวลา, ผีมันรู้จักฉวยโอกาส แต่คริสตชนหลายคนไม่รู้จัก          (อฟ.5.16) "จงฉวยโอกาส   เพราะว่าทุกวันนี้เป็น "กาลที่ชั่ว" เป็นเวลาที่พระเจ้าอนุญาตให้วิญญาณชั่วทำงานได้ขณะหนึ่ง    พระคัมภีร์จึงเตือนให้คริสตชนรีบเร่งเวลา ฉวยโอกาส เพราะขนาดผีเองมันเร่งเวลา ฉวยโอกาส  แต่ทำไม"คนของพระเจ้ากลับไม่เร่งเวลา ไม่ฉวยโอกาส" ปัจจุบัน จึงเป็นเวลาแห่งความมืด อำนาจมืด เหล่าวิญญาณชั่วกำลังเร่งทำงานใน(2ธส.2.7) บอกว่า  "เพราะว่าอำนาจลึกลับนอกกฎหมายนั้นก็เริ่มทำงานอยู่แล้ว"แม้ผีมันมีอำนาจ  แต่เราไม่ต้องกลัวมัน เพราะพระเยซูทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่กว่ามัน และพวกเราสามารถเอาชนะมันได้ (วว.12.11)  เขาเหล่านั้นชนะพญามารด้วยพระโลหิตของพระเมสิยาห์  (หมายถึง โดยการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู ผู้ที่เชื่อใน "นามพระเยซู" นั้น พระเจ้าถือว่า "โลหิตของพระเยซู" มีอำนาจเหนือวิญญาณชั่ว ผีร้าย ปลดปล่อยเขา และได้รับชีวิตนิรันดร  ปีศาจจึงอยู่ใต้สิทธิอำนาจพระเยซู เพราะพระองค์มีอำนาจในการขับไล่และปลดปล่อย ทุกวันนี้ผีมันอยู่รอบๆตัว รอบๆใจ รอบๆตา รอบๆปาก (1ปต.5.8) 8ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี   ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ   ดุจสิงห์คำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ ผีมันอยู่ในเมืองของเรา ในชุมชน  ในคนที่เชิญมันมาบวงสรวงบูชามัน! เป็นชั้นศักดิเทพ อิทธิเทพ เทพผู้ครองต่างๆ อยู่หน้าบ้านคน ศาลพระภูมิ อยู่ใต้ต้นไม้ อยู่หน้าร้านค้า แผงลอย และมันอยู่ในคน อยู่ในรอยสัก คนเล่นของอยู่ในคอเสื้อบูชารูปเคารพ อยู่รอบเอว อยู่ในผิวหนัง และอื่นๆ  และที่น่ากลัวที่สุด มันอยู่ในจิตใจคน!   สิ่งที่บ่งบอกถึงงานของผีมารที่ทำงานในจิตใจคน  เป็นลักษณะนิสัยมนุษย์ในสมัยจะสิ้นยุค  "มนุษย์จะเห็นแก่ตัว   เห็นแก่เงิน   เย่อหยิ่ง   ยโส   ชอบด่าว่า   ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา   อกตัญญู   ไร้ศีลธรรม 3ไร้มนุษยธรรม   ไม่ให้อภัยกัน   ใส่ร้ายกัน   ไม่ยับยั้งชั่งใจ   ดุร้าย   เกลียดชังความดี 4ทรยศ   มุทะลุ   หัวสูง   รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า 5ถือศาสนาแต่เปลือกนอก   ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ   คนเช่นนั้นท่านอย่าคบ"แต่จงขอบคุณพระเจ้า พระเยซูมีฤทธิ์อำนาจปลดปล่อยคนได้   ทรงช่วยได้  ขับไล่ภูตผีวิญญาณชั่วได้ทุกชนิดอำนาจในการกล่าวห้ามหรือจะอนุญาต  ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต ผีมันทำอะไรคนของพระเจ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องระวัง คือวิญญาณชั่ว มันหลอกเก่งมากๆ และคนมากมายจะหลงไปฟังวิญญาณชั่วจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจพวกพี่น้องทั้งหลายก็ประสบความทุกข์ลำบากจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า   จงต่อสู้กับมาร   และมันจะหนีท่านไปจงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า   เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้


พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น