วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2016

พี่น้องที่รัก
                วันนี้พ่อขอนำงานวิจัยชิ้นหนึ่งมานำเสนอกับพี่น้องครับ ว่ากันว่า งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยที่นานที่สุดในโลก เป็นผลงานของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ งานวิจัยชิ้นนี้ดำเนินมากว่า 75 ปีแล้ว โดยผู้ถูกวิจัยทั้ง 724 คนนั้น เหลือชีวิตรอดแค่ 60 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งผู้เหลือรอดเกือบทั้งหมด อยู่ในวัย 90 ปี ขึ้นไปทั้งนั้น แล้วอะไรบ้างหล่ะที่บรรดานักวิจัยเรียนรู้จากเรื่องราวกว่า 70 ปี ของ 700 กว่าชีวิต ผ่านทางเอกสาร และ ข้อมูลเป็นหมื่นๆหน้า
            พวกเขาเรียนรู้ว่า "ความร่ำรวย" "ความโด่งดัง" หรือ "การทำงานอย่างหนักหน่วง" ไม่ใช่คำตอบของ "การมีชีวิตที่ดี" หรือ "สุขภาพที่ดี" เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เป็น "ความสัมพันธ์ที่ดี" ต่างหากที่นำมาซึ่ง "การมีชีวิตที่ดี"
            “Good relationships keep us happier and healthier” ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้วิจัยบอกต่อว่า บทเรียนล้ำค่าที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ คือ
            1. “Connection is really good for us, loneliness kills.” คุณจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง เพื่อน ครอบครัว หรือ สังคมก็ตาม ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้จะทำให้คุณมีความสุขกว่า แข็งแรงกว่า และมีอายุที่ยืนยาวกว่า ในทางกลับกัน ความเหงา และ โดดเดี่ยวนั้นเป็นสิ่งอันตรายอย่างยิ่ง เพราะมันจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง ทำให้ร่างกายคุณเริ่มแย่ลง ตั้งแต่วัยกลางคน สมองเสื่อมเร็วขึ้น และมีชีวิตที่สั้นกว่า
            2. “Quality is not Quantity.” มันไม่สำคัญที่ปริมาณ หรือรูปแบบของความสัมพันธ์ เช่น "จะต้องแต่งงานเท่านั้น" แต่เป็น "คุณภาพของความสัมพันธ์" ต่างหาก ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีของสามีภรรยา จะส่งผลลบมากกว่า การหย่าร้างอย่างที่เข้าใจกันเสียอีก
            3. “Good relationships don't just protect our bodies they protect our brains.” ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น มั่นคง ไว้ใจได้ พึ่งพาได้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสุขภาพที่ดีเท่านั้น ยังดีต่อสมองด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้มีความทรงจำที่ดี และสมองยังคงใช้งานได้ดีอยู่ ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์ที่ราบรื่นสุดๆ ไม่ทะเลาะกันเลย แต่เป็นความสัมพันธ์ที่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องการจริงๆ เราจะมีคนที่พึ่งพาได้
            ผู้วิจัยงานชิ้นนี้มีชื่อว่า โรเบิร์ต วาล์ดินเจอร์ กล่าวเสริมว่า ผู้ถูกวิจัยเหล่านี้ในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น หรือเริ่มเป็นผู้ใหญ่ใหม่ๆนั้นก็เชื่อเหมือนกับที่คนในยุคนี้ว่า "ชื่อเสียง เงินทอง" จะทำให้พวกเขา "ประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่ดี" แต่ความจริงจากการศึกษากว่า 75 ปี กลับกลายเป็นว่า คนที่ให้ความสำคัญกับ "ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง" ต่างหาก คือคนที่มีชีวิตที่ดีที่สุด
            สิ่งที่ทำให้คนเรามองข้าม "ความสัมพันธ์ที่ดี" แล้วหันไปใส่ใจกับ "ชื่อเสียง เงินทอง" หรือ "หน้าที่การงาน" อาจเป็นเพราะ การมีความสัมพันธ์ที่ดีนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยาก และไม่รู้จบ แถมยังต้องได้รับการใส่ใจตลอดเวลา จนหลายคนเลือกจะ "ทำงานหาเงิน" อย่างเดียว แต่การเอาใจใส่และการทำความสัมพันธ์ให้ดีไม่ได้ยากขนาดนั้น แค่เงยหน้าจากจอมือถือ แล้วสบตาคนรอบตัวให้มากขึ้น หาอะไรใหม่ๆทำร่วมกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์ที่จืดจางกลับมามีสีสันอีกครั้ง ทำอะไรง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเงิน เช่นชวนคนรักไปเดินเล่น หรือ ติดต่อญาติที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว เพราะชีวิตเรานั้น "มาร์ก เทวน" บอกว่า มันช่างสั้นนัก แล้วก็สั้นเหลือเกิน สั้นเกินกว่าที่จะมาโกรธกัน ทะเลาะกัน หรือ อิจฉาริษยากัน ควรมีแต่เวลารักกันเท่านั้น ซึ่งแค่นี้มันก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว
            จริงไหมครับ

พ่อสุพจน์
.............................................................................................
อาทิตย์ที่ 14 ส.ค. 2559
            สหัสวรรษใหม่ ช่างเป็นพยานถึงความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น เกือบจะไม่มีวันไหนเลยที่ผ่านไปโดยไม่ได้ยินข่าวร้ายของการใช้ความรุนแรง การบุกรุก ประทุษร้ายผู้บริสุทธิ์ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งในโลกนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้กระทำการเหล่านี้พยายามสร้างความยุติธรรมให้ตนเอง ว่าเป็นการต่อสู้ในสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ลองทบทวนถึงสงครามครูเสด สงครามของตาลีบันในอัฟกานิสถาน อัลกออิดะในอิรัค และกองทัพในอูกานดา มิใช่การทำสงครามกับบุคคลอื่นแต่เป็นสงครามกับบาปและความชั่วร้ายในตัวมนุษย์เอง ไม่ใช่สงครามกับคนที่เราเห็นว่าชั่วร้าย เห็นว่าเป็นปีศาจ แต่เป็นสงครามกับตัวปีศาจเองซึ่งอาจเป็นตัวเราเองก็ได้
            ท่านคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติสุขมาให้โลกนี้หรือ? เปล่าเลย เราบอกต่อท่านทั้งหลาย เรานำความแตกแยกมาให้ต่างหาก ตั้งแต่นี้ไปคนห้าคนในบ้านหนึ่งจะแตกแยกกัน คนสามคนจะแตกแยกกับคนสองคน และคนสองคนจะแตกแยกกับคนสามคน บิดาจะแตกแยกกับบุตรชาย และบุตรชายจะแตกแยกกับบิดา มารดาจะแตกแยกกับบุตรหญิง และบุตรหญิงจะแตกแยกกับมารดา มารดาของสามีจะแตกแยกกับบุตรสะใภ้ และบุตรสะใภ้จะแตกแยกกับมารดาของสามี นักปราชญ์สอนเราว่า ที่พระเยซูเจ้าตรัสนี้มิใช่สาเหตุที่พระองค์เสด็จมา แต่เป็นผลตามมาจากการเสด็จมาของพระองค์ เป็นผลที่หลีกเลี่ยงมิได้จากการเสด็จมานี้ พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยว่าจะมีการแบ่งแยกเป็น 2 พวก บุตรและธิดาที่แท้จริงของพระเจ้า ซึ่งฟังพระวาจาของพระเจ้า เป็นพวกหนึ่งและบุตรชายหญิงของโลก ที่ต่อต้านพระประสงค์ของพระเจ้าจะเป็นอีกพวกหนึ่ง การแบ่งแยกนี้ จักทำให้มนุษยชาติแบ่งเป็น 2 กลุ่มกลุ่มของพระเจ้า และกลุ่มของผู้ไม่ศรัทธาพระเจ้า ความแตกแยกนี้จะคงอยู่ชั่วนิรันดร เป็นสงครามระหว่าง 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะยกโลกขึ้นไปหาพระเจ้าขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง พยายามดึงโลกลงสู่โลกันต์ ประชากร 2 กลุ่มนี้ มิได้แยกกันอยู่ในส่วนที่ต่างกันของโลกสองกลุ่มนี้อาศัยร่วมกัน อยู่ติดๆกัน ข้างๆกัน ในละแวกเดียวกัน ในหมู่บ้านเดียวกันแม้แต่อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน
            สงคราม เป็นพลังชั่วร้าย ที่พระเจ้าทรงเรียกเราเข้ามามิใช่ทำสงครามเพื่อต่อสู้กับคนเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่ง ผู้คนในวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่ง ผู้คนในความเชื่อศรัทธาใด ความเชื่อศรัทธาหนึ่ง หรือกับบุคลอันเป็นที่รักของเรา บิดา บุตร มารดา ธิดา แม่สามี ลูกสะใภ้ ของเรา แต่จงประกาศสงครามอย่างเด็ดขาด โดยไม่ผ่อนปรนกับพลังความชั่วเหล่านั้น พลังชั่วร้าย ที่เราต่อต้านนี้ มีอะไรบ้าง ? คือการต่อสู้กับ พยศชั่วบาป 7 ประการความหยิ่งยโส อวดดี ปมเขื่องความโลภ ความตระหนี่  แสวงหาวัตถุทางโลก โดยขายวิญญาณของตน ราคะ การล่วงประเวณี วัตถุลามกอนาจาร การใช้เพศหญิงเป็นวัตถุทางเพศหรือปล่อยตัวตามกามรมย์ ความโกรธ พยาบาท ความขมขื่น เกลียดชัง ความแค้น ความตะกละ กิน และ ดื่ม มากเกินไป ความริษยา เกลียดตัวเอง เกลียดคนอื่น เกลียดคู่แข่งความเฉื่อยชา เกียจคร้าน หาความสบายโดยไม่ทำงานและจงเพิ่มมารดาของความชั่วทั้งหลายเข้าไปด้วย คือความอยุติธรรม หากเราประกาศสงครามกับสิ่งเหล่านี้เรากำลังร่วมในสงครามศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า เมื่อเราอยู่ในสงครามนี้แล้ว เราจงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ศัตรูต้องต่อต้านขัดขืน และต่อสู้กลับคืนแน่นอนเราจะประสบกับความยากลำบาก ปัญหาอุปสรรคและอันตราย ประกาศกเยเรมีย์ก็ร่วมในสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้กับประกาศกเท็จเทียม ยืนหยัดอยู่กับความจริงพระเจ้า ไม่เคยทอดทิ้งคนของพระองค์ จงทำสงครามต่อสู้กับความชั่วร้ายในตัวเราเอง และในโลกนี้ ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ที่ทรงอดทนต่อการคัดค้านเช่นนี้ของคนบาป ท่านจะได้ไม่ท้อถอยหมดกำลังใจในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย” (ฮีบรู12:3-4)พระเจ้าทรงชำระทุกสิ่งให้สะอาดและมีสันติภาพนิรันดร

พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น