วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2016

พี่น้องที่รัก
                วันนี้เป็นวันฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ ตามประเพณีการฉลองดั้งเดิม วันฉลองนี้จะมีขึ้นตรงกับวันที่ 40 ภายหลังจากวันฉลองการกลับคืนชีพของพระเยซู  วันฉลองวันนี้ช่วยให้เรามองเห็นอะไรที่สำคัญบ้าง
                ประการแรก เราทราบว่า ภารกิจของพระเยซูบนโลกนี้สำเร็จลงแล้ว
                การลงมาบังเกิดของพระเยซูในโลกนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลก เช่นเดียวกับการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ ทั้งสามเหตุการณ์ถือว่าเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกเอาไว้ เช่นเดียวกับการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซู ถือว่าเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญยิ่งใหญ่ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกของเรา เพราะพระองค์เสด็จกลับไปหาพระบิดา พระองค์ได้เคยกล่าวเอาไว้แล้วว่าวันเวลานี้จะมาถึง และบัดนี้วันเวลานี้ก็มาถึงแล้ว พระเยซูได้ให้บทสอนที่ล้ำค่ากับเรากล่าวคือ ทุกสิ่งที่พระองค์ได้กระทำบัดนี้สำเร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีภารกิจใดๆต้องซ่อมเสริมอีก ไม่ต้องมีเอกสารใดๆรับรองอีก ไม่ต้องกล่าวคำใดๆเพิ่มเติมอีก ทุกสิ่งได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว
                ประการที่สอง เราเฉลิมฉลองพิธีบูชาขอบพระคุณ หรือ พิธีศีลมหาสนิทเพื่อรอการเสด็จกลับมาของพระองค์
                พิธีบูชาขอบพระคุณช่วยเตือนใจเราแต่ละคนให้ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ การกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซู พระคัมภีร์บอกกับเราว่า "ตราบใดที่ท่านรับประทานปังนี้ และ ดื่มถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีก" ดังนั้นพิธีบูชาขอบพระคุณจึงเป็นส่วนของการประกาศถึงการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์เรื่อยไป ในขณะเดียวกันเรายังรอคอยเรื่อยไปสำหรับการเสด็จกลับมาของพระองค์  การเป็นพยานยืนยันถึงการสิ้นพระชนม์และการเสด็จกลับคืนชีพของพระเยซูของเรานั้นก็เป็นการยืนยันถึงความสำคัญของการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์อีกด้วย
                ประการที่สาม เราต้อนรับการมาประทับอยู่ขององค์พระจิตเจ้า
                ภายหลังการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูไม่นานนัก เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณขนานใหญ่ในหมู่คริสตชน บรรดาสานุศิษย์ของพระเยซูที่ขลาดกลัว กลับกลายเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น เปี่ยมล้นไปด้วยพรแห่งการรักษา ประกาศข่าวดี และ กระทำกิจการที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย ถามว่าอะไรที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ คำตอบคือ องค์พระจิตเจ้า พระเยซูได้ทรงสัญญาว่า พระองค์จะส่งพระจิตเจ้ามายังพวกเขา เป็นการแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่ในผู้ที่มีความเชื่อ การเสด็จมาของพระจิตเจ้านั้นเป็นเหตุการณ์สืบต่อเนื่องมาจากการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซู และจากนี้ไปด้วยการประทับอยู่ของพระจิตเจ้าในชีวิตของเรา เราต่างก็ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญในการออกไปสร้างศิษย์ให้กับพระเยซูโดยพลังที่พระองค์มอบให้กับเรา
                ประการที่ 4 เราได้เรียนรู้จักบทบาทในการเป็นพระมหาสงฆ์ของพระเยซู
                ถ้าไม่มีการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซู ก็คงไม่มีการที่พระเยซูทรงวอนขอเพื่อเรา (รม 8:34) นักบุญเปาโลเขียนเอาไว้ว่า "พระองค์ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า พระองค์ทรงวอนขอเพื่อเราทุกคน" เป็นเรื่องน่ายินดีที่เราทราบว่า พระคริสตเจ้าทรงวิงวอนขอเพื่อเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
                ประการที่ 5 เรารอคอยการเสด็จกลับมาของพระคริสตเจ้า
                เมื่อพระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ พระองค์ทรงสัญญาว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่นี้จึงเป็นเวลาที่เรารอคอยการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์ ถ้อยคำแรกที่ได้รับการบันทึกไว้ภายหลังการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูนั้นเป็นถ้อยคำจากบรรดาเทวดาที่มาเฉลิมฉลองเหตุการณ์นี้ "พระเยซู ผู้ที่ได้จากท่านไปยังสวรรค์ จะเสด็จกลับมาอย่างที่ท่านได้เห็นพระองค์เสด็จไปสู่สรวงสวรรค์นั้นแหละ" ถ้อยคำนี้เป็นคำสัญญาที่บรรเทาใจเราเสมอไปในชีวิตประจำวันของเราอีกทั้งยังดลใจให้เราได้ประกาศข่าวดีนี้ไปยังเพื่อนพี่น้องอีกด้วย
                ประการที่ 6 เรามองล่วงหน้าไปยังสถานที่ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ให้กับเรา (ยน 14:2-3)
                พระเยซูเคยตรัสเอาไว้ว่า "เรากำลังไปเตรียมที่ให้ท่าน และ เมื่อเราไป และเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปอยู่กับเราด้วย เพื่อว่าเราอยู่ที่ใด ท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย" พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์เพื่อไปเตรียมที่สำหรับเรา แม้ว่าเราไม่ทราบถึงการเตรียมของพระองค์นั้นว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยเราก็มั่นใจว่าเรามีความหวังยิ่งใหญ่ที่รอเราอยู่
                พี่น้องที่รัก การเฉลิมฉลองการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูนี้จึงเสริมสร้างคุณค่าทางใจให้กับเราเป็นอย่างมาก เพราะการรำลึกถึงพระธรรมล้ำลึกของพระองค์ประการนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับความเชื่อของเราและช่วยให้การดำเนินชีวิตของเรามีความศรัทธาเพิ่มพูนยิ่งขึ้นในองค์พระเจ้าครับ

พ่อสุพจน์
....................................................................................................................

ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : Take off ที่ดอนเมือง

อาทิตย์นี้ พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์
สวรรค์เป็นไง เราไม่รู้ สวรรค์เป็นไง เราไม่เคยเห็น
สวรรค์เป็นสถานที่ยังไง เราไม่เคยไป เราอยากไป
แต่...ขออีกสักพัก เราไม่รีบ

สวรรค์คงเป็นสถานที่ที่ดี เราเชื่อ แม้ไม่เคยไป
สวรรค์คงน่าอยู่น่าไป เราเชื่อ แม้ไม่เคยอยู่เคยไป
บนสวรรค์คงดีกว่าบนโลกนี้ เราเชื่อ และเราอยากไป

ที่ใกล้หมู่บ้านเบธานี พระเยซูกลับไปสวรรค์
เราคริสตชนมีความหวังว่าจะไปอยู่กับพระองค์บนนั้นด้วย

#สวรรค์ถูกแทนในภาพจำของเราว่าคือท้องฟ้า

ในวันสามสิบต้นต้น ผมได้นั่งเครื่องบินครั้งแรก
ด้วยความตื่นเต้น ผมบอกหลายคนว่าจะมีโอกาสนั่งเรือบิน

ตื่นเต้นทำไม?? บินแค่ในประเทศ
ฉันก็เคยนั่ง ธรรมดา เฉยเฉยนะ
ผมเคยนั่งไปถึงยุโรป ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน

การอยู่บนเรือบิน มันอาจจะเป็นความรู้สึกธรรมดาของใครหลายคน
ผมตื่นเต้น ตื่นเต้นแบบจริงจัง  ไม่ใช่ เพราะนี่คือการได้นั่งเรือบิน
แต่เพราะนี่เป็นครั้งแรก... ครั้งแรกที่จะได้อยู่บนฟ้า-ทั้งทั้งที่ยังไม่ตาย
แต่เพราะนี่เป็นครั้งแรก... ครั้งแรกที่จะได้หายใจใกล้เมฆ และมีฟ้าอยู่ใต้เท้า
ฟ้าสถานที่ตามจินตนาการในวัยเด็ก ว่า มันคือ สวรรค์-ที่ประทับของพระเจ้า

สำหรับผม การได้อยู่บนเรือบิน
การได้อยู่บนความสูงเหนือพื้นโลกขนาดนี้ จึงถือเป็นเรื่องพิเศษ
เพราะต่อมจินตนาการมันพาผมไปไกล ด้วยความฝันที่ว่า
จากตรงนี้ ผมคงได้อยู่ใกล้สถานที่ที่พระเจ้าประทับมากขึ้นแค่นั้นเอง!!!”


บาทหลวงบางกอก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น