วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015

พี่น้องที่รัก
                การจัดงานฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราในปีนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอีกวาระหนึ่ง ทั้งในเย็นวันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นวันฉลองภายใน หรือเป็นวันสุกดิบก่อนจะถึงวันฉลองจริง หรือจะว่าไปแล้วเป็นการซ้อมใหญ่ในด้านพิธีกรรม และ พิธีการต่างๆก็ได้ อีกทั้งเรายังมีโอกาสได้แห่พระรูปนักบุญหลุยส์องค์อุปถัมภ์วัดของเรา สำหรับพี่น้องสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีในรอบเย็นก่อนวันฉลองจริง ช่วยเพิ่มพูนความศรัทธาต่อท่านนักบุญหลุยส์ กษัตริย์ ในหัวใจของพี่น้องสัตบุรุษได้เป็นอย่างดี
            สิ่งที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งในงานวันฉลองวัดของเราปีนี้ก็คือ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ซึ่งปีนี้พระคุณเจ้าตอบรับมาเป็นประธานในพิธีฉลองวัดของเราอีกครั้งหนึ่ง เราจะเห็นว่าแม้พระคุณเจ้าจะมีอายุอานามถึง 86 ปีแล้ว พระเป็นเจ้ายังอำนวยพระพรให้พระคุณเจ้ายังกระฉับกระเฉง มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง อย่างที่ยากนักจะหาคนวัยเดียวกันมาเทียบได้ ที่สำคัญไปกว่านั้น บทเทศน์ โวหาร คารมคมคาย ของพระคุณเจ้ายิ่งวันยิ่งไพเราะ สร้างแรงบันดาลใจ และ เตือนสอนสัตบุรุษได้อย่างลุ่มลึก ทันสถานการณ์อยู่เสมอ  คำสอนของพระคุณเจ้ามีชัย คงจะดำรงอยู่ในใจของชาวเราเสมอไป
            มีพี่น้องสัตบุรุษทั้งที่มาจากต่างวัด ต่างสังฆมณฑล มาร่วมพิธีฉลองกันคับคั่ง เรียกว่าทำให้อาณาบริเวณวัดของเราที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีพี่น้องสัตบุรุษผู้มีจิตศรัทธาเต็มพื้นที่ จนดูเสมือนว่าพื้นที่วัดของเราเล็กลงไปถนัดใจ ขนาดที่ว่าขบวนแห่พระรูปนักบุญหลุยส์ดำเนินมาจวนจะครบรอบแล้ว ท้ายขบวนยังรออยู่ที่บริเวณหน้าวัดอยู่เลย ภาพของผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันมาร่วมฉลองวัดของเรายังผลให้ความเชื่อความศรัทธาในพระเจ้าของชาวเรามั่นคงเข้มแข็งยิ่งขึ้น
            พ่อขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณมายัง คณะกรรมการสภาภิบาลวัดเซนต์หลุยส์ คณะพลมารี คณะนักขับร้อง กลุ่มผู้อ่านพระคัมภีร์ กลุ่มเด็กช่วยมิสซา อาสาสมัครผู้ช่วยแบกบุษบกจากโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ อาสาสมัครผู้ช่วยเก็บถุงทาน โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ กลุ่มองค์กรต่างๆ และ ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดงานฉลองวัดทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมด้วยช่วยกันในงานฉลองวัดครั้งนี้ ขอขอบคุณพี่น้องสัตบุรุษที่ได้ร่วมใจกันบริจาคสมทบทุนการจัดงานฉลองวัดทุกท่าน และ ขอขอบคุณ พี่น้องผู้มีน้ำใจดีเป็นเจ้าภาพจัดอาหารอร่อยๆ หลากหลายชนิด สำหรับการจัดเลี้ยงอาหารเที่ยงให้กับพี่น้องสัตบุรุษที่มาร่วมฉลองวัดในปีนี้ ขอพระเป็นเจ้าโปรดตอบแทนน้ำใจดีของทุกท่านอย่างบริบูรณ์ ร้อยเท่าพันทวีครับ
พ่อสุพจน์
......................................................................................

สวัสดีครับพี่น้อง
ขงจื๊อวางหลักการครองชีวิตและการวางตัวไว้ให้บุคคลทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ครองแผ่นดินหรือเป็นเพียงผู้ครองเรือนท่านดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ปฏิบัติตัวอยู่ในหลักจริยธรรมตามที่ท่านเองสอน ท่านอุทิศเวลาจวบจนบั้นปลายของชีวิตให้กับการเรียนและการสอนคุณธรรม และศึกษา ขงจื๊อมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการสอนสองประการ คือ ต้องการจะยกระดับจิตใจของคน และสร้างความสามัคคีในสังคม การที่จะบรรลุจุดหมายทั้งสองบุคคลต้องเริ่มที่ตนเองก่อน ขั้นแรกจะต้องศึกษาเล่าเรียนเพื่อขัดเกลาจิตใจของตน ในขั้นต่อมาจะต้องใช้คุณธรรมเป็นหลักประจำใจเมื่อต้องติดต่อกับผู้คน หัวข้อสำคัญของปรัชญาขงจื๊อได้แก่หลักการปกครอง ขงจื๊อมุ่งสอนชนชั้นปกครองเพราะท่านคิดว่า ถ้านักปกครองทำหน้าที่ของตนโดยใช้หลักจริยธรรมและวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ราษฎรแล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ส่วนราษฎรก็ต้องเชื่อฟังผู้ปกครอง เป็นหลักปฏิบัติที่ต่างฝ่ายต่างมีพันธะต่อกัน
ชาวฟาริสีและชาวยิวโดยทั่วไปย่อมถือขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ เขาไม่กินอาหารโดยมิได้ล้างมือตามพิธีก่อน เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่กินอาหารเว้นแต่จะได้ทำพิธีชำระตัวก่อน เขายังถือขนบธรรมเนียมอื่น ๆ อีกมาก เช่น  การล้างถ้วย จานชามและภาชนะทองเหลือง “ทำไมศิษย์ของท่านไม่ปฏิบัติตามขนมธรรมเนียมของบรรพบุรุษและทำไมเขาจึงกินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาดเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “ประกาศกอิสยาห์ได้พูดอย่างถูกต้องถึงท่าน คนหน้าซื่อใจคด ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปากแต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา   เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย เขาสั่งสอนบัญญัติของมนุษย์เหมือนกับเป็นสัจธรรม แต่  “ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือขนบธรรมเนียมของมนุษย์” แล้วพระองค์ทรงเสริมว่า “ท่านช่างชำนาญในการละเลยบทบัญญัติของพระเจ้า เพื่อถือขนบธรรมเนียมของท่านเองเสียจริง ๆ”  สิ่งที่บริสุทธิ์และสิ่งที่เป็นมลทินพระองค์ทรงตรัสว่า “ทุกคนจงฟังและเข้าใจเถิด  ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ทำให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์นั้นแหละทำให้เขามีมลทิน  ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด” อาหารทุกชนิดไม่เป็นมลทิน พระองค์ยังตรัสอีกว่า “สิ่งที่ออกจากภายในมนุษย์นั้นแหละทำให้เขามีมลทิน  จากภายในคือจากใจมนุษย์นั้นเป็นที่มาของความคิดชั่วร้าย การประพฤติผิดทางเพศ การลักขโมย การฆ่าคน  การมีชู้  ความโลภ การทำร้าย การฉ้อโกง การสำส่อน ความอิจฉา การใส่ร้าย ความหยิ่งยโส  ความโง่เขลา  สิ่งชั่วร้ายทั้งหมดนี้ออกมาจากภายในและทำให้มนุษย์มีมลทิน” ด้วยมุมมองที่แตกต่างกันเช่นนี้ พระองค์จึงตอบคำถามของพวกเขาโดยอ้างคำพูดของประกาศกอิสยาห์ที่กล่าวตำหนิประชาชนในสมัยนั้นที่นับถือพระเจ้าแต่ปาก ส่วนหัวใจนั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์ยิ่งนัก (อสย 29:13) พูดง่าย ๆ คือพระองค์ทรงตำหนิพวกเขาว่า ปากกับใจไม่ตรงกันหรือ คนหน้าซื่อใจคด” คนหน้าซื่อใจคด มาจากภาษากรีก hupokrites (ฮูปอครีแตส) เดิมหมายถึง ผู้ตอบ” แล้วพัฒนาเป็น ผู้ตอบเป็นชุด เป็นบทสนทนา” ซึ่งได้แก่ นักแสดง”  และท้ายที่สุดหมายถึง ผู้ที่ใช้ชีวิตเหมือนนักแสดงโดยไม่มีความจริงใจหลงเหลืออยู่เลยผู้ใดก็ตามที่เห็นศาสนาเป็นเรื่องของการถือตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อกำหนด และจารีตพิธีต่าง ๆ ที่สุดแล้วจะลงเอยแบบเดียวกันคือเป็น คนหน้าซื่อใจคด” เหตุผลคือ เขาเชื่อว่าตนเองเป็น คนดี” เพราะได้ ปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างครบถ้วนเคร่งครัดแล้ว จึงไม่สนใจว่าความคิดและจิตใจของตนจะเป็นอย่างไร ! ตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งอาจจะเกลียดชังเพื่อนบ้านแบบเข้ากระดูกดำ มีจิตใจอิจฉาริษยาและเย่อหยิ่งจองหองอวดดี  แต่ตราบใดที่เขาถือกฎเกณฑ์เรื่องการล้างมือและระมัดระวังตัวไม่ให้มีมลทิน ตราบนั้นยังถือว่าเขาเป็น คนดี” และได้รับใช้พระเจ้าแล้ว จริงอยู่เขาอาจรับใช้พระองค์ภายนอกแบบนักแสดง  แต่ภายในจิตใจนั้นเขาไม่ได้เชื่อฟังพระองค์เลยนี่คือ คนหน้าซื่อใจคด” ! ขอให้เราสรรเสริญพระเจ้าด้วยน้ำใสใจจริง ด้วยชีวิตจิตใจที่ใสซื่อและรักพี่น้องอย่างแท้จริง

คพ.พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น