วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม 2014

พี่น้องที่รัก
                พี่น้องครับพิธีฉลองวัดประจำปี ค.. 2014 จะมาถึงในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคมนี้ ดังนั้นเราเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเดียวสำหรับการจัดเตรียมงานฉลองวัดประจำปีของเราครับ ในปีนี้พ่อได้เรียนเชิญพระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวานิช มาเป็นประธานในพิธีฉลองวัดของเรา และตามที่เราเคยปฏิบัติกันมา ก่อนการฉลองวัดเราจะเชิญพระสงฆ์มาเทศน์เตรียมจิตใจพี่น้องสัตบุรุษล่วงหน้าก่อน 3 สัปดาห์นั้น ในปีนี้พ่อได้เชิญ คุณพ่ออนุรัตน์ ณ สงขลา มาเทศน์ในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม  และ คุณพ่อประเสริฐ ตรรกเวศม์ มาเทศน์ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม และ คุณพ่อสานิจ สถะวีรวงส์ มาเทศน์ในวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม เพียงแต่ปีนี้คุณพ่อทั้งสามจะมาเป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณและเทศน์ในพิธีมิสซารอบ 10.00 นาฬิกาเท่านั้นครับ
                สำหรับการฉลองภายในของวัดเซนต์หลุยส์ของเรา จะมีในวันที่ 23 สิงหาคม เวลา 17.30 ประธานในพิธีคือ คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์ หลังพิธีมีการแห่พระรูปนักบุญหลุยส์

พ่อสุพจน์
ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ
(ต่อจากคราวที่แล้ว)
เทวดากับดอกกุหลาบ
                มีชาวนาผู้จนยากคนหนึ่ง ตั้งใจว่าจะไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณทุกวันตลอดชีวิตของเขา  เช้าวันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินข้ามทุ่งนาที่เต็มไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนไปทุกแห่งหน เพื่อมุ่งไปยังวัด เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังเขา เขาจึงเหลียวกลับไปมอง เขาเห็นเทวดารักษาตัวถือตะกร้าที่มีดอกกุหลาบวางอยู่เต็มตะกร้า ส่งกลิ่นหอมอบอวล "เห็นไหม" เทวดากล่าว "ดอกกุหลาบเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกๆฝีก้าวของท่านที่เดินมุ่งหน้าไปยังวัดเพื่อร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ดอกกุหลาบแต่ละดอกนี้แสดงถึงรางวัลแห่งสิริมงคลที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับท่านในสวรรค์ แต่อย่างไรก็ดีพระพรที่ท่านได้รับจากการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นมากมายมากกว่ายิ่งนัก"

ทำอย่างไรถึงจะทำให้ธุรกิจของเราเจริญก้าวหน้าเกิดผลงอกงาม
                เพื่อนนักธุรกิจสองคนอาศัยอยู่ในเขตเมืองเดียวกันในประเทศฝรั่งเศส ทั้งสองทำธุรกิจชนิดเดียวกัน ในขณะที่คนหนึ่งประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง ส่วนอีกคนธุรกิจฝืดเคืองแทบจะชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้ว่าเขาจะทำงานหนักกว่าและตื่นเช้ากว่าเพื่อนของเขา
                หลังจากมาพบปะสนทนากันในเรื่องราวต่างๆแล้ว เพื่อนคนที่ธุรกิจฝืดเคืองตัดสินใจปรึกษาขอคำแนะนำจากเพื่อนอีกคนที่ทำธุรกิจเจริญรุ่งเรืองกว่าเพื่อหวังจะขอเคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
                "เพื่อนรักเอ๋ย" นักธุรกิจที่มั่งคั่งกล่าว "ฉันไม่มีเคล็ดลับอะไร ฉันทำงานเท่าๆกันกับที่ท่านทำ แต่ถ้าจะมีอะไรที่แตกต่างกันไปบ้าง ก็มีเพียงแต่ว่า ฉันไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณทุกวัน ส่วนเธอไม่ได้ไป ฉะนั้นเธอจงทำตามคำแนะนำของฉันเถิด ไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณทุกๆเช้า และ ฉันมั่นใจว่าพระเจ้าจะอำนวยพระพรกิจการงานของท่าน"

                แล้วเพื่อนนักธุรกิจที่จนกว่าก็ทำตามคำแนะนำที่ได้รับ และไม่นานหลังจากนั้น ปัญหาอุปสรรคที่เขาเผชิญอยู่ก็จบลงโดยไม่ทราบสาเหตุ และ ธุรกิจของเขาก็เจริญเติบโตมั่งคั่งเกินกว่าความคาดหมายของเขาเสียอีก
.................................................................................................................
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา
อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับชายคนหนึ่งที่หว่านข้าวพันธุ์ดีในนาของตน  ขณะที่ทุกคนนอนหลับ ศัตรูก็มาหว่านข้าวละมานทับลงบนข้าวสาลีแล้วจากไป  เมื่อต้นข้าวงอกขึ้นจนออกรวง ข้าวละมานก็ปรากฏแซมอยู่ด้วย  บรรดาผู้รับใช้จึงไปหานายถามว่า นายครับ นายหว่านข้าวพันธุ์ดีในนามิใช่หรือ แล้วข้าวละมานมาจากที่ใดเล่า นายตอบว่า ศัตรูมาหว่านไว้ ผู้รับใช้จึงถามว่า นายต้องการให้เราไปถอนมันไหม  นายตอบว่า อย่าเลย เกรงว่าเมื่อท่านถอนข้าวละมาน ท่านจะถอนข้าวสาลีติดมาด้วย  จงปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกงามขึ้นด้วยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว แล้วฉันจะบอกคนเก็บเกี่ยวว่า จงเก็บข้าวละมานก่อน มัดเป็นฟ่อน เผาไฟเสีย ส่วนข้าวสาลีนั้น จงเก็บเข้ายุ้งของฉัน’”

พี่น้องครับ พระวาจาของพระเจ้าอาทิตย์นี้ พูดถึงความแตกต่างของ ข้าวละมาน กับ ข้าวสาลี  ข้าวละมานเป็นข้าวพันธุ์ไม่ดี ส่วนข้าวสาลีเป็นข้าวพันธุ์ดี
ข้าวละมาน น่าจะหมายถึง สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายที่ปะปนกันอยู่ในสังคมของเรา หากถ้าจะนึกถึงชีวิตของเราแต่ละคน ก็น่าจะหมายถึง ความบกพร่อง ความไม่ดีต่างๆ  ส่วนข้าวสาลี น่าจะหมายถึง สิ่งที่ดีๆ ทั้งหลายที่เราได้กระทำให้บังเกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ซึ่งจากพระวาจาตอนนี้น่าจะเป็นข้อคิดให้กับเราว่า

·       ในชีวิตของเราและในสังคมของเรามีทั้งสิ่งดี และ สิ่งไม่ดีปะปนกัน
·       พระเจ้าทรงอดทน และรอคอย ให้คนที่ไม่ดีมีเวลาเปลี่ยนแปลงตนเอง และมีเวลากลับใจเสมอ
·       ศัตรูของเรา คือ ปีศาจ มันพยายามจะทำให้ความชั่ว ชนะความดี พยายามทำให้เราซึ่งเป็นลูกของพระทำในสิ่งที่ไม่ดี และพยายามทำให้เราหลงทางอยู่เสมอ

                ดังนั้น ขอให้เราเสริมสร้างความดีให้เกิดขึ้น ขจัดความไม่ดีต่างๆ ด้วยความดี นั่นคือแสดงออกมาด้วยความรักให้ปรากฏแก่ทุกคน  และพยายามไม่ตัดสินกันและกันด้วยความคิด หรือ อคติของเรา แต่ขอให้เราได้มองคนอื่นด้วยใจกว้าง ไม่ตัดสินคนอื่นด้วยเบาความ แต่ขอให้เราให้โอกาสแก่ผู้ที่ทำผิดได้ปรับปรุงแก้ไข บนพื้นฐานแห่งความรักและการให้อภัย และที่สุดขอเพียงเราเจริญชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า ทำสิ่งดีดีให้เกิดขึ้น โดยการนำความรักไปสู่ผู้อื่นในสังคม ชีวิตเราก็จะมีแต่ความสุข สังคมก็จะน่าอยู่เสมอไป
คพ.วิทยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น