วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2013

พี่น้องที่รัก
            มีเรื่องน่ายินดีที่จะเล่าสู่กันฟัง คือเมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นิตยสารไทม์แมกกาซีน ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อสังคมอย่างสูงฉบับหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ได้รับเลือกให้เป็นบุคคลแห่งปี ประจำปี ค.. 2013 ของนิตยสารฉบับดังกล่าว เหตุผลที่นิตยสารฉบับดังกล่าวให้ไว้คือ "พระองค์เป็นพระสันตะปาปาที่ติดดิน พระองค์นำองค์กรพระศาสนจักรที่ใหญ่ที่สุดนี้ให้อุทิศตนด้วยการเผชิญกับปมปัญหาต่างๆบนพื้นฐานของความเมตตาเพื่อรักษาดุลยภาพในการอยู่ร่วมกันไว้บรรณาธิการบริหารของนิตยสารฉบับนี้ ให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า "พระองค์เลือกนามของนักบุญฟรังซิส ซึ่งเป็นนักบุญที่สุภาพถ่อมตนมาเป็นพระนามของพระองค์ และ ประกาศว่าพระศาสนจักรมีหน้าที่ในการเยียวยารักษาบาดแผลเรื้อรังต่างๆ"
            วาติกัน ดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นนักกับข่าวใหญ่นี้ คุณพ่อ เฟเดริโก ลอมบาร์ดี โฆษกของสำนักวาติกันกล่าวว่า "พระสันตะปาปาไม่ได้ปรารถนาจะได้รับการยกย่องให้เกียรติเป็นพิเศษแต่อย่างใด เพราะพระองค์ไม่ได้ต้องการเป็นผู้มีชื่อเสียงด้วยการยกย่องให้เกียรติเหล่านี้ แต่ถ้าการได้รับการเลือกให้เป็นบุคคลแห่งปีจะเป็นหนทางช่วยให้การประกาศข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าเผยแผ่ไปยังทุกๆคนในโลกได้ พระสันตะปาปาก็คงจะทรงพอพระทัยเกี่ยวกับเรื่องนี้"
            ด้วยเวลาเพียง 9 เดือนเท่านั้น ที่พระสันตะปาปาฟรังซิส ขึ้นทำหน้าที่เป็นผู้นำพระศาสนจักรคาทอลิก  พระองค์ทำอะไรเล่าถึงได้รับการยอมรับจากผู้คนพ่อเชื่อว่า เหตุผลต่างๆต่อไปนี้คงจะพอช่วยให้เราเข้าใจว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พระองค์ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปี
            1. พระองค์อาจเป็นพระสันตะปาปาที่ทันสมัยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ใช้ทวิตเตอร์ในการแสดงสถานะของพระองค์เอง ด้วยการโพสต์ภาพถ่ายของพระองค์ และมีผู้ติดตามมากมาย นอกจากนี้พระองค์ยังไม่ทิ้งวิธีการสื่อสารแบบเดิมๆด้วยการโทรศัพท์ไปหาบุคคลบางคนด้วยพระองค์เอง
            2. พระองค์สื่อสารถึงมุสลิมทั่วโลก เมื่อจบเทศกาลถือศีลอดของชาวอิสลาม พระองค์ทรงมีสาส์นถึงชาวมุสลิมเพื่อร้องขอให้ชาวมุสลิมและชาวคริสต์ร่วมมือกันช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันโดยผ่านทางการศึกษาอบรม
            3. พระองค์ ให้เกียรติและทรงฟังความเห็นของบุคคลที่แม้แต่จะต่อต้านเรื่องความเชื่อในพระเจ้า
            4. พระองค์แสดงจุดยืนของพระศาสนจักรในเรื่องกลุ่มคนรักร่วมเพศว่า ถ้ามีใครสักคนที่เป็นเกย์ แต่เขายังเชื่อในพระเจ้าและเป็นคนดี ข้าพเจ้าเป็นใครที่จะไปตัดสินคนเหล่านี้เล่า
            5. พระสันตะปาปาเป็นผู้สมถะ ดำรงชีวิตเรียบง่าย ไม่ถือพระองค์ ปฏิเสธที่จะพำนักในพระราชวังวาติกัน พระองค์พำนักอยู่ในห้องที่แสนจะธรรมดา ที่บ้านพักรวมของพระสงฆ์ที่ชื่อว่า ซานตามาร์เธ ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งพระคาร์ดินัล ก็ไม่ได้เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ใหญ่โต แต่ ใช้รถเมล์ รถใต้ดิน และ รถยนต์เรโนลต์เก่าๆที่มีพระสงฆ์องค์หนึ่งยกให้
            คงมีเหตุผลอีกมากมายที่สามารถจะยกมากล่าวถึงความเหมาะสมว่าทำไม นิตยสารไทม์แมกกาซีนถึงได้เลือกที่จะยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับพระสันตะปาปา เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ พระสันตะปาปาพระองค์นี้มีบุคคลิกภาพที่น่ารัก เข้าถึงง่าย และเป็นมิตรกับผู้คนทุกเพศทุกวัย และ มีปฏิภาณไหวพริบต่อปัญหาท้าทายพระศาสนจักรที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันรวดเร็ว ขอบพระคุณพระเจ้าที่โปรดทรงประทานพระสันตะปาปาที่น่ารักเช่นนี้ให้มาเป็นผู้นำพระศาสนจักรของพระองค์


คุณพ่อ สุพจน์
................................................................................................
เราเชื่ออะไร
พระนางมารีย์มีบุตรคนอื่นๆ นอกจากพระเยซูเจ้าหรือไม่

แม้พระศาสนจักรตั้งแต่สมัยแรกถูกเย้ยหยันในเรื่องความเชื่อที่ว่า พระนางมารีย์เป็นพรหมจารี แต่พระศาสนจักรยังคงเชื่ออยู่เสมอว่า ความเป็นพรหมจารีของพระนางเป็นความจริง มิใช่เป็นเพียงตำนานเทพ หรือนิยายชวนศรัทธา แต่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงบังเกิดจากสตรีผู้หนึ่งที่เป็นมนุษย์ แต่ต้องไม่ใช่จากบิดาที่เป็นมนุษย์ นักบุญมัทธิวเริ่มต้นพระวรสารของตนด้วยการลำดับเชื้อพระวงศ์ของพระเยซูเจ้า เพียงเพราะต้องการเรียงเรื่องกำเนิดของพระเยซูเจ้าไว้ให้ถูกที่ เพราะผ่านทางนักบุญยอแซฟ บิดาทางนิตินัยนี้ พระเยซูเจ้าจึงทรงเป็นสมาชิกของราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด แต่พระองค์ทรงมาจากเบื้องบน จากการปฏิสนธิเดชะพระจิตเจ้า จึงมิได้ทรงบังเกิดจากบุรุษคนใดคนหนึ่ง
ความเป็นพรหมจรรย์ตลอดกาลของพระนางมารีย์นี้ ได้รับการยอมรับกันมาตั้งแต่สมัยพระศาสนจักรยุคแรกแล้ว ซึ่งเป็นการตัดเรื่องความเป็นไปได้ที่ว่า พระเยซูทรงมีพี่น้องชายหญิงที่เกิดจากมารดาเดียวกันออกไป ภาษาอาราเมอิคซึ่งถือเป็นภาษาแม่ของพระเยซูเจ้าในขณะนั้น คำว่า “พี่น้อง” และคำว่า “ลูกพี่ลูกน้อง” ใช้คำเดียวกัน ดังนั้น เมื่อพระวรสารของนักบุญมาร์โก กล่าวถึงพี่น้องชายหญิงของพระเยซูเจ้า พวกเขาได้หมายถึงญาติใกล้ชิดของพระองค์
นักบุญมัทธิวเล่าว่า ชาวนาซาเร็ธในศาลาธรรมได้กล่าวถึงพระเยซูเจ้าว่า “เป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ แม่ของเขาชื่อมารีย์ พี่น้องของเขามิใช่ยากอบ โยเซฟ ซีโมน และยูดาหรือ” (มธ 13: 55) แต่ในพระวรสารอีกตอนหนึ่ง นักบุญมัทธิวก็เล่าด้วยว่า ในบรรดาสตรีที่อยู่เชิงไม้กางเขนเมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์นั้น “มีมารีย์ชาวมักดาลา และมารีย์มารดาของยากอบและของโยเซฟ และมารดาของบุตรเศเบดี” (มธ 27: 56) ถ้ามารีย์มารดาของยากอบและของโยเซฟในที่นี้เป็นคนคนเดียวกันกับพระมารดามารีย์ คงเป็นเรื่องแปลกที่ผู้เขียนกลับไม่ได้เรียกสตรีคนนี้อย่างชัดเจนว่า “พระมารดาของพระเยซูเจ้า” นี่แสดงชัดเจนว่ามารีย์ในที่นี้ย่อมเป็นคนละคนกัน
“เมื่อความเชื่อในพระมารดาของพระเจ้าลดน้อยลง ความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าก็จะลดน้อยลงด้วยเช่นกัน”
  Ludwig Feuerbach (1804-1872)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น