วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2013


พี่น้องที่รัก
            “โอกาส” หมายความว่าอย่างไร หมายความว่า ช่วงเวลาช่วงหนึ่ง หรือ  เวลาขณะนั้นที่เป็นประสบการณ์ที่จดจำได้
            “โอกาส” สามารถเป็นของขวัญที่มอบให้กับกันและกันได้นะ เพราะถ้ามีคนถามเราว่า “ขอโอกาสให้ฉันได้พบคุณได้ไหม?” หมายความว่า “คุณพอจะให้เวลาสนทนากับฉันสักช่วงเวลาหนึ่งได้ไหม?” การให้โอกาสนี้จึงหมายถึงการมอบตัวของเราให้เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับผู้ที่ร้องขอจากเราได้
            “โอกาส” อาจหมายถึง ช่วงเวลาสุดแสนประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน เราคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า “โอกาส นั้นช่างเป็นช่วงเวลาที่ฉันไม่เคยลืม”
            “โอกาส” อาจหมายถึง เวลาตอนนี้ ที่เราได้พบใครบางคน หรือ ช่วงเวลาที่มาถึงเราโดยมิได้คาดหมายไว้ก่อนล่วงหน้า
            มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า “คนที่ไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านเลยไป เป็นคนที่พบกับคำว่าเสียใจน้อยที่สุด เพราะทุกช่วงเวลาที่มาถึงนั้นช่างมีคุณค่ามากหลาย”
การที่เราฉวยโอกาสนั้นไว้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะอาจเป็นไปได้ว่าโอกาสนั้นอาจไม่มีวันหวนกลับมาหาเราอีกเลย คำว่า “โอกาส” นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เราจะใช้เพื่อเตรียมตัวของเราให้พร้อมสำหรับ “โอกาส” ต่อไปที่จะมาถึงเรา
            พระวรสารวันนี้กล่าวถึง เรื่องพระเยซูเจ้าเสด็จมาเยี่ยมครอบครัวที่พระองค์รู้จักดี คือ ครอบครัวของลาซารัส ที่มีน้องสาวชื่อ มารีย์ กับ มาร์ธา พระวรสารกล่าวว่า มาร์ธา มัวแต่กุลีกุจอจัดเตรียมสถานที่ต้อนรับพระเยซูเจ้าจนเหนื่อยอ่อน  ส่วนมารีย์ใช้เวลาทั้งหมดเฝ้าอยู่แทบพระบาทของพระองค์ แม้มาร์ธาจะบ่นว่ากับพระองค์ว่า “ดูซิ มารีย์ไม่ยอมไปช่วยเธอจัดเตรียมข้าวของอะไรเลย” พระเยซูเจ้ากล่าวกับมาร์ธาว่า “มาร์ธา มาร์ธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเธอได้”
            มาร์ธา ไม่ปล่อยให้ “โอกาส” ที่ดีที่สุดของเธอหลุดลอยไป
คพ.สุพจน์
..................................................................................................................
เราเชื่ออะไร
ทำไมพระศาสนจักรจึงเฉลิมฉลองพิธีกรรมบ่อยๆ

พระเยซูเจ้าทรงสอนให้บรรดาศิษย์ของพระองค์สวดภาวนา และเรียกพวกเขามารวมกันในห้องชั้นบนเพื่อเฉลิมฉลองการมอบพระองค์เองในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย คำสั่งที่เราทุกคนได้รับจากพระเยซูเจ้าก็คือ  “จงทำการนี้ เพื่อระลึกถึงเราเถิด” (1คร.11: 24)
มนุษย์ต้องการอากาศหายใจ เพื่อมีชีวิต เช่นเดียวกัน พระศาสนจักร ก็มีชีวิตและลมหายใจด้วยการเฉลิมฉลองพิธีกรรมดังกล่าว พระเจ้าเองทรงเป็นผู้มอบลมหายใจแก่พระศาสนจักรทุกวัน และทรงบำรุงเลี้ยงพระศาสนจักรด้วยพระพรต่างๆ โดยทางพระวาจาของพระองค์ และด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ ภาพลักษณ์อีกประการหนึ่งก็คือ พิธีกรรมเป็นเหมือนการนัดพบรัก ซึ่งพระเจ้าทรงเขียนไว้ในปฏิทินของเรา ผู้ใดที่มีประสบการณ์ความรักของพระเจ้าแล้ว ก็จะไปวัดด้วยความยินดี และตื่นเต้นกับความรู้สึกของการได้มาพบกับพระเจ้าที่ทรงประทับอยู่ภายใต้เครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์นี้
ระหว่างที่พระเยซูเจ้าทรงมีชีวิตอยู่นั้น ประชาชนจำนวนมากต่างพากันไปหาพระองค์ เพราะพวกเขาแสวงหาการรักษาจากพระองค์ ปัจจุบัน เรายังพบพระองค์ได้ เพราะพระองค์ทรงดำรงชีวิตอยู่ในพระศาสนจักรของพระองค์ และทรงให้ความมั่นใจแก่เราว่า พระองค์ประทับอยู่ในสถานภาพสองประการ คือในการช่วยเหลือผู้ยากจน และในศีลมหาสนิท ณ ที่ซึ่งเราตรงดิ่งสู่อ้อมอกของพระองค์ และเมื่อเรายอมให้พระองค์อยู่ใกล้ชิดเรา พระองค์จะทรงสอนเรา เลี้ยงดูเรา เปลี่ยนแปลงเรา รักษาเรา และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเราในการถวายบูชามิสซา
“ท่านไม่รู้หรือว่า คริสตชนดำเนินชีวิตเพื่อศีลมหาสนิท และศีลมหาสนิทมีไว้เพื่อคริสตชน”
(Martyr Saturninus)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น