วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สารวัดอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2012


 จงรักกันและกัน เหมือนอย่างที่เรารักท่าน
ทำไมคำสอนดังกล่าวจึงเป็นบัญญัติที่สำคัญที่สุด?
สวัสดีครับพี่น้อง
บัญญัติประการสำคัญที่สุดของพระเยซูที่สอนเราคือ “จงรักกันและกันเหมือนอย่างที่เรารักท่าน” คำสั่งของพระองค์ประการนี้ ครอบคลุมพระบัญญัติในพันธสัญญาเดิมทุกประการ และการปฏิบัติพระบัญญัติในพันธสัญญาเดิมทั้งหมด ก็ยังไม่ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์เทียบเท่ากับบทบัญญัติแห่งความรักของพระเยซูเพียงประการเดียว ในพระบัญญัติในพันธสัญญาเดิม ระบุไว้ว่า อย่าฆ่าคน แต่ พระบัญญัติแห่งความรักของพระเยซูสั่งให้เราอย่าโกรธโดยขาดเหตุผล เพราะแท้ที่จริงทุกๆการกระทำที่ปฏิบัติออกมาภายนอกของเรานั้นมีที่มาจากหัวใจของเรานั่นเอง  พระเยซูสอนผู้ฟังพระองค์ว่า “ท่านได้ใช้เวลามากมายฝึกฝนปฏิบัติตามบัญญัติในพันธสัญญาเดิมมาพอแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะขยับมาสู่แบบฝึกหัดบทใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม”พระเยซูไม่ได้ต้องการจะบอกว่า บัญญัติในพันธสัญญาเดิมนั้นใช้ไม่ได้แล้ว เพียงแต่พระองค์ร้องขอให้เราขยับมาสู่บรรทัดฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม นักบุญมัทธิวบันทึกคำพูดของพระเยซูไว้ว่า “อย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างกฏของบรรดาประกาศก เราไม่ได้มาเพื่อลบล้าง แต่มาเพื่อทำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น”(มธ. 5: 17)
ในการพิพากษาครั้งสุดท้าย เราจะได้ยินพระคริสตเจ้ากล่าวว่า “ในยามที่เราหิว ท่านได้ให้อาหารเรา ในยามที่เรากระหาย ท่านได้ให้น้ำเราดื่ม ในยามที่เราเป็นแขกแปลกหน้าไป ท่านได้ต้อนรับเรา ในยามที่เราไม่มีเครื่องนุ่งห่ม ท่านได้ให้เสื้อผ้ากับเรา ในยามที่เราป่วย ท่านก็มาเยี่ยม ในยามที่เราถูกจองจำ ท่านก็มาหา และแล้ว กษัตริย์จะตรัสว่า “เราขอบอกกับท่านว่า สิ่งที่ท่านได้กระทำกับผู้ที่ต่ำต้อยที่สุด ท่านได้ทำต่อเราเอง” (มธ. 5: 17) สิ่งที่อยากจะพูดให้ชัดก็คือว่า เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร ก็เท่ากับว่าเราปฏิบัติต่อพระเยซูอย่างนั้น เพราะพระองค์ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเราเลย พระองค์อยู่ในบุคคลรอบข้างเรานี่แหละ พระองค์อยู่ใกล้เรามากกว่าที่เราคิด
เมื่อพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขน ม่านในพระวิหารฉีกขาดเป็นสองส่วน เป็นสัญลักษณ์ว่า ณ บัดนี้พระเจ้าพระองค์ไม่ได้ประทับเพียงแต่ในพระวิหารที่เยรูซาเล็มอีกต่อไป พระองค์มาประทับในพระวิหารใหม่ ซึ่งได้แก่พระวรกายของพระคริสตเจ้า  เราแต่ละคนคืออิฐแต่ละก้อนที่มีชีวิตที่ประกอบกันขึ้นเป็นพระวิหารของพระเจ้า เราแต่ละคนเป็นวิหารของพระจิตเจ้า ดังนั้น พฤติกรรมที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราจึงต้องนำพระบัญญัติของพระคริสตเจ้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิต เพราะเมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว การกระทำของเรานั้นไม่เป็นเพียงแต่พฤติกรรมที่เราแสดงต่อผู้อื่นเท่านั้น แต่ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่เราแสดงต่อพระเยซูเจ้าเอง ด้วยเหตุนี้ พระบัญญัติในพันธสัญญาเดิมจึงเป็นเรื่องเกี่ยวข้องเพียงเรื่องพฤติกรรมภายนอกเท่านั้น ส่วนพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูนั้น คือ บัญญัติแห่งความรัก ซึ่งเป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ
                                                                                                                                    พ่อสุพจน์
.................................................................................................................................................................. 

สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน
            อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์เทศกาลธรรมดา แต่เราทำการฉลองสมโภชนักบุญยอห์นบับติสต์บังเกิดเป็นพิเศษด้วย  การฉลองท่านนักบุญยอห์นบับติสต์นั้นมีด้วยกัน 2 วัน คือ การฉลองวันเกิดและการฉลองวันตายของท่าน ซึ่งเราจะเห็นว่าท่านนักบุญยอห์นบับติสต์เป็นบุคคลที่พิเศษและมีความสำคัญในพันธกิจของพระเยซูเจ้า คือ การที่ท่านได้รับการเลือกให้มาเป็นผู้ที่เตรียมทางสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า ท่านเป็นผู้ที่มีความสุภาพและความถ่อมตนในการรับใช้พระเจ้า จึงทำให้ท่านเป็นบุคคลที่น่าเลียนแบบอย่างสำหรับเราคริสตชน
            ท่านได้รับเรียกมาเพื่อให้เป็นผู้ที่ชี้ทางให้ผู้อื่นได้พบกับพระเยซูเจ้า โดยอาศัยพิธีล้าง เราแต่ละคนก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันโดยอาศัยศีลล้างบาปทำให้เราแต่ละคนจะต้องเป็นผู้ที่ชี้นำทางผู้อื่นให้มารู้จักกับพระเยซูเจ้าด้วย นี่ถือได้ว่าเป็นพันธกิจที่เราได้รับโดยการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า และเราจะสามารถเป็นผู้ประกาศข่าวดีได้นั้นจะต้องประกอบด้วย 2 ส่วนคือ เราจะต้องมีสารที่เป็นข่าวดีของพระเจ้า ซึ่งได้แก่พระวาจาของพระซึ่งเราได้รับฟังอยู่บ่อยๆ ในวันอาทิตย์และโดยการอ่านพระคัมภีร์ และสองคือตัวเราเองจะต้องเป็นข่าวดีของพระเจ้าด้วย เพราะการดำเนินชีวิตที่เป็นประจักษ์พยานจะทำให้ข่าวดีของพระเจ้าเป็นความจริงขึ้นมา และมีความน่าเชื่อถือด้วย
            ดังนั้นแล้วในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เป็นลูกของพระ และเป็นผู้ที่ได้รับข่าวดีของพระเจ้ามาก่อนแล้ว เราได้ตระหนักถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเราเป็นข่าวดีของพระเจ้ามากน้อยเพียงใด และเราจะทำอย่างไรให้ชีวิตของเราเป็นข่าวดีของพระเจ้าสำหรับเพื่อนพี่น้องที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าได้บ้างหรือไม่ และสุดท้ายก่อนอื่นใดเราจงเป็นข่าวดีให้แก่กันและกันในระหว่างพี่น้องคริสตชนของเราก่อนเถิด ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่าน
                                                                                                                                    คุณพ่อศวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น