วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม2019
สัปดาห์ที่หนึ่งเทศกาลมหาพรต

พี่น้องที่รัก...
มหาพรตเริ่มแล้ว ผู้ใดที่ยังไม่ได้รับการโปรยเถ้า  สามารถเดินออกมารับหลังจากมิสซาซาจบแล้วในแต่ละรอบได้  พระสงฆ์จะโปรยเถ้าเหนือศีรษะและเตือนใจเราให้เริ่มต้นมหาพรต ด้วยการกลับใจและเชื่อพระวาจาของพระเจ้าเถิด  กายมาจากดินก็จะกลับไปเป็นดิน เมื่อมาจากพระเจ้าก็จะกลับไปหาพระเจ้า
        ต้องขอภัยพี่น้องที่ไม่ได้รับสารวัดทั้งสองสัปดาห์ที่ผ่านมา  เพราะหมดลงอย่างเด็ดขาดในมิสซารอบตั้งแต่เที่ยง  เพราะทุกคนอยากเอาตารางเวลาไปติดไว้ที่บ้านเพื่อเตือนความจำ  สารวัดฉบับนี้จึงขอย้ำซ้ำอีกครั้ง
“ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต จะมีเดินรูปสิบสี่ภาคหลังมิสซา 17.30 น.จบแล้ว และเดินรูปภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดเวลา 14.00 น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกันการเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 09.15 น. และเวลา 17.00 น.ทุกวันอาทิตย์(เว้นวันอาทิตย์ใบลาน)  เดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ 19 เมษายน เวลา 18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน
       วันศุกร์ที่ 5 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึงวันเสาร์ที่ 6 เมษายนเวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า มีพิธีตื่นเฝ้า(ศีลมหาสนิท)ที่วัดพระจิตเจ้าของโรงพยาบาล และโปรดศีลอภัยบาปในคืนวันศุกร์ตั้งเวลา 19.00 น.จนถึงเวลา 21.00 น.ที่วัดเซนต์หลุยส์
        ในคืนวันศุกร์ที่ 5 จะมีโปรดศีลอภัยบาปด้วยการทำวจนพิธีกรรมพิจารณาบาปรวมด้วยกันและรับศีลอภัยบาปที่ละคนจากพระสงฆ์เมตตาธรรม  ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.
        ค่ำคืนดังกล่าวจะมีการสอนถักใบลานเพื่อนำไปใช้ในวันอาทิตย์ใบลาน
วันอาทิตย์ใบลาน ตรงกับวันที่ 14 เมษายน 2019มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลานหน้าโถงศาลา
หลุยส์มารีย์ของวัด(มีบริการใบลานฟรีแบบไม่ถัก)และบ้านผู้สูงอายุนำใบลานถักสวยงามมาจัดจำหน่ายเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับผู้สูงอายุของบ้านลำไทร ทางวัดต้นหมากเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่บ้าน
        มีใบลานทั้งแจกและจำหน่ายด้วยฝีมือจากผู้สูงอายุบ้านลำไทร นำมาเพื่อหารายได้ช่วยเหลือบ้านผู้สูงอายุ  ใครชอบแบบไหนตามความสมัครใจ
เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์18 เมษายนมิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและมีเฝ้าศีลที่วัด
พระจิตเจ้าของโรงพยาบาล จนถึงเวลา 23.00 น.
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 19 เมษายนพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ 20 เมษายน พิธีเสกไฟ เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์ และล้างบาปผู้ใหญ่เตรียมตัว
เป็นคริสตชน(พิธีเสกไฟเริ่มต้นที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด)
ตลอดเทศกาลมหาพรต ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ได้แบ่งปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อช่วยผู้ยากไร้”
        ขอให้ทุกท่านได้ร่วมเดินทางมหาพรตและเตรียมพร้อมสำหรับการฉลองปัสกาประจำปี

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์


"มหาพรต คือ ช่วงที่ควรมองดูความรักของพระมากที่สุด"

            ชาว​อียิปต์​ทำ​ร้าย​พวก​เรา ข่ม​เหง​เรา​และ​บังคับ​ให้​เรา​เป็น​ทาส​อย่าง​ทารุณ  7  แต่​เรา​ร้อง​เรียก​หา​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้าของ​บรรพ​บุรุษ​ของ​เรา พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ฟัง ทอดพระเนตร​เห็น​ความ​ทุกข์​ทรมาน ความ​ยากลำบาก​และ​การ​ถูก​กด​ขี่​ของ​เรา  8  พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ใช้​พระ​หัตถ์​ทรง​ฤทธิ์​และ​พระ​อานุภาพ​ยิ่งใหญ่​ทำ​เครื่องหมาย​อัศจรรย์​และ​ปาฏิหาริย์​น่า​สะพรึงกลัว ช่วย​เรา​ออก​จาก​อียิปต์  9  และ​ทรง​นำ​เรา​มา​ที่นี่ ประทาน​แผ่นดิน​มี​น้ำนม​และ​น้ำผึ้ง​ไหล​อย่าง​อุดม​สมบูรณ์​นี้​ให้แก่​เรา  ..... แล้ว​ท่าน​จะ​วาง​กระจาด​ลง​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้าของ​ท่าน และ​กราบ​นมัสการ​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้าของ​ท่าน      (ฉธบ 26:4-10)
          เหตุผลเดียวที่ชาวอิสราเอล กล้ายอมวางทุกสิ่ง แล้วมอบชีวิตทั้งหมดนมัสการวางไว้กับพระหัตถ์พระเจ้า คือ พวกเขาได้มองดู ทบทวนไตร่ตรอง พวกเขาได้เห็นพระเมตตารักของพระที่มีต่อเขามีมาเสมอไม่เคยหยุดหรือขาดหายเลย
            เพราะ​ถ้า​ท่าน​ประกาศ​ด้วย​ปาก​ว่า พระ​เยซู​ทรง​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ใจ​ว่า พระ​เจ้า​ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย  ท่านก็จะรอดพ้น  การเชื่อด้วยใจจะบันดาลความชอบธรรม การประกาศด้วยปากจะบันดาลความรอดพ้น.....เพราะทุกคนที่เรียกขานพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะรอดพ้น  (เทียบ รม 10:10,9,13)
          เราจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า "ความรอดพ้น สันติสุขในชีวิต" ของชาวอิสราเอลนั้น พวกเขาไม่ได้มาด้วยพละกำลังหรือว่าความสามารถของตนเอง หรือพวกพ้องเลย
          พวกเขาได้รับพระพร สันติสุขและความรอดพ้นก็เพราะ พวกเขาได้พบกับพระเจ้า ได้รับรู้ว่าพระเจ้าจะทรงรักเขาไม่เสื่อมคลายและจะปกป้องพวกเขา ที่สุดพวกเขามอบความเชื่อไว้กับพระองค์ "เพราะทุกคนที่เรียกขานพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะรอดพ้น"  (รม 10:13)
          ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต อาจเปรียบได้กับช่วงเวลาความทุกข์ยาก 40 ปีที่ชาวอิสราเอลเผชิญในถิ่นทุรกันดาร หรือเป็นช่วงเวลาที่เขาเผชิญหน้ากับความทุกข์ที่ถูกตีถูกทำร้าย
"พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม .....  เมื่อปีศาจผจญพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว   จึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม"  (ลก 4:1,13)
          ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต เราสามารถมองดูไปพร้อมกับ "ช่วงเวลา 40 วัน ในถิ่นกันดารที่พระเยซูเจ้าเผชิญ" พระองค์เอาชนะการประจญที่ต้องเผชิญ ได้ด้วย ความเชื่อและวางชีวิตทั้งหมดไว้กับพระบิดา โดยยอมให้พระจิตเจ้านำทางนำชีวิตของตน
          ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต นับเป็นการชิมลางความทุกข์ทรมานมากมายในชีวิตที่เราแต่ละคนได้เผชิญในชีวิตจริงของตนเอง  เราก็จะได้รับพระพร พระเมตาเช่นเดียวกัน "พระเมตตารัก และความเชื่อที่เรามีต่อพระองค์" ดังนั้น  "40 วัน ในมหาพรต คือช่วงที่ควรมองดู ความรักของพระมากที่สุด".

                                        นกขุนทอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น