วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สารวัดวันอาทิตย์ที่11 กุมภาพันธ์ 2018

พี่น้องที่รัก
วันพุธรับเถ้าที่ 14 กุมภาพันธ์ เริ่มมหาพรตมิสซาเช้าเวลา 6.00 น.เสกและโปรยเถ้า พระแท่นใหญ่
ส่วนมิสซารอบเย็นเฉพาะวันพุธรับเถ้า เวลา 17.30 น.ให้เลื่อนเป็นเวลา 19.00 น. และมีการโปรยเถ้าด้วย
วันที่ 16 กุมภาพันธ์เป็นวันตรุษจีน นอกจากมิสซาตามปกติเวลา 6.00 และ 17.30 น.
เพิ่มมิสซารอบเวลา 9.00 น.เพื่อเป็นมิสซาสุขสำราญตรุษจีนและแจกส้มรอบพิเศษนี้เท่านั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่ถือธรรมเนียมมิสซาตรุษจีนมาร่วมมิสซาในวันและเวลาดังกล่าว 
ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต จะมีเดินรูปตามปกติ หลังมิสซาจบแล้ว คือประมาณเวลา 18.00 น.
และเดินรูปภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดเวลา 14.00 น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกัน
การเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 9.15 น. และเวลา 17.00 น.ทุกวันอาทิตย์(เว้นวันวันอาทิตย์ใบลาน 25 มีนาคม)
เดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 30 มีนาคม เวลา 18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน วันอาทิตย์ใบลาน ตรงกับวันที่ 25 มีนาคม มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลานหน้าโถงศาลาหลุยส์   มารีย์ของวัด
เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ 29 มีนาคมมิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและเฝ้าศีลที่วัดน้อยพระจิตเจ้า
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 30 มีนาคมพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ 31 มีนาคม พิธีเสกไฟ เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์ และล้างบาปผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน
(พิธีเสกไฟเริ่มต้นที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด)
ตลอดเทศกาลมหาพรต ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่านปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยผู้ยากไร้
ปรับม้านั่งในวัดเฉพาะด้านข้างพระแท่นทั้งสองด้าน ให้มีระเบียบและทางเดินสะดวกขึ้น จะเริ่มทำมิสซาทั้งรอบเช้าและเย็นที่พระแท่นใหญ่ทุกวันตั้งแต่วันพุธรับเถ้านี้เป็นต้นไป ขอให้สัตบุรุษซึ่งมาวัดเช้าเย็นเป็นประจำได้ขยับมานั่งที่ม้านั่งบริเวณโถงหน้าพระแท่นใหญ่ด้วย

พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
..............................................................
                    
บอกกล่าว เล่าเรื่อง
มหาพรต มาหาพระ
สัปดาห์นี้เรากำลังจะเข้าสู่เทศกาลสำคัญของพระศาสนจักร นั่นคือ เทศกาลมหาพรต ซึ่งจะเริ่มในวันพุธรับเถ้า ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์คำที่มักพูดกันบ่อยๆเวลา เริ่มเทศกาลมหาพรตก็คือ มหาพรต มาหาพระ เป็นคำสั้นๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความจริงที่น่าคิด มหาพรตเป็นช่วงที่เราจะกลับมาพระเป็นพิเศษด้วยการกลับใจและการกลับใจที่ทีความหมายก็คือ การพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านๆมาเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้พ่อคิดว่าจริงๆคริสตชนเราโชคดีเพราะในหนึ่งปี
การมีช่วงเวลาที่เราจะทบทวนตนเองบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และมหาพรตเป็นช่วงเวลาที่เราน่าจะกลับมามองชีวิตของเรา มองดูรูปแบบการดำเนินชีวิตของเราว่าเป็นอย่างไรที่ผ่านมา เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่บ้างไหม เป็นคนพูดจาดีไหม เป็นคนมีน้ำใจไหม สวดภาวนามาวัดแก้บาปรับศีลดีไหม บ่อยไหม มีอะไรที่ยังเป็นข้อบกพร่องเป็นจุดอ่อนในชีวิต ฯลฯ ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อตรวจสอบชีวิตของเราเป็นพิเศษ มหาพรตเป็นช่วงเวลาที่เราคริสตชนจะใช้เวลาช่วง 40 วันนี้อย่างดีเพื่อรีสตาร์ทชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็นการใช้เวลาเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น
นอกจากนี้อย่างที่กล่าวไปนอกจากมหาพรตเป็นเวลาที่จะมองย้อนดูตนเองเป็นพิเศษ มหาพรตยังเป็นเวลาที่เราจะมองเพื่อนพี่น้องรอบข้างมากขึ้น จิตตารมณ์ที่สำคัญประการนึงในเทศกาลมหาพรตก็คือ ความมีเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยาก คนที่ลำบากมากกว่าเรา พ่อคิดว่าช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ทำบางสิ่งบางอย่างให้กับเพื่อนพี่น้องรอบข้างเรา เป็นต้นผู้ที่มีความยากลำบากซึ่งบางทีอาจไม่ได้ลำบากเพียงแค่กายเท่านั้นแต่ผู้ที่มีความทุกข์ทางใจที่เรามองเห็นและสามารถหยิบยื่นกำลังใจให้บางทีแค่รอยยิ้มที่ให้กัน คำพูดดีๆที่ให้กำลังใจกัน มิตรไมตรี น้ำใจที่หยิบยื่นให้กัน ก็เติมพลังใจให้กันได้ และเป็นการแสดงความรักความเมตตาที่ไม่ต้องลงทุนอะไร และสามารถเริ่มต้นทำได้ทันที
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางการมองดูชีวิตตนเอง และเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางเพื่อนพี่น้องรอบข้าง ด้วยความช่วยเหลือที่เราทำได้ ด้วยการให้กำลังใจ ด้วยการพยายามทำดีต่อกันมากขึ้น
มหาพรต มาหาพระ ผ่านทางการร่วมมิสซา แก้บาป รับศีล อย่างตั้งใจ อย่างดีเป็นพิเศษ


ปลัดวัดสาทร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น