วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2016

พี่น้องที่รัก
                เรื่องเล็กน้อย ก็ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกัน
                ถ้ามองไม่เห็นความงามของดอกไม้เล็กๆในแต่ละดอก แล้วจะจัดช่อดอกไม้ใหญ่ให้งดงามได้อย่างไร....
                วัดเซนต์หลุยส์ของเรา มีดอกไม้สวย ๆ ประดับพระแท่นอยู่เสมอ ทุกวันอาทิตย์จะมีพี่น้องหลายท่านชื่นชมกับความงามของดอกไม้ที่ประดับอยู่รอบๆพระแท่น พากันมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอยู่เนืองๆ บ้างก็ถ่ายภาพดอกไม้เก็บไว้ชื่นชม  บ้างก็พากันมายืนกับเพื่อนแล้วให้คนอื่นช่วยถ่ายภาพให้ บ้างก็ยืนเป็นกลุ่มกับเพื่อนแล้วถ่ายเซลฟี่เก็บภาพแห่งความทรงจำไว้
                ความสวยงามของดอกไม้แต่ละชนิดเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว เมื่อนำดอกไม้เหล่านั้นมารวมกันเป็นช่อ เป็นแจกัน ยิ่งทำให้เกิดความงามที่ใหญ่โตมโหฬารกว่าเดิม  สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้ไม่ยากนัก เมื่อมองความสวยงามของดอกไม้ในแจกัน ก็อดทึ่งไม่ได้กับความสามารถเฉพาะตัวของคนจัดดอกไม้ เขาต้องมีความสามารถพิเศษมองเห็นความงามและลักษณะเฉพาะตัวของดอกไม้แต่ละดอกอย่างชัดเจน ถึงได้นำมารวมเข้าด้วยกันจนเป็นแจกันดอกไม้ที่งดงามตระการตาได้
                ชีวิตเราแต่ละคน ในแต่ละช่วงเวลา ต่างก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอ แต่บางครั้งเราหลงลืมจะใส่ใจจดจำ ทำให้เราพลาดช่วงเวลาดี ๆ นั้นไปเสมอ มัวแต่ชะเง้อคอรอคอยว่า เมื่อไรหนาเรื่องดีใหญ่ ๆ จะผ่านมา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พานพบ จนทำให้คิดไปเสียว่า ตัวเองอาภัพไม่เคยได้ประสบพบกับความโชคดีกับเขาบ้างเอาเสียเลย เลยจะพาลตัดพ้อต่อว่ากับพระเจ้าเลยเถิดไปว่า พระองค์ไม่เห็นประทานอะไรให้บ้างเลย ความน้อยอกน้อยใจอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าอยากจะเป็นคนโชคดีอย่างที่ปรารถนาบ้าง ก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนทัศนะคติในการมองโลก มองชีวิตเสียบ้าง ต้องรู้จักมองให้เห็นสิ่งดี แล้วเราจะพบว่ามีสิ่งดี ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตเรามากมาย อาทิวันนี้มีคนยิ้มให้กับเรา วันนี้เราได้มีโอกาสรับความรู้สึกที่ดีจากการพูดคุยกับเพื่อนที่ไม่ได้พบปะกันมานาน วันนี้เราได้หายใจอย่างคล่องปอด หัวสมองแจ่มใส วันนี้มีคนเสียสละลุกจากที่นั่งในรถไฟฟ้าให้พื้นที่ตรงนั้นกับเราลงไปนั่งแทน เป็นต้น
                วันนี้เป็นวันที่วัดของเราจัดให้มีการอวยพรเด็ก ๆ เป็นการให้ความสำคัญกับเด็ก ๆ แม้เด็กตัวเล็ก ๆ จะดูไม่สำคัญสักเท่าไร แต่ความไร้เดียงสา ความน่ารัก ความอยากรู้อยากเห็น ความกระตือรือร้นในตัวเด็กแต่ละคน ส่อให้เห็นแววของความดีงามที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นในตัวเขาทุกคน แม้เด็กบางคนจะซนบ้าง ส่งเสียงดังบ้าง ขาดความเรียบร้อยไปบ้าง ร้องไห้เอาแต่ใจตัวเองบ้าง เราก็ยังไม่เบื่อหน่ายที่จะเอ็นดู และ ให้ความเมตตากับเด็กๆ เพราะมองเห็นความดีงามเล็กๆที่กำลังค่อย ๆ เจริญงอกงามอยู่ในตัวของเขานั่นเอง
                พระเยซูตรัสว่า "ปล่อยให้เด็ก ๆ เข้ามาหาเราเถิด" เป็นสัญลักษณ์ว่า พระอาจารย์เจ้าของเราทรงเห็นความดีงามเล็กน้อยในตัวเด็ก ๆ เหล่านั้น และให้คุณค่ากับพวกเขาอย่างสูงส่ง "ถ้าพวกท่านไม่เป็นเหมือนเด็ก ๆ เหล่านี้ ท่านจะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย" ที่พระองค์ตรัสเช่นนี้ เพราะพระองค์ต้องการให้เราผู้ใหญ่แต่ละคนรักษาความดีงามที่เคยเจริญงอกงามในตัวเราตั้งแต่เป็นเด็กให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้น สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น เติบโตขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด เพราะผู้ใหญ่หลายคนปล่อยให้ความดีงามเหล่านั้นเหี่ยวเฉาไปเสียนานแล้ว
                การได้เห็นหรือพบปะกับผู้ใหญ่สักคนที่มีคุณสมบัติที่ดีพร้อม เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เป็นคนมีเหตุผล รู้จักอดทนอดกลั้น มีความซื่อสัตย์ มีความยุติธรรม มีความรับผิดชอบสักคนในแวดวงสังคม ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก ทำให้อดที่จะเกิดความภาคภูมิใจร่วมไปกับ ทุกคนที่มีส่วนในการแต่งเติมชีวิตงดงามให้กับบุคคลผู้นั้นเสียไม่ได้ คนเหล่านี้ได้แก่ พ่อแม่ ครู อาจารย์ ที่มองเห็นและช่วยกันพัฒนาคุณงามความดีในตัวผู้นั้นให้เติบใหญ่มาจนถึงวันนี้
                วันนี้จึงเป็นวันที่น่ายินดี น่าฉลองกันเป็นพิเศษอีกวันหนึ่งนะครับ เพราะเมื่อเรานำเด็ก ๆ มาให้ได้รับการอำนวยอวยพร เรากำลังมีส่วนช่วยพัฒนาตกแต่งชีวิตของเด็กเหล่านี้ให้งดงามยิ่งขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจครับ และเรากำลังรอคอยที่จะได้เห็นวันที่เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เติบโตอย่างสมบูรณ์มีคุณสมบัติพร้อมมูลรอบด้าน ที่จะนำความชื่นชมยินดีและความภาคภูมิใจมาสู่เราทุกคนในภายภาคหน้าครับ วันนี้จึงเป็นวันธรรมดาๆที่ดี น่าจดจำอีกวันหนึ่งครับ ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันนะครับ
คพ.สุพจน์
..................................................................................................................

HAPPY NEW YEAR 2016

ข้างบัลลังก์นักบุญหลุยส์ : ดอเอ๋ย ดอเด็ก

เด็กน้อยขี้สงสัย, สงสัยจึงตั้งคำถาม
เด็กน้อยสงสัย??? ทำไมมีแต่วันเด็ก ทำไมมีแต่คำขวัญวันเด็ก แล้วทำไมไม่มีวันผู้ใหญ่ แล้วทำไมไม่เคยเห็นมีคำขวัญวันผู้ใหญ่ วันเด็กเกิดขึ้นยังไง ใครเป็นคนตั้งขึ้น ทำไมคนตั้งวันเด็ก ไม่ตั้งวันผู้ใหญ่มาด้วยพร้อมพร้อมกัน
เด็กน้อยสงสัย??? เฉพาะพวกเด็กที่ต้องทำตามคำขวัญเหรอ ผู้ใหญ่ไม่มีคำขวัญ เลยไม่ต้องทำเหรอ หรือว่าเลยวัยไปแล้วเลยไม่ต้องทำ
เด็กน้อยสงสัย??? เคยได้ยินว่า พวกเราคืออนาคตของชาติ แล้วคนผู้ใหญ่ คนที่เคยเป็นเด็กแบบเรา ตอนนี้ เป็นอะไรอยู่ พวกเขาเป็นอนาคตของชาติไปหมดแล้วหรือ ตอนนี้ พวกเขาเป็นอะไร เราเคยเห็นแต่ พระสงฆ์ ซิสเตอร์ คุณครู ทหาร ตำรวจ หมอ พยาบาล วิศวกร แต่ไม่เคยเห็นอนาคตของชาติ
เด็กน้อยสงสัย??? อนาคตของชาติ เป็นอย่างไร แต่งชุดฟอร์มแบบไหน ทำงานเกี่ยวกับอะไร พวกเขาทำงานอยู่ที่ไหน  ทำไมไม่เคยเห็น หรือว่าพวกเขาอยู่ในอนาคต เมื่อไหร่อนาคตจะมาถึง เพราะเห็นบางคนบอกว่าชีวิตมีแค่ปัจจุบัน แล้วอนาคตอยู่ไหน
เด็กน้อยสงสัย??? ทำไมพ่อแม่มักบอกให้สวดขอพรจากพระ ว่าขอให้เป็นคนดี เรียนหนังสือเก่งเก่ง สอบได้ที่หนึ่ง ให้เรียนได้สูงสูง มีการมีงานทำดีดีรวยรวย  ทำไมต้องเรียนเก่งเก่ง เราไม่ชอบเรียน เราชอบวาดรูป ชอบร้องเพลง ชอบเต้นไม่ได้เหรอ ทำไมต้องสอบได้ที่หนึ่ง ที่หนึ่งมีได้คนเดียวเอง เรายอมเป็นที่สอง สาม หรือสี่ บ้างไม่ได้เหรอ เพราะทุกคนอยากเป็นที่หนึ่งกันหมดเลย เราเสียสละให้ก็ได้ ทำไมต้องเรียนสูงสูง คนแถวบ้านจบปอสี่เป็นเจ้านายของคนจบปริญญาก็เยอะไป ทำไมต้องรวยด้วยเหรอ แค่พอมีพอกิน ไม่เจ็บไม่จนไม่พอเหรอ ขอแบบนี้จะมีความสุขจริงเหรอ

เด็กน้อยสงสัย, เมื่อสงสัย จึงไปถาม, ถามคนที่เติบใหญ่, ถามคนที่เคยเป็นอนาคตของชาติ, ถามคนที่เป็นเด็กมาก่อน

คนที่เติบใหญ่ คนที่เคยเป็นอนาคตของชาติ คนที่เคยเป็นเด็กมาก่อนจึงตอบว่า...


@Shutter Lover

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น