วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2014

พี่น้องที่รัก
            วันนี้เป็นวันสมโภชพระจิตเจ้าเสด็จลงมา ถือเป็นวันเริ่มต้นพระศาสนจักร เพราะบรรดาอัครสาวกหลังจากที่ได้รับพระจิตเจ้าแล้ว พวกเขาสลัดละทิ้งความหวาดกลัวจนหมดสิ้น ทุกคนเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น กล้าหาญ อยากออกไปประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้า พระจิตเจ้าทรงเป็นผู้ดลใจ ส่องสว่าง สอนแนะนำ สร้างแรงจูงใจที่เหมาะสมให้พวกอัครสาวกออกไปทำการเผยแผ่พระอาณาจักรของพระเจ้าจนทั่วแผ่นดิน
            บทบาทของพระจิตเจ้ามีมากมาย พระองค์คือผู้ชักจูงเราแต่ละคนให้ใช้พระพรของพระเจ้าเต็มศักยภาพของเรา เพื่อเผยแผ่พระอาณาจักรของพระเจ้า เพื่อสร้างสรรค์โลกของเราให้เจริญงอกงามเติบโต พระจิตเจ้าจึงเป็นพระผู้ช่วยให้การสร้างสรรค์โลกจักรวาลของพระบิดาเจ้าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พระเจ้าทรงสร้างโลกในปฐมกาล แต่การสร้างของพระองค์ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในสิ่งใหม่ๆ ในนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้น เพราะพระจิตเจ้าทรงช่วยให้มนุษย์ในแต่ละยุคแต่ละสมัยนำพระพรของพระเจ้ามาใช้อย่างเต็มศักยภาพ แปรเปลี่ยนโลกของเราให้เจริญวัฒนาเรื่อยมานั่นเอง
            ขอพระจิตเจ้าโปรดประทานความสว่างสำหรับเรา ขอพระองค์โปรดชักนำเราให้มุ่งสร้างสรรค์สิ่งดีงามในชีวิตของเรา ขอพระองค์โปรดอยู่เคียงข้างเรา สอนใจเรา นำพาเราให้หลุดพ้นจากบ่วงแร้วของบาปที่คอยดักจับเรา ให้ตกต่ำมัวหมอง ขอพระองค์ช่วยเราให้เข้มแข็ง ครองตนในคุณงามความดี บำเพ็ญตนให้เป็นคุณประโยชน์ต่อเพื่อนพี่น้องในทุกโอกาสที่อำนวย
คุณพ่อสุพจน์
.........................................................................................................................

พี่น้องที่รัก
ชีวิตคนเราบางคนโชคไม่ดีคือ ขาดคนเตือน บางคนเหมือนโชคร้ายคือ มีคนเตือนแล้วไม่ฟัง แต่คนอับโชคคือ มีคนเตือนแล้ว แต่ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมเข้าใจ แต่กลับดื้อรั้น จะไปโทษโชคก็ไม่ควร เพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคนไม่เว้น วันนี้พระองค์ทรงส่งพระจิตเจ้าให้ทุกคน “จงรับพระจิตเจ้าเถิด” และทรงส่งความปรารถนาดีมายังเราทุกคน “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด” เป็นคำอวยพรให้เราแคล้วคลาดจากภยันตรายใดๆ ทรงประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์ ในการกล้าเผชิญความจริง ไม่หนีปัญหา หรือหวาดกลัว ท้อแท้สิ้นหวัง เพื่อให้เราชนะและบรรลุถึงสิ่งที่ดีที่สุดที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้กับเราในองค์พระจิตเจ้า ซึ่งเป็นเครื่องหมายถึงการให้ชีวิตใหม่ เลิกหลบซ่อน เลิกกลัว ทุกคนที่แตกแยกกลับมามีชีวิตใหม่ “จงกลับใจเถิด เพราะอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”(มธ.4:17) แต่ชีวิตมนุษย์หลายครั้งเป็นที่น่าเศร้าและเสียดายที่พอมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น เรามักจะไปโทษความไม่ดี ความมืด แต่กลับไม่เคยโทษตัวเอง ที่ไม่เปิดตา ไม่เปิดใจให้สว่าง แต่กลับไปเกลียดชังพระเจ้าหรือเกลียดชังคนที่นำความจริงมาให้ ความรักต่อพระเจ้าเรียกร้องการนบนอบด้วยสิ้นสุดชีวิตสุดจิตสุดใจ เพราะข่าวดีของพระเจ้ามิใช่ข่าวดีของตนเอง จะรับข่าวดีจึงจำเป็นต้องกลับใจเสียก่อน เพราะแสงสว่างของพระเจ้ายืนอยู่ข้างความจริงและความดีงามเสมอ และหากผู้ใดไม่รับความสว่าง ไม่รับความจริง ไม่ซื่อสัตย์ต่อคำสัญญาของพระเจ้า ก็เปรียบเสมือนการฉีกสัญญาของพระเจ้า ชีวิตเราก็อยู่ในความมืด ถูกกระหน่ำจากบาป และกลายเป็นทาสของบาป จึงขอให้เราได้ตระหนักในพระคุณของพระจิตเจ้า ซึ่งยังผลทำให้เราทุกคนมีความรัก มีความชื่นชมยินดี มีความสงบ มีความอดทน มีความเมตตา มีความดี มีความใจดี มีความอ่อนโยน มีความซื่อสัตย์ มีความถ่อมตน รู้จักควบคุมตนเองและมีความบริสุทธิ์ ลายเซ็นของพระจิตเจ้าที่ประทับลงไปในชีวิตของเรา ที่ไม่มีใครปลอมแปลงได้ เป็นลายเซ็นถาวรในชีวิตเรา มีแต่สันติสุข มีแต่ความรัก มีอิสระจากความกลัวใดๆ ไม่อึดอัด หวาดระแวง หวาดผวา  แต่เต็มไปด้วยความปลอดภัย มีความเห็นใจ เข้าใจ มีความสุขมีสันติ มีเอกภาพ มีภาษาเดียวกันคือภาษาแห่งความรักในองค์พระเจ้า และในพระศาสนจักรของพระองค์

คพ.พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น