วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2014

พี่น้องที่รัก
                บราเดอร์มีศักดิ์ อธิการโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กรุณามอบหนังสือ "The Wonders of Holy Mass” เขียนโดย Fr.Paul O'Sullivan, O.P.(E.D.M.)มาให้พ่อได้อ่าน พ่ออ่านแล้วก็รู้สึกว่าเป็นประโยชน์มาก และ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องมากเช่นกัน เลยเกิดความคิดจะนำเอาเนื้อความมาถ่ายทอดให้พี่น้องได้อ่านกันอีกต่อหนึ่ง ดังนั้นพ่อจะถอดความหนังสือเล่มนี้มาให้พี่น้องได้อ่านกันเป็นตอนๆไปนะครับ
พ่อสุพจน์
บทที่ 1
                ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณ

                บรรดานักบุญทั้งหลาย แม้จะเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งนัก แต่เมื่อเขาพูดถึงพิธีบูชาขอบพระคุณ นักบุญจะกล่าวออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว ลื่นไหล นักบุญโบนาเวนตูรากล่าวว่า ความมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณนั้นมีมากมายราวกับดวงดาวในท้องฟ้า และ เม็ดทรายริมชายหาดทะเลเลยทีเดียว
                ใครก็ตามที่ได้มาร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณอันศักดิ์สิทธิ์นี้ จะได้รับพระพรมากมายเหลือคณานับและเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า
                พิธีบูชาขอบพระคุณนั้น นับได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเรา ไม่มีสิ่งของใดๆในโลกจะมีคุณค่าเท่าเทียม หรือแม้แต่ในสวรรค์เองก็ตามไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพิธีบูชาขอบพระคุณอีกแล้ว
                สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ยังคงมีคาทอลิกเป็นจำนวนมาก เมินเฉย ไม่เห็นความสำคัญของพิธีบูชาขอบพระคุณ ทำไมจึงมีคาทอลิกเป็นจำนวนมากละเลยการไปร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณ ทั้งๆที่ การถวายบูชาที่ยิ่งใหญ่แห่งภูเขากัลวารีโอนี้ ได้รับการถวายอยู่ใกล้กับบ้านของเขามาก เรียกได้ว่าอยู่ใกล้ๆประตูบ้านของเขาเลย แต่พวกเขากลับละเลยที่จะไปร่วมในพิธีดังกล่าว
                พิธีบูชาขอบพระคุณ เป็นการถวายบูชาขององค์พระเยซูที่เขากัลวารีโอหรือ? ใช่แล้วพิธีบูชาขอบพระคุณคือการรื้อฟื้นการที่พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่แท้จริง มีคุณค่าแท้จริง
                แล้วทำไม มารดา ผู้เรียนคำสอน หรือ ครูทั้งหลาย ไม่ปลูกฝังเรื่องมหัศจรรย์ของพิธีบูชาขอบพระคุณลงไปยังหัวใจของบรรดาลูกๆ และ ลูกศิษย์ของเขาเล่า พระสงฆ์ก็มีหน้าที่ดังนั้นเช่นกัน
                พี่น้องโปรแตสแตนท์มักมีคำถามเช่นกันว่า ทำไมคาทอลิกถึงไม่ใส่ใจในการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณประจำวันเล่า ถ้าคาทอลิกเชื่อจริงว่า องค์พระเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนพระแท่นเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่เขากัลวารีโอ ถ้าคาทอลิกเชื่อเช่นนี้ทำไมพวกเขาถึงละเลยการไปร่วมในพิธีเล่า?
                นักบุญออกัสตินเล่าว่า มีพี่น้องต่างความเชื่อ ในยุคของท่านไปถามพวกคาทอลิกที่มีใจเย็นเฉยด้วยคำถามที่ฟังแล้วขมขื่นใจว่า ถ้าพวกท่านเชื่อว่าพระเจ้าองค์แห่งความเมตตามหาศาล และเป็นองค์ความดีสมบูรณ์ เสด็จลงมายังพระแท่นในพิธีบูชาขอบพระคุณจริงๆแล้ว พวกท่านที่เคยต่อว่าพวกเราว่า พวกเรานับถือเทพเจ้ามากมาย แต่อย่างน้อยพวกเราก็เชื่อว่านั่นคือเทพเจ้าและถวายเกียรติแด่เทพเจ้าเหล่านั้น แต่พวกท่านกลับไม่สนใจใยดีในพระเจ้าจริงแท้ของท่านเลย
                แน่ละ คริสตชนคาทอลิกที่อยู่ในความสว่างของพระเจ้า และ เข้าใจความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างถ่องแท้ เขาจะไม่พลาดโอกาสที่จะไปร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเลย .......(ยังมีต่อ คราวหน้า)
................................................................................................................................................ 

พี่น้องที่รัก
วันนี้เราสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า สมโภชศีลมหาสนิท หรือการบูชาโมทนาคุณที่เป็นแหล่งกำเนิดสูงสุดของชีวิตคริสตชน คำว่าแหล่งกำเนิดสูงสุด เป็นคำที่น่าเคารพยำเกรง เพราะในพิธีบูชาขอบพระคุณบรรจุไว้ซึ่งความสมบูรณ์ในแบบของพระศาสนจักร นั่นคือองค์พระคริสตเจ้าเอง ผู้ทรงเป็นลูกแกะปัสกา นักบุญอิเรเนอุสสอนไว้ว่า “การคิดของเราได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบูชาโมทนาคุณ (ศีลมหาสนิท) และการโมทนาคุณ (ศีลมหาสนิท) ก็จะเปลี่ยนความคิดของเรา”  คำว่า การบูชาโมทนาคุณศีลมหาสนิท Eucharist มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก ซึ่งสะท้อนคำศัพท์ของชาวยิวที่หมายถึง พระพรโดยเฉพาะในการรับประทานอาหาร เป็นผลงานของพระเจ้าต่อสิ่งสร้างของพระองค์ เป็นการกอบกู้ เป็นการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ในหัวใจของการบูชาโมทนาคุณ ก็คือการขอบพระคุณพระเจ้า เป็นการเฉลิมฉลองแห่งการสรรเสริญ และขอบพระคุณที่พระคริสตเจ้าทรงสถิตอยู่อย่างแท้จริงและเป็นปัจจุบัน และนี่คือสาเหตุที่เมื่อเราเข้าในวัด มีศีลมหาสนิทประทับอยู่ในตู้ศีล เราก็ระลึกถึงการประทับอยู่ของพระองค์ และตระหนักถึงความจริงว่า พระคริสตเจ้าที่เรารับพระองค์เข้าไป พระองค์ทรงประทับอยู่ในชีวิตของเรา และทรงทำงานอยู่ในตัวเราเสมอ
     ความเข้าใจที่ว่า พระคริสตเจ้าพระองค์ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทนั้น ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยเหตุผล แต่ต้องอาศัยความเชื่อ และความเชื่อของเราก็ต้องขึ้นอยู่กับอำนาจของพระเจ้าเท่านั้น เพราะพระคริสตเจ้าทรงตรัสว่า “ นี่คือกายของเราที่จะถูกมอบเพื่อท่าน” นักบุญซีริล ปราชญ์ของพระศาสนจักรได้กล่าวไว้ว่า “อย่าสงสัยว่า นี่จะเป็นจริงหรือไม่ แต่ควรจะรับพระวาจาของพระผู้ไถ่ด้วยความเชื่อ เพราะพระองค์ทรงเป็นความจริง พระองค์ไม่ทรงพูดเท็จ ศีลมหาสนิทเป็นพระพรที่มีค่ามหาศาล ที่ควรจะรักษาไว้อย่างมีค่าที่สุดในชีวิตคริสตชน ไม่มีอะไรจะเปรียบได้ เพราะศีลมหาสนิทคือองค์พระคริสตเจ้าเอง เป็นพระเจ้าที่ทรงซ่อนพระองค์อยู่ภายใต้รูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น ที่ได้ทรงหลั่งเลือดและเนื้อเพื่อมนุษย์ทุกคนจะได้รอด” ดังนั้นในการดำเนินชีวิตของเรา จึงควรทำให้ชีวิตของเรามีส่วนร่วมในชีวิตกับพระองค์ ฟื้นฟูชีวิตใหม่ตามวิถีแห่งความรัก ความเมตตาและความศักดิ์สิทธิ์ เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งแรกที่จะมีผลมากที่สุดก็คือ การดำเนินชีวิตของเราที่มีพระเจ้าทรงประทับอยู่  ยังผลให้ชีวิตเป็นประจักษ์พยานให้คนคนอื่นได้ดำเนินชีวิตอย่างดี


คพ.พงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น