วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2013


พี่น้องที่รัก
            พ่อมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่น้องทางสารวัดนี้อาทิตย์ละครั้ง พื้นที่ตรงนี้ถือว่าเป็นกระดานสำหรับการแบ่งปัน และ การทักทายกันนะครับ บางครั้งก็นำข้อคิดดีๆมาเล่าสู่กันฟัง บางครั้งก็เอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว มาเขียนเผื่อว่าพี่น้องหลายท่านที่ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นจะมีโอกาสทราบเรื่องราวบ้าง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วัดของเราก็มีโอกาสได้จัดพิธีสวดภาวนาเพื่อสันติภาพ ตามคำเชิญชวนของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พิธีสวดครั้งนี้ จัดขึ้นในนามของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ก็ต้องถือว่าเป็นเกียรติของวัดเรา ที่พระคุณเจ้าฯ ได้กรุณาเลือกวัดของเราเป็นสถานที่ประกอบพิธี พิธีเริ่มขึ้นประมาณ 18.45 น. และจบลง ประมาณ 19.45 น. ก็ประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้มาร่วมพิธีก็เต็มวัด มีตัวแทนจากคณะนักบวชชายหญิง มาร่วม และ พี่น้องสัตบุรุษมากันมากมาย บรรยากาศในพิธีชวนศรัทธามาก คงไม่บ่อยนักที่เราจะได้มีโอกาสเฝ้าศีลมหาสนิท สวดทำวัตรเย็นร่วมกันอย่างสง่า และรับพรศีลมหาสนิท โดยมีพระสังฆราชเป็นประธานในพิธี  ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวัดของเราที่น่าจดจำและสมควรได้รับการจารึกไว้
            วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พี่น้องหลายท่านได้ร่วมเดินทางไปทัวร์แสวงบุญที่จัดขึ้นโดยชมรมฆราวาสเขต 1 วัดของเราจัดรถบัสไปหนึ่งคันความจุ 50 ที่นั่ง ก็มีพี่น้องจับจองไปกันจนเต็มความจุ โดยที่มีพี่น้องอีกหลายท่านต้องผิดหวังไม่สามารถจับจองที่นั่งได้ทัน เนื่องจากติดต่อมาช้าเกินไป ไม่เป็นไรครับ คราวหน้า คราวหลังว่ากันใหม่
            วันก่อนพ่อเห็นการท่องเที่ยวโปรโมท พระรูปนักบุญอันนาที่วัดนักบุญอันนาท่าจีน ผ่านทางโทรทัศน์ว่า เป็นพระรูปนักบุญอันนาที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย และบอกด้วยว่า พระรูปนี้หมุนรอบตัวได้ 360 องศา เนื่องจากว่า แต่เดิมทีชาวประมงในย่านนี้มักจะแล่นเรือมาสวดภาวนาขอความคุ้มครองจากพระรูปนักบุญอันนา ซึ่งหันหน้าออกไปยังแม่น้ำก่อนที่จะออกเดินทางออกไปในทะเลเพื่อจับปลา แต่ในเวลาเดียวกันชาวบ้านที่อยู่บนฝั่งก็อยากให้พระรูปนักบุญอันนาหันหน้ามายังบนฝั่งด้วยเพื่อจะปกป้องคุ้มครองผู้ที่มีบ้านอาศัยอยู่บนฝั่ง ทางวัดก็เลยจัดทำรูปนักบุญอันนาขนาดใหญ่ สูง 8 เมตร หมุนได้รอบตัว เพื่อตอบสนองต่อความศรัทธาของชาวบ้านเสียเลย โฆษณากันขนาดนี้ อีกหน่อยคนทั่วประเทศคงต้องเดินทางมาเยือนกันมากมายเป็นแน่แท้ ก็หวังว่าผู้แสวงบุญทุกท่าน จะอิ่มเอมเปรมใจ และ อิ่มบุญกันถ้วนหน้านะครับ

คุณพ่อ สุพจน์
.....................................................................................................
เราเชื่ออะไร
ทำไมพระเจ้าจึงต้องทรงแสดงพระองค์เองแก่เรา

มนุษย์สามารถรู้ได้ด้วยเหตุผลว่า มีพระเจ้า แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วพระเจ้าทรงเป็นอย่างไร เพราะมนุษย์มีขอบเขตจำกัด ดังนั้น ความยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีขอบเขตจำกัดของพระเจ้า จึงมิอาจเข้าไปอยู่ในความคิดของมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่กระนั้นเราก็สามารถพูดถึงเรื่องของพระเจ้าได้อยู่บ้าง เพราะพระองค์ทรงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้มนุษย์ได้รู้จักพระองค์ จึงทรงเผยแสดงพระองค์เองกับมนุษย์
จริงๆ แล้วพระเจ้าไม่จำเป็นต้องเผยแสดงพระองค์เองแก่เรา แต่พระองค์ก็ทรงกระทำด้วยความรัก เช่นเดียวกันกับความรักประสามนุษย์ ที่เราจะรู้จักบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับบุคคลที่เรารักได้ ก็ต่อเมื่อเขาเปิดหัวใจให้เรา ในลักษณะเดียวกัน เราจึงมีความรู้บางประการในส่วนที่ลึกที่สุดของพระเจ้าได้ ก็ต่อเมื่อพระองค์ผู้ทรงล้ำลึกนี้ได้เปิดเผยพระองค์เองแก่เราด้วยความรัก นับตั้งแต่เรื่องการสร้างโลกมา การเผยแสดงผ่านทางบรรดาประกาศก จนสุดท้ายทรงเผยแสดงพระองค์เองอย่างมากที่สุดในพระบุตร พระเยซูคริสตเจ้านี่เอง
โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าผู้ที่เราไม่อาจมองเห็นได้ จึงได้กลายเป็นพระเจ้าที่เรามองเห็นได้ พระองค์ทรงกลายเป็นมนุษย์เหมือนเรา ก็เพื่อทรงรับแบกภาระทั้งหมดของเรา เต็มใจร่วมอยู่กับเราทั้งในความทุกข์ทรมาน และความตาย เพื่อที่จะทรงเปิดประตูให้เราได้เข้าสู่ชีวิตใหม่ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงรักเรามากเพียงใด ดังนี้เอง โดยการฟังพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งเปรียบดังพระวาจาสุดท้ายของพระเจ้า  มนุษย์ทุกสมัยจึงจะรู้ว่าพระเจ้าคือใคร และสิ่งใดจำเป็นต่อความรอดพ้นของพวกเขา
ไม่อาจมีคริสตชนแท้คนใดละทิ้งการส่งต่อความเชื่อนี้ได้  “เราคือพระคริสตเจ้าสำหรับผู้อื่น” หมายความว่า คริสตชนแท้ทุกคนย่อมต้องปรารถนาให้พระเจ้าได้พบกับผู้อื่นด้วย เขาต้องบอกกับตนเองว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการฉัน จึงให้ฉันได้รับศีลล้างบาป และศีลกำลัง ฉันจึงมีความรับผิดชอบในการช่วยผู้คนที่อยู่รอบข้างฉันให้ได้รู้จักกับพระองค์ และรู้จักความจริงที่สมบูรณ์ที่สุดนี้
“เราอาจไม่รู้ดีจนสามารถพูดเรื่องของพระเจ้าได้ 
แต่จะวิบัติแก่ผู้ที่นิ่งเงียบในเรื่องของพระองค์”
นักบุญ ออกัสติน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น