วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สารวัดอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2012


พี่น้องที่รัก
            พอดีไปอ่านเจอข่าวเกี่ยวกับการปิดวัดคาทอลิกสองแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา คือวัดนักบุญแอนดรูว์ ในเมืองออกัสต้า และวัดนักบุญเลโอ ในเมืองลิทช์ฟีลด์ เมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว วัดทั้งสองอยู่ในความดูแลของวัดนักบุญมีคาแอล ซึ่งเป็นวัดแม่ พระสังฆราช ริชาร์ด มาโลนประมุขของสังฆมณฑลนี้ให้เหตุผลว่า เหตุผลที่ตัดสินใจปิดวัดทั้งสองนั้นเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย แต่สังฆมณฑลมีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ ทำให้ต้องตัดสินใจที่จะปิดวัดทั้งสอง และ ขึ้นป้ายประกาศขายอาคาร เป็นทางออกที่ทางสังฆมณฑลเลือกเพื่อจะได้ดูแล รักษาส่วนอื่นๆของสังฆมณฑลไว้
            ในมิสซาสุดท้ายของวัดทั้งสอง พระสังฆราชกล่าวว่า “วันวันนี้ สำหรับพี่น้องทั้งหลาย คงเป็นเรื่องเศร้าใจ พวกเราคงมีความรู้สึกว่าเราสูญเสีย เรารู้สึกว่าเราต้องปล่อยวางจากสิ่งที่เรารัก เราคุ้นเคย” สัตบุรุษคนหนึ่งกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องเศร้า เพราะสำหรับคนที่มาสวดภาวนาที่นี่สม่ำเสมอ และ มีโอกาสได้พบปะกันที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ หวังว่าเราคงมีโอกาสได้ไปพบปะกันในวัด ที่ใกล้เคียงกับวัดแห่งนี้อีก” สัตบุรุษอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “แม้ว่าที่นี่จะเป็นวัดเล็กๆ แต่สัตบุรุษที่มาที่วัดแห่งนี้ก็สนิทสนมคุ้นเคยกันดี ฉันคงจะต้องหวนคิดถึงหาห้วงเวลาที่ดีที่ผ่านมาแบบนี้ไปอีกนาน” พ่อเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้คือ คุณพ่อ ฟรังซิส มอริน กล่าวว่า “การตัดสินใจปิดวัดทั้งสอง เกิดขึ้นเพราะปัจจัยหลายประการ แต่เหตุผลหลักก็คือ สังฆมณฑลประสบภาวะวิกฤติทางการเงิน ในการค้ำจุนกิจการต่างๆที่สังฆมณฑลรับผิดชอบ และ เพื่อหันมาดูภาพรวม และ ปัญหาต่างๆที่เรากำลังเผชิญ รวมไปถึงการวางแผนสำหรับอนาคต และ การรักษาองคาพยพที่เหลือให้ดีที่สุด”
            ฟังเรื่องดังกล่าว แล้วใจหายไม่น้อย เพราะไม่ค่อยเคยได้ยินเรื่องราวทำนองนี้ในบ้านของเรา แม้ว่าเรื่องข้างต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างแดน ต่างวัฒนธรรม ต่างปัจจัยแวดล้อม แต่ในฐานะที่เป็นพระศาสนจักรเดียวกัน เราก็อดเศร้าใจไปด้วยไม่ได้
            พระศาสนจักรต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมายในแต่ละยุค แต่ละสมัย นาวาพระศาสนจักรแล่นฝ่าคลื่นลม พายุ มานักต่อนัก และยังคงแน่วแน่แล่นมุ่งหน้าไปยังฟากฝั่งแห่งแผ่นดินที่พระเจ้าทรงนำพา ในปีนี้ วัดของเราต้องมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง คือ มีการตัดสินใจรวมกิจการโรงเรียนของวัดซึ่งได้แก่ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา และ โรงเรียนเซนต์ไมเกิ้ล ให้คงเหลือไว้เพียงโรงเรียนเดียว เนื่องจาก มีเด็กนักเรียนจำนวนน้อยลงจนไม่สามารถที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการในด้านต่างๆ เพื่อให้การรวมกิจการของทั้งสองโรงเรียนดำเนินไปอย่างราบรื่นทั้งในแง่ของเด็กนักเรียน บุคคลากรครู เจ้าหน้าที่ พนักงานในส่วนต่างๆ ทั้งนี้ได้มีการตัดสินใจแล้วว่า จะคงใช้ชื่อ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา อันเป็นชื่อของนักบุญหลุยส์กษัตริย์ซึ่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของวัดของเราเป็นชื่อของโรงเรียนต่อไปและคาดว่าเมื่อรวมกิจการโรงเรียนทั้งสองเข้าด้วยกันแล้ว จะสามารถดำเนินการด้านการให้การศึกษาอบรมให้กับบุตรหลานของเราอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้
            เราต้องขอบคุณพระเจ้าเสมอๆ ที่เรายังคงมีวัดซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของหมู่มวลสัตบุรุษอยู่ท่ามกลางชาวเรา เราต้องรักวัดของเรา เราต้องช่วยกันเท่าที่สามารถด้วยการมีส่วนร่วมกับวัดเท่าที่สามารถ เพื่อช่วยให้งานอภิบาลในด้านต่างๆ สำหรับสัตบุรุษในวัดของเราในช่วงอายุต่างๆ ตั้งแต่ เด็กเล็ก เยาวชน วัยรุ่น ผู้ใหญ่ในวัยทำงาน ผู้อาวุโส ดำเนินไปอย่างราบรื่น ใครที่มีเวลาก็ควรให้เวลา ใครที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะก็ควรช่วยในส่วนที่ตัวเองชำนาญ ใครที่มีศักยภาพในด้านต่างๆก็ไม่ควรละเลยที่จะสนับสนุนกิจการของวัดในส่วนที่เราทำได้ เพื่อให้วัดของเรามีบทบาทในการรับใช้ทุกๆคนให้ทั่วถึงอย่างแท้จริง
                                                                                                                        พ่อสุพจน์
...........................................................................................................

คำภาวนาจากใจ
สวัสดีพี่น้องที่รัก
ระหว่างจันทร์ถึงศุกร์นี้ พวกเราพระสงฆ์จาก 6 สังฆมณฑล ได้มารวมตัวกันที่บ้านผู้หว่านเพื่อสัมมนาและเป็นการเตรียมตัวสำหรับปีแห่งความเชื่อ (YEAR OF FAITH) ที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ได้ประกาศไปทั่วพระศาสนจักรสากล แน่นอนว่าในการสัมมนานั้นต้องมีการอภิปรายและนั่งฟังบรรยายจากวิทยากรหลายท่าน ที่มาให้ความรู้และแนวคิดสำหรับพระสงฆ์ กับการประกาศพระวรสารในยุคปัจจุบัน แต่สิ่งที่พ่ออยากจะบอกนั้นนอกเหนือจากการฟังบรรยายในห้องประชุม แต่เป็นการพบปะพูดคุยกันระหว่างพระสงฆ์เพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่ได้มีโอกาสมาเจอและสังสรรค์กัน สิ่งนี้พ่อถือว่าเป็นหนึ่งในหัวข้อสัมมนาเลยก็ว่าได้ เพราะคุณค่าที่ได้รับนั้นเพียงพอและส่งเสริมชีวิตสงฆ์แก่กัน
            ในคืนแรกนั้นพ่อได้รับฟังประสบการณ์จากพระสงฆ์ที่บวชครบ 25 ปี ของสังฆมณฑลจันทบุรีท่านหนึ่ง ได้เล่าถึงการทำงานอภิบาลที่ผ่านไปนั้น ทำให้อยากจะกลับเข้าไปบ้านเณรอีกครั้งเพื่อสอนเณร แบ่งปันเรื่องงานอภิบาลและหัวใจของผู้อภิบาลด้วยรักและรับใช้ คุณพ่อบอกกับพวกเรารุ่นน้องๆ ว่า “พ่อนะ สวดขอต่อพระทุกวัน ขอให้พ่อได้กระทำในสิ่งที่ควรทำ และยิ่งกว่านั้น พ่อขออีกว่าขอให้พ่อไม่ไปกระทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำด้วย...” เพราะพ่อท่านนั้นบอกว่า “พระเจ้านั้นทรงรักมนุษย์จริงๆ และโคตรรักพวกเราที่เป็นพระสงฆ์เลย” (ขออนุญาตใช้คำแท้ๆ จากปากที่อาจไม่สุภาพสำหรับพี่น้อง) แล้วคุณพ่อยังถามพวกเราทุกคนด้วยว่าจริงมั้ย?
            พี่น้องครับ พ่อประทับใจประสบการณ์และคำพูด รวมทั้งคำภาวนาที่สื่อออกมาอย่างจริงใจของคุณพ่อท่านนี้จริงๆ เพื่อเชื่อมั่นในความรักของพระเจ้าในชีวิตมนุษย์เรา และอยากบอกกับพี่น้องด้วยเหมือนกันว่าพระองค์รักพี่น้องทุกคนจริงๆ แต่ในความบาป ความเห็นแก่ตัว การยึดอัตตาของตนเองเป็นใหญ่นั้น ทำให้แม้แต่พ่อเองก็รู้สึกเหมือนกันว่าหลายครั้งทำอะไรที่ไม่ควรทำ พูดอะไรออกไปที่ไม่ควรพูด แล้วก็มาเสียใจภายหลัง คำภาวนาทุกวันของคุณพ่อบวช 25 ปีท่านนั้น ชวนให้พ่อเองและน่าจะสำหรับตัวเราแต่ละคนด้วย ภาวนาเช่นเดียวกันว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าโปรดให้ลูกใช้วันนี้ เพื่อทำสิ่งที่ควรทำ และอะไรที่ไม่ควรทำก็ขอให้ลูกอย่าได้กระทำเลย”
            พี่น้อง สิ่งที่เราควรพกติดตัวไว้เสมอในการเดินติดตามพระองค์นั้น ไม่ใช่อาหาร เครื่องนุ่งห่ม หรือเงินทอง แต่พระองค์บอกกับเราวันนี้ให้เราเอาแต่ “ไม้เท้า รองเท้า และมีพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังไปกับเราตลอดทางก็พอแล้ว”
            สิ่งที่ควรกระทำบางครั้งเราอาจไม่ได้ทำ เช่น การคิดถึงพระในการภาวนา การแสดงความรักเมตตาต่อกันในบ้าน ในครอบครัว การเห็นอกเห็นใจกัน พูดให้กำลังใจกัน ซึ่งเสริมสร้างชุมชนแห่งความเชื่อวัดเซนต์หลุยส์ของเรา และสิ่งที่เราไม่ควรกระทำ อันเป็นกิเลส ตัณหา ความอิจฉา ริษยา การพูดจาใส่ร้าย นินทา และบาปอื่นๆ ซึ่งบ่อนทำลายตัวเราเอง ครอบครัว สังคม และชุมชนความเชื่อของเรานั้น เป็นเพราะลัทธิสัมพัทธนิยม (Relativism) คือแนวความคิดที่บอกว่าทำอะไรตามใจกู หรือการมั่วนิ่มเอานั่นเอง ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ขอให้พอใจและไม่เดือดร้อนใครไว้ก่อน นี่เป็นอันตรายและการเบียดเบียนศาสนาในยุคปัจจุบัน ที่ทำลายความเชื่อ พระเจ้า และคุณธรรมความดีให้หมดไปพี่น้องครับ เชื่อเถิดว่าพวกเราทุกคนช่วยกันได้ ด้วยคำแนะนำของพระเยซูเจ้าวันนี้ ติดตามพระองค์ในพระวาจาและคำสั่งสอนของพระองค์ เพราะพระองค์เท่านั้นที่จำเป็นต่อชีวิตเราเพื่อไปสวรรค์
งานประกาศพระวรสารไม่สำคัญอยู่ที่เงินทอง แต่อยู่ที่พระองค์ทรงกระทำให้สิ่งที่เราทำทุกวันนั้นเป็นการประกาศความเชื่อ ขอพวกเราจงภาวนาให้เราได้รับพลังจากพระองค์เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ถึงความรักพระองค์กันเถิด
                                                                        คุณพ่อปลัดองค์เล็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น