พี่น้องที่รัก
วันคริสต์มาสก็ผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ความรู้สึกแห่งความชื่นชมยินดียังมิจางหาย
เพราะเทศกาลนี้คือเทศกาลแห่งความสุข บรรยากาศ แสงไฟประดับ กล่องของขวัญ
เสียงเพลงไพเราะ คำอวยพร ช่างผสมกลมกลืนเข้ากันอย่างลงตัว นำพาให้หัวใจพองโต
เพิ่มพลังให้กับชีวิตพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าอีกปีหนึ่ง ระหว่างช่วงคริสต์มาส
พ่อกับคุณพ่อปลัดทั้งสอง ซิสเตอร์ มาเซอร์และ บรรดานักขับร้อง พลมารี ได้มีโอกาส
นำพระกุมารออกไปอวยพรและ ร้องเพลงคริสต์มาสแครอล
ตามบ้านสัตบุรุษที่อยู่ไม่ไกลจากวัด
พ่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อ
ผสมผสานกับความชื่นชมยินดีของเจ้าบ้านที่มีโอกาสได้รับพรจากพระกุมาร เป็นประดุจของขวัญที่มีค่าที่สุด
ยากจะหาสิ่งใดมาเทียบเคียงได้ เพราะ พระเยซูกุมาร เจ้าชายแห่งสันติ นำสันติสุข
ความยินดี ความรัก และแสงสว่างจากพระเจ้ามาประทานให้ เทศกาลนี้
เราแต่ละคนคงได้รับของขวัญ จากเพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหายบ้าง ตามสมควร
แต่พ่อมั่นใจว่า ของขวัญที่ประเสริฐสุดที่พระเจ้าประทานให้กับเรามนุษย์ คือ
องค์พระกุมารเยซูที่มาบังเกิดท่ามกลางชาวเรา
เพราะพระองค์ไม่ได้ให้สิ่งของที่จะเสื่อมสลายไปได้
แต่พระองค์ประทานชีวิตที่ไม่รู้จักตายให้กับเรา เป็นชีวิตที่จีรังยั่งยืน
เป็นนิรันดร สำหรับเราทุกคน นี่แหละคือของขวัญล้ำค่าที่สุดของเรา
อีกไม่กี่วันก็จะถึงปีหน้าฟ้าใหม่แล้ว แต่ละปีก็ผ่านไปรวดเร็ว
ถ้าเราหันมาทบทวนดูช่วงเวลาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาอย่างพินิจพิเคราะห์
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเจ้าประทานพระพรให้กับเรา และ ครอบครัวของเรามากมาย
เราจึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะต้องขอบพระคุณพระเจ้าเสมอมิได้ขาด
รวมทั้งวอนขอพระพรสำหรับวันเวลาที่จะมาถึงในช่วงปีใหม่อีกด้วยครับ
พ่อขอถือโอกาสนี้ ส่งความสุข ความปรารถนาดีในปีใหม่นี้มายังพี่น้องทุกท่านด้วย
ขอให้พี่น้อง ได้รับพรที่พี่น้องปรารถนา มีอายุมั่นขวัญยืน สุขภาพแข็งแรง
ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนาทุกประการเทอญ
สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2557 ครับ
คุณพ่อ สุพจน์
เราเชื่ออะไร
ทำไมเรียกพระนางมารีย์ว่า “มารดาพระเจ้า”
แม้ว่าจะมีการค้นพบเอกสารอันเก่าแก่ในช่วงต้นศตวรรษที่
3 ซึ่งในนั้นบันทึกบทภาวนา “โอ้พระชนนีของพระเจ้า” เอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าคำสอนเรื่องความเป็นพระเจ้าแท้ของพระเยซูเจ้านั้นเป็นที่ถกเถียงกันในพระศาสนจักรยุคแรกอย่างมาก
โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 3-4 ที่มีปัญหา
และมีการต่อสู้กันอย่างหนักเพื่อจะรักษาความเชื่อเกี่ยวกับรหัสธรรมแห่งพระบุคคลของพระเยซู
คริสตเจ้าไว้ว่าพระองค์มีความเป็นพระเจ้าแท้จริง
เหมือนและเท่าเสมอกับพระบิดาของพระองค์ และทรงเป็นมนุษย์แท้ในเวลาเดียวกันด้วย
หนึ่งในบุคคลที่ถือว่ามีบทบาทสำคัญคนหนึ่งที่ออกมาปกป้องคำสอนเรื่องนี้ก็คือ
นักบุญ ซีริล แห่งเมืองอเล็กซานเดรีย ท่านไม่พอใจที่มีผู้มาสอนว่า
พระนางมารีย์สามารถเป็นมารดาของพระเยซูในฐานะที่เป็นมนุษย์เท่านั้น
แต่ไม่อาจเป็นมารดาของพระองค์ในฐานะเป็นพระเจ้าได้ ที่สุดในปี 431
เพื่อยุติข้อโต้แย้ง และคำสอนที่ผิดหลงนี้ นำมาซึ่งสังคายนาแห่งเมืองเอเฟซัส
เพื่อยืนยันว่า พระนางมารีย์ทรงถือเป็นดังพระมารดาของพระเจ้า (Theotokos) พระนางมิได้เพียงแค่ให้กำเนิดชายผู้หนึ่ง
ซึ่งภายหลังการเกิดได้กลายเป็นพระเจ้า แต่
พระเยซูนั้นทรงเป็นพระบุตรแท้ของพระเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของพระนางแล้ว
แน่นอนว่าพระนางมารีย์ทรงเป็นมนุษย์
และเป็นดังลูกหลานของอาดัม เอวา พระนางจึงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ต้องการความรอดของการไถ่กู้จากองค์พระคริสตเจ้าด้วย
พระนางจึงถือเป็นสมาชิกคนหนึ่ง และเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของพระศาสนจักร
จึงสมควรที่พระศาสนจักรจะได้ให้เกียรติ์แด่พระนางในฐานะทรงเป็นมารดาที่น่ารักยิ่งของสมาชิกทุกคน
และได้กำหนดให้ทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปี เป็นวันฉลองพระนางมารีย์ พระชนนีพระเจ้า
เพื่อยืนยันความเป็นพระเจ้าแท้ มนุษย์แท้ของพระเยซูเจ้า
“ผู้ใดก็ตามที่เรียกพระนางมารีย์ว่าเป็นมารดาพระเจ้า
เขาก็ยืนยันว่าพระบุตรของพระนางเป็นพระเจ้าด้วย”
นักบุญซีริล
แห่งอเล็กซานเดรีย (370-444