วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2012


สวัสดีครับพี่น้องที่รัก
            คำกล่าวที่ว่า "สายน้ำไม่คอยท่า วันเวลาไม่คอยใคร" ช่างเป็นคำกล่าวที่เตือนใจเราให้เห็นคุณค่าของเวลาที่เราแต่ละคนมีอยู่เสียจริงๆ เพราะหลายครั้งเรามนุษย์เราก็เป็นเหมือนปลาที่ว่าย อยู่ในน้ำ ชีวิตของมันคุ้นเคยอยู่กับน้ำจนลืมความสำคัญของน้ำไป ต่อเมื่อไม่มีน้ำนั่นแหละจึงจะตระหนักถึงความสำคัญของน้ำที่มีความจำเป็นต่อการดำรงอยู่ของปลาทุกตัว ในทำนองเดียวกัน มนุษย์จำนวนมากขาดความคิดคำนึงที่ถูกต้องในการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ บางคนไม่เห็นคุณค่าของเวลา เมื่อเปิดตาตื่นขึ้นมา ก็ใช้เวลาไปเรื่อยอย่างขาดจุดมุ่งหมาย ใช้เวลาอย่างสิ้นเปลือง โดยหารู้ไม่ว่า เวลาที่เราใช้ไปแล้วก็ผ่านไปไม่มีวันหวนกลับเอามาใช้ใหม่ได้อีก เราแต่ละคนสูญเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากมาย ด้วยเหตุนี้ขอให้เรารู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และมีคุณค่าสำหรับชีวิตของเราเอง และ ชีวิตของผู้อื่นด้วย อย่าให้วันเวลาผ่านไปจนเข้าตำราที่ว่า "เมื่อคิดได้ ก็สายเสียแล้ว"
             เราเข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้ว นั่นหมายความว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมตัวรับการเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสตเจ้า ทั้งในแง่ที่ว่า พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งเพื่อพิพากษามวลมนุษย์ และทั้งในแง่ที่ว่า เรากำลังเตรียมตัวรำลึกถึงช่วงแห่งการที่พระองค์ได้เคยมาบังเกิดเป็นมนุษย์ มารับเอาธรรมชาติมนุษย์เยี่ยงเราทุกคน การเตรียมตัวนี้จึงหมายถึง การจัดแจงชีวิตของเราให้พร้อมเสมอสำหรับวันเวลาสุดท้ายของชีวิตของเราแต่ละคนนั่นเอง พูดง่ายๆว่า เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความตายที่จะมาถึง หรือ ให้สั้นและชัดกว่านั้นอีกก็คือ เตรียมตัวตายอย่างดี นั่นเอง เพราะโดยธรรมชาติของเราทุกคน ชีวิตที่เรามีและเป็นอยู่ในโลกนี้นั้น เป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ถาวร ไม่จีรัง และก็ไม่แน่นอนอีกด้วย เราทุกคนจึงต้องตั้งเป้าหมายในการดำรงชีวิตให้ชัดเจน เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเรามนุษย์ทุกคนในโลกนี้ก็คือ การเดินทางไปสู่เมืองสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านแท้ ถาวร นิรันดรของเราทุกคน ด้วยเหตุนี้ วันเวลาทุกนาทีของเราจึงควรมุ่งหน้าเดินตรงไปยังเป้าหมายนี้ด้วยการประกอบคุณงามความดี และ ถือปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้าเสมอ
พ่อสุพจน์
......................................................................................................................................................

พี่น้องที่รักทุกท่าน
             ภาคที่สองของพิธีบูชาขอบพระคุณคือ ภาคพิธีศีลมหาสนิท ซึ่งฟังดูเหมือนกับว่าเป็นเพียงพิธีเสกศีลและการรับศีลมหาสนิทเท่านั้น แต่ความจริงแล้วมีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ดังที่จะนำเสนอให้พี่น้องได้รับรู้ดังนี้ เริ่มแรกคือการเตรียมถวายเครื่องบูชา ก่อนที่จะมีการนำเครื่องบูชามาถวายซึ่งจะกลายเป็นพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้านั้น จะต้องมีการเตรียมพระแท่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพิธีศีลมหาสนิทโดยการปูผ้ารองถ้วยกาลิกส์ จานศีล ผ้าเช็ดถ้วยกาลิกส์ ถ้วยกาลิกส์ และหนังสือมิสซามาวางบนพระแท่น จากนั้นนำของถวายมาซึ่งแต่เดิมสัตบุรุษจะเป็นผู้นำแผ่นปังและเหล้าองุ่นมาถวายเพราะเป็นสิ่งที่สัตบุรุษสามารถทำขึ้นมาเองได้ แต่ในปัจจุบันสัตบุรุษจะไม่เป็นผู้นำมาถวายแล้ว แต่มักจะใช้สิ่งอื่นเป็นการทดแทน เช่น เงิน หรือของอื่นๆ เช่น น้ำมัน เนย ผลไม้ ดอกไม้ ฯลฯ ในประวัติศาสตร์เคยมีบันทึกไว้ว่า นักบุญซีเปรียนได้ตำหนิสตรีฐานะดีคนหนึ่งที่มักไปวัดโดยไม่มีอะไรมาถวาย และรับศีลมหาสนิทจากขนมปังซึ่งคนจนนำมาถวาย ซึ่งเป็นสิ่งที่สตรีผู้นั้นควรที่จะน่าละอายใจ
            ต่อจากนั้นมีการถวายกำยานแด่เครื่องบูชาและพระแท่นซึ่งหมายถึงเครื่องบูชาและคำภาวนาของพระศาสนจักรลอยขึ้นไปยังพระผู้เป็นเจ้า ส่วนการล้างมือของพระสงฆ์นั้นมีกำเนิดมาจากประเพณีของตะวันออก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการชำระล้างจิตใจ นักบุญซีรีลแห่งเยรูซาเล็มพูดถึงเรื่องนี้ว่า ฉะนั้นจงชำระจิตใจด้วย มิใช่เพียงชำระมือที่เปื้อน ต่อจากการล้างมือของพระสงฆ์จะเป็นบทภาวนาของพระสงฆ์ก่อนเข้าสู่พิธีเสกศีลมหาสนิท แต่เดินนั้นเป็นการเชิญชวนให้พระสงฆ์ที่ร่วมในพิธีได้ร่วมใจกันภาวนาพร้อมกับประธาน แต่เมื่อมีพระสงฆ์ประกอบพิธีเพียงคนเดียวจึงเชิญชวนให้สัตบุรุษได้ภาวนาในใจร่วมกัน คำภาวนานี้เป็นการวอนขอให้พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดรับเครื่องบูชาที่กำลังถวายนี้และขอให้มิสซานี้เป็นคุณประโยชน์แก่ตัวของผู้ร่วมพิธีทั้งหลายตามจุดประสงค์ที่ได้วอนขอไว้
            อาทิตย์นี้เราเข้าสู่ปีพิธีกรรมใหม่ของพระศาสนจักรคือ ปีซี (Year C) โดยเริ่มเข้าสู่สัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า อาทิตย์นี้มิสซา 17.30 น. จะมีพิธีต้อนรับคริสตชนใหม่ที่เรียนคำสอนผู้ใหญ่กับวัดของเรา เป็นจำนวน 12 ท่านด้วย จึงขอพี่น้องร่วมใจกันภาวนาและเป็นกำลังใจให้กับผู้เตรียมตัวสำหรับเป็นคริสตชนใหม่ของวัดของเราด้วย และในโอกาสที่เราเข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะเตรียมจิตใจของเราสำหรับการเฉลิมฉลองพระคริสตสมภพในปีนี้ โดยหวังว่าเราทุกคนจะได้รับพระพรของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมในชีวิตคริสตชนของเราเสมอไป
                                                                                                                                    คุณพ่อศวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น