พี่น้องที่รัก
การฉลองวัดเซนต์หลุยส์ของเราเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
มีสัตบุรุษมาร่วมฉลองกันมากมายเหมือนทุกๆปี ในปีนี้ได้มีการเพิ่มเต็นท์บริเวณหน้าบ้านพักพระสงฆ์อีกสองหลัง
ก็ปรากฏว่ามีผู้มาร่วมฉลองนั่งกันเต็ม
นับเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นผู้คนจากที่ต่างๆ
เดินทางมาร่วมฉลองวัดของเราคับคั่ง พ่อก็อดปลื้มใจแทนนักบุญหลุยส์ไม่ได้
ในปีนี้ก็ต้องบอกว่าพระเจ้าทรงจัดทุกสิ่งเอาไว้อย่างลงตัว
ในระหว่างพิธีฝนฟ้าก็เป็นใจ ไม่มีฝนตกลงมารบกวนทั้งในค่ำวันเสาร์
และวันภาคเช้าของวันอาทิตย์
รวมถึงในระหว่างการรับประทานอาหารหลังจากเสร็จพิธีแล้วด้วย
เพียงแต่ภาคบ่ายระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาของเด็กช่วยมิสซา และ
ฟุตซอลคู่พิเศษระหว่างพระสงฆ์กับนักศึกษาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์
มีฝนตกลงมารบกวนกิจกรรมบ้าง
แต่การจัดการแข่งขันกีฬาก็สามารถแข่งขันจนสำเร็จลุล่วงไปได้
พ่อต้องขอขอบคุณทุกๆฝ่ายที่มีส่วนร่วมจัดเตรียมการฉลองวัดในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ก่อนอื่นที่ลืมไม่ได้ต้องขอบคุณพระเจ้าที่โปรดให้การจัดงานฉลองวัดของเราผ่านไปอย่างสวยงามราบรื่น
ขอขอบพระคุณพระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
ที่ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธีอย่างสง่างาม ภาพที่พระคุณเจ้าทักทายสัตบุรุษ
และบรรดาเด็กๆ เป็นภาพที่น่ารักประทับใจพวกเราจริงๆ ต้องขอขอบคุณพระสงฆ์
นักบวชชายหญิง และ
พี่น้องสัตบุรุษทุกท่านที่มาร่วมใจกันสรรเสริญพระเจ้าในวันฉลองศาสนนามของท่านนักบุญหลุยส์อย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ
ขอขอบคุณ คณะกรรมการสภาภิบาล คณะนักขับร้อง เด็กช่วยมิสซา ผู้อ่านพระคัมภีร์
ผู้ถือถุงทาน นักเรียนจากโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการที่มาช่วยกันแบกบุษบก นักเรียนจากโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา
คณะพลมารี องค์กรทุกองค์กรของวัด โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
และพี่น้องที่มีจิตศรัทธาจัดหาอาหารเที่ยงมาเลี้ยงสัตบุรุษที่รับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
อิ่มหนำกันทั่วหน้า ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ และ อิ่มท้องว่างั้นเถอะ ที่ลืมไม่ได้ก็ต้องขอขอบคุณ
เจ้าหน้าที่ของวัดและโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา
ที่เหน็ดเหนื่อยกันทั่วหน้าในการจัดเตรียมงานในรายละเอียดต่างๆ
ซึ่งจะแจกแจงอย่างละเอียดตรงนี้คงมีพื้นที่ไม่พอเป็นแน่
สุดท้ายถ้ายังมีข้อขาดตกบกพร่องประการใด พ่อขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
พ่อจะพยายามแก้ไขปรับปรุงในโอกาสต่อๆไปครับ
คุณพ่อ สุพจน์
..........................................................................................................
เราเชื่ออะไร
เราอยู่ในโลกนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร
เราอยู่ในโลกนี้เพื่อรู้จักและรักพระเจ้า
เพื่อกระทำสิ่งดีตามน้ำพระทัยของพระองค์ และเพื่อสักวันหนึ่งจะได้อยู่ในสวรรค์
การเป็นมนุษย์ หมายถึงการมาจากพระเจ้า
และกลับไปหาพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างเรามาจาก
“ส่วนที่ล้นออกมาจากความรักของพระองค์”
ทรงปรารถนาจะแบ่งปันความชื่นชมยินดีมิรู้สิ้นของพระองค์แก่เรา
ผู้เป็นสิ่งสร้างแห่งความรักของพระองค์
พระเจ้าทรงจัดวางการแสวงหา
และการพบพระองค์ไว้ในหัวใจของเรา นักบุญออกัสตินกล่าวว่า “พระองค์ทรงสร้างเรามาเพื่อพระองค์
และหัวใจของเราไม่อาจสงบลงได้หากยังมิได้พักผ่อนในพระองค์” จึงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะแสวงหาพระเจ้า
พบกับความจริงและความสุข
บุคคลจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเขาได้พบกับพระเจ้า
การรู้จักพระเจ้าที่มองไม่เห็น เป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่สำหรับจิตใจมนุษย์
เพราะหลายคนกลัว จึงถอยห่างออกไป
ส่วนเหตุผลอื่นว่าทำไมบางคนจึงไม่ต้องการรู้จักพระเจ้า
ทั้งนี้เพราะเมื่อรู้จักแล้ว เขาต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ใครก็ตามที่กล่าวว่า
คำถามเรื่องพระเจ้านั้นไม่สำคัญ ก็เพราะว่าคำตอบที่ได้นั้น
ไม่ทำให้ชีวิตของเขาเป็นเรื่องง่าย
“ผู้ใดแสวงหาความจริงก็แสวงหาพระเจ้า
ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม”
นักบุญ เอดิธ สไตน์