วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2562

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2019


สารวัดวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม2019
สัปดาห์ที่แปดเทศกาลธรรมดา

ประกาศจากวัดเซนต์หลุยส์
เรื่องเวลามหาพรตและสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ประจำปี 2019

วันพุธรับเถ้าที่ 6มีนาคม 2019 เริ่มมหาพรตมิสซาเช้าเวลา 6.00 น. เย็นเวลา 17.30 น.และค่ำเวลา 19.00 น. โปรยเถ้าทั้งสามมิสซา
ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต จะมีเดินรูปสิบสี่ภาคหลังมิสซา 17.30 น.จบแล้ว และเดินรูปภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดเวลา 14.00 น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกันการเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 09.15 น. และเวลา 17.00 น.ทุกวันอาทิตย์(เว้นวันอาทิตย์ใบลาน)  เดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ 19 เมษายน เวลา 18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน
       วันศุกร์ที่ 5 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึงวันเสาร์ที่ 6 เมษายนเวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า มีพิธีตื่นเฝ้า(ศีลมหาสนิท)ที่วัดพระจิตเจ้าของโรงพยาบาล และโปรดศีลอภัยบาปในคืนวันศุกร์ตั้งเวลา 19.00 น.จนถึงเวลา 21.00 น.ที่วัดเซนต์หลุยส์
วันอาทิตย์ใบลาน ตรงกับวันที่ 14 เมษายน 2019มิสซารอบ 08.00 น.เสกใบลานหน้าโถงศาลา
หลุยส์มารีย์ของวัด(มีบริการใบลานฟรีแบบไม่ถัก)และบ้านผู้สูงอายุนำใบลานถักสวยงามมาจัดจำหน่ายเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับผู้สูงอายุของบ้านลำไทร ทางวัดต้นหมากเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่บ้าน
เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์18 เมษายนมิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและมีเฝ้าศีลที่วัด
พระจิตเจ้าของโรงพยาบาล จนถึงเวลา 23.00 น.
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 19 เมษายนพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ 20 เมษายน พิธีเสกไฟ เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์ และล้างบาปผู้ใหญ่เตรียมตัว
เป็นคริสตชน(พิธีเสกไฟเริ่มต้นที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด)
ตลอดเทศกาลมหาพรต ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ได้แบ่งปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อช่วยผู้ยากไร้

คุณพ่อเจ้าอาวาสวัด
ประกาศเมื่ออาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019
หมายเหตุ:
        เพื่อการเริ่มต้นมหาพรตอย่างดี ให้มีความหมายถึงการเดินทางไม้กางเขนกับพระเยซูเจ้าด้วยการทำพลีกรรมใช้โทษบาป เปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อเฉลิมฉลองปัสกา จะทำให้มีสันติสุขกับพระคริสตเจ้าอย่างแท้จริงในวันสมโภชปัสกาปีนี้ จึงเชิญชวนเพื่อนี้ทุกท่านได้เตรียมจิตใจอย่างดี และเอาจริงเอาจังกับ 40 วัน เพื่อการฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม การประกาศข่าวดีในประเทศไทย และการเริ่มงานโรงพยาบาล 120 ปี การศึกษาของโรงเรียนและชุมชนความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์กว่า 60 ปีที่ผ่านพ้นมา ขอพระเป็นเจ้าผ่านการดำเนินชีวิตที่นำพระวาจาคือข่าวดีไปมอบให้กับเพื่อนพี่น้องที่ยังเหินห่างจากพระองค์ “กลับใจและเชื่อพระวรสาร”





"พระอานุภาพของถ้อยคำเพียงหนึ่งคำที่เปี่ยมด้วยรักและห่วงใย"
 
"เตาเผาย่อมพิสูจน์ภาชนะดินเผาของช่างหม้อฉันใด  การสนทนาย่อมพิสูจน์นิสัยของมนุษย์ฉันนั้น  ผลไม้ย่อมแสดงว่าชาวสวนดูแลต้นไม้ดีหรือไม่ดี  วาจาย่อมเปิดเผยใจของมนุษย์ว่าดีหรือไม่ดีด้วย" (บสร 27:5-6)
          "คำพูดคำหนึ่ง มีค่ามากกว่าทอง"  เราไม่อาจรู้เลยว่า คำพูดจากปากของเราสักคำหนึ่งนั้น จะส่งผลต่อพี่น้อง ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรร่วมทางรอบกายเรามากมายสักเพียงใด ทั้งในด้านดีส่งเสริมให้เติบใหญ่กล้าแกร่งพร้อมเผชิญโลก หรือจะในด้านร้ายทำลายล้างหมดแรงและมอดไหม้.
          20 ปีมาแล้ว  คำพูดของบิดาพ่อยังดังก้องในชีวิตเสมอมา ในวันที่ขับมอเตอร์ไซค์ส่งเพื่อนั่งรถกลับบ้านเณร ด้วยเป็นห่วงหวังให้มั่นคงในชีวิตกระแสเรียก. บิดาพ่อพูดว่า "ลูกเอ๋ย เห็นไหมชีวิตครอบครัว พี่ๆลำบาก อยู่บ้านเณรดีแล้วไปเถอะ"
"ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย.....ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด ท่านจะเห็นชัด แล้วจึงค่อยไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง.....คนดีย่อมนำสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ส่วนคนเลวย่อมนำสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา" (เทียบ ลก 6:41-42,45)
          แม้จะเป็นคำแนะนำที่ทำให้เห็นว่าอาจจะเข้าใจกระแสเรียกการเป็นนักบวชเป็นพระสงฆ์ได้ไม่ครบนัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความรักความห่วงใยที่มีอยู่เต็มหัวใจเท่าที่จะให้ลูกที่ตนรักได้  คิดเอาเองว่าคำพูดเพียงสองสามประโยคนี้ เป็นพลังหนุนนำมหาศาลโดยไม่รู้ตัว เป็นพลังสำหรับความกล้าแกร่งกล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กับความรับผิดชอบ กับโลกกว้าง
          "ปาก" และ "อวัยวะทุกส่วน" นับเป็นพระพรของพระ  "คำพูด" และ "ความสามารถทุกเรื่อง" นับเป็นพระหรรษทาน เป็นของประทานที่พระมอบให้เรา  เราจงนำไปใช้ นำไปมอบให้แก่กันเพื่อพระนามของพระจะได้รับคำสรรเสริญ เพื่อเราจะเสริมสร้างหนุนนำให้กำลังใจกัน เพื่อพี่น้องลูกหลาน ญาติมิตร จะมีกำลังใจและเติบใหญ่  เราจะใช้พระพรของพระเพื่อลดทอนชีวิตที่ไม่ดีงามของตน และมีแต่เสริมสร้างแบ่งปันกัน
"เมื่อ​ร่างกาย​ที่​เน่า​เปื่อย​นี้​จะ​สวม​ใส่​ความ​ไม่​เน่า​เปื่อย และ​เมื่อ​ร่างกาย​ที่​ต้อง​ตาย​นี้​จะ​สวม​ใส่​ความ​ไม่​รู้จัก​ตาย​แล้ว ก็​จะเป็นจริงตามคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ความตายถูกชัยชนะกลืน  ความตายเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ไหน ความตายเอ๋ย พิษของเจ้าอยู่ไหน.....  ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะให้เราเดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา"  (1คร 15:54-55,57)
          เป็นดังคำแนะนำของนักบุญเปาโล เมื่อเราใช้ร่างกายทุกส่วนของเรา เมื่อเรานำพระพรของพระแบ่งปัน ดูแล หนุนนำกำลังใจ และเสริมสร้างแก่กัน เรากำลังสวมใส่ความไม่เน่าเปื่อย เรากำลังสวมใส่พระเยซูเจ้าในชีวิต  ชีวิตของเราจึงเต็มไปด้วยพระพร เต็มไปด้วยชัยชนะของพระเยซู-ชัยชนะต่อบาป  ชีวิตของเรา คนในครอบครัว รวมทั้งพี่น้องรอบข้างจะเต็มไปด้วยพระพรและสันติสุขของพระ
          และนี่แหละ... คือ "พระอานุภาพของถ้อยคำเพียงหนึ่งคำที่เปี่ยมด้วยรักและห่วงใย"

นกขุนทอง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น