สารวัดวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม2019
สัปดาห์ที่สามในเทศกาลมหาพรต
พี่น้องที่รัก...
เป็นสัปดาห์ที่สาม พระวรสารพูดถึงต้นมะเดื่อ
ปลูกมาสามปีแล้วยังไม่มีผล จงโค่นมันทิ้งเสีย
มหาพรตเริ่มเดินทางมาถึงหลักหมุดไม้กางเขนเป็นสัปดาห์ที่สาม
หากพระวาจายังไม่บังเกิดผลในตัวเองต้องรีบทำอะไรบ้างแล้ว
ก่อนที่พระองค์จะโค่นเราทิ้งเสีย
พยศชั่วที่ทำให้ชีวิตของเรายังวนเวียนเรื่องเก่าๆที่เสียวิญญาณและพระพรของพระเจ้า
จงตัดกิ่งที่ไม่เกิดดอกออกผลเสีย
หมั่นรดน้ำพระวาจาทรงชีวิตและคลุกเคล้าด้วยอาหารอันศักดิ์สิทธิ์
ศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ยังมีอนาคตและเต็มไปด้วยความหวังว่ามันจะเกิดผลออกมา
และเป็นผลที่พระเจ้าต้องการ
ขอชื่นชมบรรดากลุ่ม
คณะทำงานของวัดและองค์กรต่างๆ ได้ออกมาพบปะพี่น้อง ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องใหม่
ก็ขอให้เป็นขอบฟ้าใหม่ที่พร้อมจะทำให้ชุมชนแห่งความเชื่อของวัดเซนต์หลุยส์มีชีวิตชีวา
หากเปรียบเทียบองค์กรของภาครัฐ
ยังต้องให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่นั่งในสำนักงานเพื่อไปหาชาวบ้าน
เสนอความช่วยเหลือและบอกเล่าการทำงานให้ถึงปากถึงท้องถึงกับเคาะประตูบ้าน
ส่วนภาคเอกชนนั้นเดินหน้าเต็มพิกัดเพื่อทำอย่างไรให้ทุกคนได้เข้ามาในวงจรธุรกิจการค้าขาย
ขายตรง ขายอ้อม ขายผ่อน ขายประกัน ขายเชื่อ แม้แต่ยังขายด้วยระบบออนไลน์
สามารถติดต่อกันได้ตลอดวันตลอดคืน
การทำให้สัตบุรุษหรือเพื่อนพี่น้องของเรา
ต้องมีขอบฟ้าใหม่
ยิ่งลูกค้ามีน้อยต้องกล้าประชิดตัวและมีวิธีการใหม่ให้ลูกค้าสนใจและติดใจ
อย่าเป็นเพียงแค่ save zone รอดไปวันๆ
ถึงแม้ชีวิตความศรัทธาไม่ใช่ธุรกิจการค้าและตีคุณค่าของความเชื่อเป็นสินค้ากับลูกค้า
แต่เมื่อเส้นทางมันคู่ขนานกันไป มองเขามองเรา และแข่งขันกันให้ไปถึงเป้าหมาย
คงไม่ใช่ไปด้วยกันไปไม่ได้ ชีวิตคนมีทั้งร่างกายและวิญญาณ เรื่องปากท้องและจิตใจ
จึงต้องอาศัยเดินทางไปด้วยกัน ผ่านทางไม้กางเขน cross พบกับ
พระสิริโรจน์ crown ฉันใดชีวิตที่ประสบความสำเร็จ success
ต้องมี passion เช่นเดียวกัน
มี cross และ
passion ในเวลามหาพรตสำหรับผู้ที่ปรารถนา crown และ successคือการเดินทางไม้กางเขนหรือเดินรูปสิบสี่ภาค
เป็นการเดินทางที่พระพรและทำให้เราไตร่ตรองถึงชีวิตในเวลาพิเศษนี้ได้อย่างดี
ในวันธรรมดาก็เป็นวันศุกร์ เวลา 18.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 09.30 และ 17.00
น.นอกจากนี้สรรหาหนังสือดีดี มากำกับตัวเราให้มุ่งมั่นไปข้างหน้าเพื่อ
อยู่ในหนทางมหาพรตสู่ปัสกาอย่างมีความสุขใจ การรับศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างใส่ใจ
จะทำให้เข้าใจถึง การแก้บาปและรับศีลมหาสนิทในกำหนดปัสกาอย่างมีความหมายในชีวิต
ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 5 เมษายน เวลา
17.00 น.จนถึงเย็นวันเสาร์ที่ 6 เมษายน เวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า
“อาศัยพระคริสตเจ้า พร้อมกับพระคริสตเจ้า และในพระคริสตเจ้า”ตื่นเฝ้า ณ
วัดพระจิตเจ้า รพ.เซนต์หลุยส์ ใช้เวลาเพื่อ “อยู่ที่นี่กับพระอาจารย์”
เพื่อเข้าเงียบสร้างพลับพลาใจให้กับพระเยซูเจ้า
แต่ละชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์มีเพื่อนพี่น้องสามารถเปลี่ยนเวรยามเฝ้าศีลแบบส่วนตัวและเพื่อนหมู่คณะ
แต่จะไม่มีพิธีกรหรือการส่งเสียงรบกวนใด
นอกจากนี้มีโปรดศีลอภัยบาปโดยสงฆ์แห่งเมตตาธรรมในคืนวันศุกร์ต้นเดือนที่วัดเซนต์หลุยส์
ตั้งแต่เวลา 19.00 จนถึง 21.00 น. พี่น้องสามารถเชิญชวนเพื่อนพี่น้องที่ห่างเหินไป
นำพามาเพื่อการคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักรในมหาพรตและปัสกาปีนี้
จะทำให้เราปฏิบัติกิจเมตตาทั้งฝ่ายการและจิตใจอย่างดี
ขอให้ทุกคนมีพลังใจ
เพื่อการเดินทางมหาพรตอย่างมุ่งมั่นต่อไป
คุณพ่อชาญชัย
ทิวไผ่งาม
"ชวนมากลับใจเปลี่ยนชีวิตตน
ชวนมาเป็นฮีโร่กัน"
พระเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า
ท่านต้องบอกชาวอิสราเอลดังนี้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค
และพระเจ้าของยาโคบ ทรงส่งข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย นามนี้จะเป็นนามของเราตลอดไป
ชนรุ่นต่อๆ ไปจะต้องเรียกเราด้วยนามนี้” (อพย 3:15)
"ฮีโร่"
คำนี้เราทุกคนฟังแล้วเข้าใจดี ว่าคืออะไร. แม้หลายครั้งเราจะรับรู้เข้าใจมากจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์
เรารู้ดีว่า "ฮีโร่" มักจะมาจากเรื่องราวที่ผู้คนจินตนาการ. และเรายังเข้าใจดีว่า
แม้เราจะจินตนาการให้โอเวอร์เกินพ้นไปจากความจริงไปมาก
หากแต่เราก็ยอมรับด้วยใจจริงว่า "ฮีโร่ตัวจริงในชีวิตจริง"
ก็มีอยู่จริงในชีวิตของเรา. เราแต่ละคนต่างก็มี "ฮีโร่"
ประจำชีวิตตนเอง. เราก็ยกย่องพวกเขาเหล่า "ฮีโร่...ของฉัน"
ครั้งหนึ่ง
รุ่นพี่คนหนึ่งกับความใจกว้างที่มอบให้
ก็กลายเป็นเรื่องราวเป็นบุคคลที่ประทับใจตัวพ่อเอง ในวันนั้นในวัย 10 ขวบ.
ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ใจกว้างเรื่องเล็กน้อย ก็กลายเป็น "ฮีโร่"
ในใจของน้องแล้ว. หรือเมื่อฟังเรื่องราวความรักความอดทนของพ่อตนเอง ประกอบกับได้เห็นความรักความขยันอดทนของท่านในทุกวัน.
ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักและอดทนทีละน้อยทีละวัน ก็กลายเป็น "ฮีโร่"
ในใจของลูกแล้ว.
"จิตใจข้าพเจ้าเอ๋ย
จงถวายพระพรแด่พระเจ้าเถิด จงอย่าลืมพระคุณต่างๆ
ที่พระองค์ประทานให้
พระองค์ประทานอภัยความผิดทั้งหลายของท่าน
ทรงรักษาโรคภัยทั้งหมดของท่าน
ทรงช่วยชีวิตท่านให้พ้นจากเหวลึก
ประทานความรักมั่นคงและพระเมตตาเป็นดังมงกุฎแก่ท่าน" (สดด
103:2-4)
พระเจ้าปรารถนาและเรียกร้องเราให้
"กลับใจ-เปลี่ยนชีวิตของตน"
อาจจะมีคำถามว่า "แล้วเราจะต้องปรับเปลี่ยนไปสิ้นสุดที่ตรงไหน" หากจะตอบว่าเอาแค่ "เป็นฮีโร่ให้ได้"
เราจะไหวไหมใจเราจะสู้และกล้ากลับใจเปลี่ยนชีวิตของตนไหม.
"ฮีโร่" แท้จริงแล้ว
เราไม่จำเป็นต้องทำเรื่องราวใหญ่โตอะไรมากมาย แค่ใจกว้างในเรื่องเล็กน้อย
หรือ แค่มอบความรักและอดทนทีละน้อยทีละวัน
ก็กลายเป็น "ฮีโร่" ในใจใครหลายคนแล้ว เป็นต้นคนใกล้ตัว คนในครอบครัว.
“ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ
จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้..... แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ..... มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” (เทียบ ลก
13:2,4-5)
สัปดาห์นี้ ไม่ขอชวนให้เราแค่คิดทบทวนย้อนหลังว่าเราเป็นคนบาป
เราทำผิดพลาดทำบาปเรื่องใดมาบ้างเท่านั้น. แต่ขอชวนเชิญให้เราหันมาดูแลกันและกัน
มอบกิจการความรัก มอบความใจกว้าง
มอบความอดทนที่จะรักและอภัยกันทีละครั้งและต่อเนื่องให้แก่กัน.
สัปดาห์นี้เชิญชวนเรา มาร่วมเตรียมชีวิต
มาร่วมแบกกางเขนกับพระเยซูเจ้า ด้วยการพยายามทำตนเองให้เป็น "ฮีโร่"
ทีละน้อย ทีละครั้ง ทีละวันกันครับ.
นกขุนทอง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น