สารวัดวันอาทิตย์ที่
10 มีนาคม2019
สัปดาห์ที่หนึ่งเทศกาลมหาพรต
พี่น้องที่รัก...
มหาพรตเริ่มแล้ว
ผู้ใดที่ยังไม่ได้รับการโปรยเถ้า
สามารถเดินออกมารับหลังจากมิสซาซาจบแล้วในแต่ละรอบได้ พระสงฆ์จะโปรยเถ้าเหนือศีรษะและเตือนใจเราให้เริ่มต้นมหาพรต
ด้วยการกลับใจและเชื่อพระวาจาของพระเจ้าเถิด
กายมาจากดินก็จะกลับไปเป็นดิน เมื่อมาจากพระเจ้าก็จะกลับไปหาพระเจ้า
ต้องขอภัยพี่น้องที่ไม่ได้รับสารวัดทั้งสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
เพราะหมดลงอย่างเด็ดขาดในมิสซารอบตั้งแต่เที่ยง
เพราะทุกคนอยากเอาตารางเวลาไปติดไว้ที่บ้านเพื่อเตือนความจำ สารวัดฉบับนี้จึงขอย้ำซ้ำอีกครั้ง
“ทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรต
จะมีเดินรูปสิบสี่ภาคหลังมิสซา 17.30 น.จบแล้ว และเดินรูปภาคภาษาจีนจะมีสัตบุรุษก่อสวดเวลา
14.00 น.ทุกวันศุกร์ในวัดเช่นเดียวกันการเดินรูปในวันอาทิตย์ เวลา 09.15 น.
และเวลา 17.00 น.ทุกวันอาทิตย์(เว้นวันอาทิตย์ใบลาน)
เดินรูปส่งท้ายในเทศกาลมหาพรตคือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ 19 เมษายน เวลา
18.30 น.ก่อนพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันศุกร์ที่
5 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึงวันเสาร์ที่ 6 เมษายนเวลา 17.00 น. เป็นเวลา 24
ชั่วโมงเพื่อพระคริสตเจ้า มีพิธีตื่นเฝ้า(ศีลมหาสนิท)ที่วัดพระจิตเจ้าของโรงพยาบาล
และโปรดศีลอภัยบาปในคืนวันศุกร์ตั้งเวลา 19.00 น.จนถึงเวลา 21.00
น.ที่วัดเซนต์หลุยส์
ในคืนวันศุกร์ที่
5
จะมีโปรดศีลอภัยบาปด้วยการทำวจนพิธีกรรมพิจารณาบาปรวมด้วยกันและรับศีลอภัยบาปที่ละคนจากพระสงฆ์เมตตาธรรม ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.
ค่ำคืนดังกล่าวจะมีการสอนถักใบลานเพื่อนำไปใช้ในวันอาทิตย์ใบลาน
วันอาทิตย์ใบลาน
ตรงกับวันที่ 14 เมษายน 2019มิสซารอบ 08.00
น.เสกใบลานหน้าโถงศาลา
หลุยส์มารีย์ของวัด(มีบริการใบลานฟรีแบบไม่ถัก)และบ้านผู้สูงอายุนำใบลานถักสวยงามมาจัดจำหน่ายเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับผู้สูงอายุของบ้านลำไทร
ทางวัดต้นหมากเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่บ้าน
มีใบลานทั้งแจกและจำหน่ายด้วยฝีมือจากผู้สูงอายุบ้านลำไทร
นำมาเพื่อหารายได้ช่วยเหลือบ้านผู้สูงอายุ
ใครชอบแบบไหนตามความสมัครใจ
เฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์และเสาร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
พิธีรอบเดียวเวลา 19.00 น.
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์18
เมษายนมิสซาอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและมีเฝ้าศีลที่วัด
พระจิตเจ้าของโรงพยาบาล จนถึงเวลา 23.00 น.
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
19 เมษายนพิธีนมัสการไม้กางเขน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
20 เมษายน พิธีเสกไฟ เทียนปัสกา น้ำศักดิ์สิทธิ์ และล้างบาปผู้ใหญ่เตรียมตัว
เป็นคริสตชน(พิธีเสกไฟเริ่มต้นที่หน้าศาลาหลุยส์มารีย์ของวัด)
ตลอดเทศกาลมหาพรต
ให้พี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ได้แบ่งปันน้ำใจด้วยปัจจัยใส่ซองมหาพรตอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อช่วยผู้ยากไร้”
ขอให้ทุกท่านได้ร่วมเดินทางมหาพรตและเตรียมพร้อมสำหรับการฉลองปัสกาประจำปี
พ่อเจ้าวัดเซนต์หลุยส์
"มหาพรต คือ
ช่วงที่ควรมองดูความรักของพระมากที่สุด"
ชาวอียิปต์ทำร้ายพวกเรา
ข่มเหงเราและบังคับให้เราเป็นทาสอย่างทารุณ 7
แต่เราร้องเรียกหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา
พระยาห์เวห์ทรงฟัง ทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ทรมาน ความยากลำบากและการถูกกดขี่ของเรา 8
พระยาห์เวห์ทรงใช้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์และพระอานุภาพยิ่งใหญ่ทำเครื่องหมายอัศจรรย์และปาฏิหาริย์น่าสะพรึงกลัว
ช่วยเราออกจากอียิปต์ 9 และทรงนำเรามาที่นี่
ประทานแผ่นดินมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลอย่างอุดมสมบูรณ์นี้ให้แก่เรา ..... แล้วท่านจะวางกระจาดลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
พระเจ้าของท่าน และกราบนมัสการเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
พระเจ้าของท่าน (ฉธบ 26:4-10)
เหตุผลเดียวที่ชาวอิสราเอล
กล้ายอมวางทุกสิ่ง แล้วมอบชีวิตทั้งหมดนมัสการวางไว้กับพระหัตถ์พระเจ้า คือ
พวกเขาได้มองดู ทบทวนไตร่ตรอง
พวกเขาได้เห็นพระเมตตารักของพระที่มีต่อเขามีมาเสมอไม่เคยหยุดหรือขาดหายเลย
เพราะถ้าท่านประกาศด้วยปากว่า
พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และมีความเชื่อในใจว่า
พระเจ้าทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย ท่านก็จะรอดพ้น การเชื่อด้วยใจจะบันดาลความชอบธรรม การประกาศด้วยปากจะบันดาลความรอดพ้น.....เพราะทุกคนที่เรียกขานพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะรอดพ้น (เทียบ รม 10:10,9,13)
เราจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
"ความรอดพ้น สันติสุขในชีวิต" ของชาวอิสราเอลนั้น
พวกเขาไม่ได้มาด้วยพละกำลังหรือว่าความสามารถของตนเอง หรือพวกพ้องเลย
พวกเขาได้รับพระพร
สันติสุขและความรอดพ้นก็เพราะ พวกเขาได้พบกับพระเจ้า
ได้รับรู้ว่าพระเจ้าจะทรงรักเขาไม่เสื่อมคลายและจะปกป้องพวกเขา
ที่สุดพวกเขามอบความเชื่อไว้กับพระองค์ "เพราะทุกคนที่เรียกขานพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะรอดพ้น" (รม 10:13)
ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต
อาจเปรียบได้กับช่วงเวลาความทุกข์ยาก 40 ปีที่ชาวอิสราเอลเผชิญในถิ่นทุรกันดาร
หรือเป็นช่วงเวลาที่เขาเผชิญหน้ากับความทุกข์ที่ถูกตีถูกทำร้าย
"พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ..... เมื่อปีศาจผจญพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม" (ลก 4:1,13)
ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต
เราสามารถมองดูไปพร้อมกับ "ช่วงเวลา 40 วัน
ในถิ่นกันดารที่พระเยซูเจ้าเผชิญ" พระองค์เอาชนะการประจญที่ต้องเผชิญ ได้ด้วย
ความเชื่อและวางชีวิตทั้งหมดไว้กับพระบิดา โดยยอมให้พระจิตเจ้านำทางนำชีวิตของตน
ช่วงเวลา 40 วัน ในช่วงมหาพรต
นับเป็นการชิมลางความทุกข์ทรมานมากมายในชีวิตที่เราแต่ละคนได้เผชิญในชีวิตจริงของตนเอง เราก็จะได้รับพระพร พระเมตาเช่นเดียวกัน
"พระเมตตารัก และความเชื่อที่เรามีต่อพระองค์" ดังนั้น "40 วัน ในมหาพรต คือช่วงที่ควรมองดู
ความรักของพระมากที่สุด".
นกขุนทอง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น