วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สารวัดวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2016

พี่น้องที่รัก
           
            ความสุขเที่ยงแท้
            ครั้งหนึ่งผู้คงแก่เรียนเคยกล่าวเกี่ยวกับความสุขเอาไว้ว่า คนทั่ว ๆ ไปมักคิดว่าความสุขเกิดขึ้นจากความโชคดี ในความหมายที่ว่าจู่ ๆ ก็มีบางสิ่งบางอย่างดี ๆ เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับในท่ามกลางฤดูร้อนแต่แล้วอากาศก็ผันแปรเป็นอากาศเย็นสบาย ถือว่าเป็นโชคดีเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่หนทางที่ได้มาซึ่งความสุข เพราะความสุขเป็นผลที่สืบเนื่องจากความพยายามสุดกำลังของบุคคล เราต้องต่อสู้เพื่อจะได้มา เราต้องออกแรงพยายามเพื่อจะได้มา เราต้องยืนหยัดเพื่อจะได้มา และบางทีเราอาจต้องออกเดินทางไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อแสวงหา เราต้องลงไปคลุกคลีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในความพากเพียรบนพรพิเศษที่เรามี และเมื่อเราบรรลุถึงสถานะแห่งความสุขแล้ว เราต้องไม่ละเลยในการดำรงรักษาเอาไว้ เราต้องพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะว่ายอยู่เหนือกระแสแห่งความสุขนั้นตลอดเวลา  เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจสูญเสียความสุขนั้นไป
            เป็นการง่ายที่เราจะคุกเข่าลงสวดภาวนาในยามที่เราเผชิญกับความทุกข์ใจ แต่การสวดภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอแม้ในยามที่วิกฤติในชีวิตนั้นผ่านพ้นไปแล้ว ถือว่าเป็นเคล็ดลับของการช่วยให้วิญญาณของเราผสานแน่นกับความสุขเที่ยงแท้ที่ยั่งยืนอยู่เสมอไป

พ่อสุพจน์
.......................................................................... 
สวัสดีพี่น้องที่รัก
ศิษย์ของพระเยซูเจ้าต้องอุทิศตนโดยไม่มีเงื่อนไข ฟังเสียง ดูแสงมากมาย จนอาจลืมฟังเสียงพระองค์ พระวาจาของพระเป็นพลังและความอ่อนหวานการเรียกของพระ เรียกเราให้ออกจากบ้าน จากครอบครัว จากพี่น้อง จากแผ่นดิน จากสิ่งที่เรายึดติด แล้วจะไปไหน ในเมื่อพระองค์ตรัสว่า สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ”  พระวาจานี้ท้าทายมาก การจะละจากทุกสิ่งเพื่อไปติดตามพระองค์ ผู้ตรัสว่า พระองค์ไม่มีที่จะวางศีรษะความหมายตรงนี้ลึกซึ้งมาก แล้วเราจะทิ้งบ้านของเราไปติดตามคนไร้บ้านอย่างเช่นพระองค์ เรียกว่า นกยังมีรัง สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง แต่พระองค์ไม่มีเปรียบเสมือนความรักของหนุ่มสาวในสมัยก่อน ถ้ารักมาก รักกันจริง ๆ และนี่คือหลักการ พร้อมจะก้าวเดิน ร่วมชีวิต ไปด้วยกัน ไม่ว่ายามสุข หรือยามทุกข์ ยามมีหรือยามไม่มี เวลาป่วยหรือเวลาสบาย เพราะขอให้เป็นของกันและกัน เพียงมีกันและกันในตอนเด็ก เราได้เห็น ได้ดูละคร ได้เห็นชีวิต คนสองคนรักกัน แม้น้ำขวางหน้าแม้ฟ้าขวางกัน ทั้งสองก็ไปพบกันจนได้ ถ้าต้องหนีตามกันไปตายเอาดาบหน้า หนุ่มสาวก็พร้อมจะออกไป พร้อมจะก้าวออกไป หนีตามกันไป เพราะเขาทั้งสองมีกันและกัน เป็นของกันและกันเท่านั้นพอ ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ความรักทำให้คนเราพร้อมจะก้าวไปด้วยกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีหรือจน หรือไม่มีอะไรเลย จะอดตายแค่ไหน ขอให้เรามีกันและกัน เป็นของกันและกัน นี่คือความรัก ความรักแบบนี้ โง่ในสายตาของคนมากมาย จนได้ชื่อว่า ตาบอดแต่หามิได้ เขามิได้ตาบอด แต่เขารักกันจริงๆ เขาพร้อมจะออกจากความปลอดภัยทุกอย่าง ออกจากความมีทุกอย่างเพื่อไปมีกันและกันที่เป็นบุคคลสองคนกลายเป็นคนเดียวเพราะความรัก คนรักเป็นของเขา เขาเป็นของคนรัก
พระเจ้าที่เรียกเราทุกคน ไม่ใช่เพียงพระสงฆ์ นักบวช ไม่ใช่ครับ แต่ทุกคน คริสตชนทุกคนได้รับเรียกให้มาติดตามพระคริสตเจ้าในฐานะที่แตกต่างกัน เพราะพระเยซูเจ้าก็เกิดมาในครอบครัวพระองค์ไม่ได้เสด็จลงมาจากฟ้าแบบไร้ครอบครัวและญาติมิตร การได้รับฟัง ได้รัก ได้ติดตามพระคริสตเจ้า เป็นช่องทางกระแสเรียกที่เราเดินไป จงเลือกพระองค์ อย่ากังวลกับสิ่งใด ออกไปตามพระองค์ ออกจากตัวเองออกจากความเป็นตัวตนของเรา และทรงทำให้พระองค์ซึ่งยิ่งใหญ่กว่ามากมายในชีวิตของตน  ยอมหลอมตัวเราให้เป็นเหมือนพระองค์ กระแสเรียกคือการตอบรับความรักของพระเจ้าในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนอย่างดี เพราะงานของพระมีมากมายดุจดังข้าวที่จะเกี่ยวมีมากมายแต่คนงานมีน้อย ดังนั้นจงวิงวอนขอให้มีคนงานในนาของพระ ที่จะช่วยประกาศความรักและความรอด เราแต่ละคนล้วนเป็นศิษย์ของพระองค์ต่างต้องตระหนักในกระแสเรียกของตนเองและพร้อมที่จะติดตามพระองค์แบบไม่มีเงื่อนไข เพื่อให้งานของพระองค์เป็นไปตามพระประสงค์ ผู้ใดจับคันไถแล้วเหลียวหลัง ผู้นั้นไม่เหมาะสมกับอาณาจักรของพระเจ้า

พ่อพงษ์เกษม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น