พี่น้องที่รัก
ทำไมวันวันนี้จึงสำคัญนัก?
เพราะวันวันนี้
ไม่เหมือนวันอื่นทั่วๆไป
วันวันนี้จึงเป็นวันที่สำคัญ
วันวันนี้จะเป็นโอกาสที่เราเลือกทางชีวิตให้แตกต่างไปจากชีวิตเดิมๆ
รวมถึงความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะยิ้มให้กับทุกคน แทนที่จะทำหน้าบึ้ง
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะใจกว้าง แทนที่จะใจแคบกับคนอื่น
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะอุ้มชู แทนที่จะปัดให้พ้นๆไป
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะยอมรับ แทนที่จะปฏิเสธ
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะมองหาความหวังสำหรับอนาคต
แทนที่จะจมปลักอยู่กับความอับเฉาของอดีต
วันวันนี้เรามีทางเลือกที่จะหัวเราะ หรือร้องไห้
เพราะทั้งการกระทำทั้งสองอย่างช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น
วันวันนี้เราจะมีเวลาที่จะมอบให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงครองจักรวาล
ในเวลานั้นท่านจงวอนขอในสิ่งที่ท่านปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือ หรือ
วอนขอเพื่อผู้อื่น หรือแม้แต่ใช้เวลาสงบๆอิงแอบแนบชิดกับพระองค์
ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของท่านเองที่จะเลือกหนทางไหน
วันวันนี้จึงสำคัญยิ่งนัก
จงเลือกทำในสิ่งที่จะทำให้วันวันนี้ของท่านมีค่า
และจงอย่าลืมว่า วันพรุ่งนี้ไม่ใช่วันวันนี้
พ่อสุพจน์
................................................................................................................................
สวัสดีพี่น้องที่รัก
การเป็นคริสตชนต้องยอมลำบาก ต้องแบกกางเขนแต่ความจริงแล้วกลับเป็นพระองค์ที่ยอมลำบากเพื่อร่วมทางกับเรา
กางเขนกลับเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เราได้กลับมาใกล้ชิดกับพระอีกครั้งหนึ่ง “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง
จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต
ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้”
ถ้าท่านตัดสินใจรักพระเยซูเจ้า ถ้าท่านตัดสินใจติดตามพระองค์ท่านต้องคิดถึงทางของพระท่านต้องละหนทางของท่านเพราะบนหนทางของพระเยซูคือเส้นทางแห่งกางเขน
เหมือนมีรักก็มักมีทุกข์ ในความรักแท้ต้องมีความเสียสละ ในความรักแท้ต้องร่วมใจในความทุกข์ยาก
ในความรักแท้ต้องยอมรับความเจ็บปวด ในความรักแท้ท่านต้องให้อภัยและเข้าใจ ในความรักแท้ท่านต้องซื่อสัตย์เสมอไป
ในความรักแท้ยอมได้แม้ต้องเสียชีวิตนั้นไป เมื่อมองย้อนกลับไปเราจะพบความจริงว่า ไม่ว่าเราจะตัดสินใจติดตามหรือแบกกางเขนของเราหรือไม่
พระองค์ได้อยู่ที่ปลายทางแห่งนั้นแล้วที่บนกางเขนได้แสดงให้เห็นถึงความรักแท้ที่พระเจ้าทรงรักเราก่อนและยอมรับได้ทุกสิ่ง
เพื่อช่วยเราให้ได้รับความรอดและกลับเป็นที่รักของพระองค์ตลอดนิรันดร
พระเยซูเจ้าสั่งให้ “เลิกนึกถึงตนเอง”“จงแบกไม้กางเขนของตน”“จงตามเรามา” กางเขนเป็นเครื่องหมายของความตาย การประหารชีวิตที่พระเยซูเจ้าได้รับ
การตัดสินใจแบกกางเขน คือ ต้องเลือกที่จะเดินตามพระฉบับแบบของพระเยซูเจ้า
ไม่ใช่การแบกกางเขนของพระองค์ แต่เป็นการแบกกางเขนของตน การติดตามพระเยซู “ศิษย์แต่ละคนต้องติดตามพระเยซูเจ้า โดยแบกกางเขนของแต่ละคนตามพระองค์ไป” เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าจริงๆ นั้น
จะต้องออกเดินทางติดตามพระเยซูเจ้าไปในหนทางของพระองค์
ไม่ใช่เดินไปในหนทางของตนเองหรือเรียกว่า “ทางใครทางมัน”
ไม่ได้แต่ต้องเดินในหนทางของพระเยซูเจ้า
สละชีวิตตนเอง จะได้ชีวิตของพระคริสตเจ้า
และนั่นคือชีวิตนิรันดร แต่ถ้าตามใจตนเอง ไม่ตามพระคริสตเจ้า
ไม่สละชีวิตตามใจพระองค์ เราจะเสียชีวิตหรือเสียพระประสงค์ของพระเจ้า “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร
แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา”
ถ้าเราจะได้ทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิต
มีประโยชน์อะไร
การติดตามพระองค์เท่านั้น
คือ “ชีวิต” พี่น้องถ้าอยากมีชีวิตจริงท่านต้อง “ติดตามพระองค์เป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้าเสมอ
อย่าพลาด อย่าไปตามกระแสโลกและกระแสสมบัติ พระวาจาวันนี้ช่วงเวลาของการทบทวนชีวิตความสัตย์ซื่อของเราต่อพระเจ้าว่า
เราแอบไปมีพระอื่นเป็นกิ๊กของเราบ้างไหม เราอาจจะบอกว่า ฉันยังมาวัด
ยังแก้บาปรับศีล แต่ฉันก็แอบมีพระอื่นเป็นกิ๊ก แม้กิ๊ก ไม่ใช่แฟน แต่ก็เอาเถอะ
และแฟนเราจะคิดอย่างไร หากเรามีกิ๊กมากมายมันจะดีหรือจงเลือกพระเจ้าของเราจะทุกข์บ้าง
ลำบากบ้าง เลือกพระองค์เถอะ เมื่อมีพระองค์ เราก็มีทุกอย่าง เสียอะไรก็เสียไป
เราจะไม่ยอมเสียพระองค์ใช่ไหมครับ พี่น้อง พระเจ้าคือพระพร
พระองค์คือชีวิตของเราใช่ไหมครับ เราจะทิ้งพระอื่น เราจะไม่มีกิ๊กมีกั๊กกันอีกต่อไป
พระเจ้าของเราแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีแล้ว พระแบงค์ พระไอโฟน
พระเกียรติยศ พระลาภยศ พระสรรเสริญ ทิ้งไปเถอะ ขอมีแต่พระบิดาของพระเยซูเจ้า พระบุตรที่ทรงไถ่บาปและพระจิตเจ้าองค์แห่งความรักชีวิตก็เป็นสุขแท้
พ่อพงษ์เกษม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น